ไปเยือน เกาะกระต่าย ญี่ปุ่น เกาะที่ทั้งน่ารักและน่าสะพรึง

...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมและ เฟซบุ๊ก Eak Summer Snow

เราเชื่อว่าคนรัก "กระต่าย" คงอยากไปเยือน "เกาะโอคุโนะชิมะ" หรือ "เกาะกระต่าย" ที่ประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นดั่งสวรรค์ของกระต่ายสักครั้งอย่างแน่นอน ก็แหม...บนเกาะแห่งนี้มีกระต่ายอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แถมนักท่องเที่ยวยังสามารถให้อาหารและเล่นกับพวกมันได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย (>_<) อ๊ะ ๆ แต่นอกจากความน่ารักของกระต่ายจำนวนมากมายที่ใช้ชีวิตบนเกาะอย่างชิล ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีเรื่องราวน่าสะพรึงแฝงไว้ด้วย -_- ดังนั้น วันนี้เราจะพาไปเยือนเกาะกระต่าย ณ ประเทศญี่ปุ่น ผ่านบันทึกการเดินทางของ คุณที่จุดหมาย ยังมีสายรุ้ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปเที่ยวแล้วถ่ายทอดออกมาให้เราได้ชมกันค่ะ

           สวัสดีครับ มาพบกับรีวิวตามใจฉันกันอีกแล้ว หายไปนานเลย อิอิ หลังจากที่ไปสิงอยู่ที่โอซาก้าจนเริ่มเบื่อคันไซแล้ว ก็เลยเริ่มมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแปลก ๆ ที่สามารถเดินทางแบบไปเช้า-เย็นกลับจากโอซาก้าได้ ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก (แน่นอนว่าต้องเดินทางอ้อม ๆหน่อย -*-) จนมาเจอที่นี่ครับ

           วันนี้ผมจะพาทุกคนไปติดเกาะกันครับ ซึ่งเกาะนี้ไม่ธรรมดา เพราะเป็นเกาะที่มีแต่กระต่ายน้อยน่ารักอยู่เต็มไปหมด เหมาะกับสาว ๆ หนุ่ม ๆ ผู้คลั่งไคล้กระต่ายเป็นอย่างยิ่ง เกาะนี้มีชื่อว่า เกาะโอคุโนะ หรือ โอคุโนะชิมะ เป็นเกาะที่อยู่ ในเมือง Takehara ที่จังหวัด Hiroshima ซึ่งตามประวัติแล้วเกาะนี้ถูกใช้เป็นแล็ปทดลองอาวุธเคมีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ดังนั้น เกาะนี้จะน่ารักหรือน่าสะพรึงกลัวกันแน่นะ เราต้องตามไปพิสูจน์...ลองติดตามชมกันนะครับ

           มีวิดีโอมาให้ชมกันเช่นเคยครับ เป็นตอนที่ 1 ของซีซั่น 2 แล้วครับ รายละเอียดบางอย่างจะอยู่ในวิดีโอนะครับ ตั้งใจทำมาก เสียเวลาตัดต่อไปเป็นวัน ฮ่าาาาา ลองเปิดดูกันได้ ^__^

           กดเบา ๆ แล้วปาดกระทู้ได้ตามสบายครับ

คลิป [Live in Japan II] Okunoshima โอคุโนะชิม่าเกาะกระต่ายน่ารักอันแสนสะพรึงในจังหวัดฮิโรชิม่า !!! โพสต์โดยคุณ Eak SummerSnow

ป.ล. เพราะว่าผมโดนยูทูบแบนเพราะไปคัพเวอร์เพลงมีลิขสิทธิ์เข้า จึงต้องหาเพลงที่ถูกลิขสิทธิ์มาใส่ในรายการ เพลงปิดตอนท้ายรายการเป็นเพลงของผม ส่วนเพลงญี่ปุ่นที่ประกอบในรายการในตอนนี้เป็นเพลงของเพื่อนผมเองครับชื่อเพลง "จูน" ร้องโดย เคย์โกะ ขอมาใช้ฟรีอย่างถูกต้อง ตามลิขสิทธิ์ (ฮ่า ๆ) ลองฟังกันดู และฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ (พูดเหมือนเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง -*-) ช่วยคอมเมนต์กันหน่อยนะครับ จะได้นำไปปรับปรุงการรีวิวครั้งต่อไป กด + กดแสดงอารมณ์ได้เป็นกำลังใจให้เขียนจบ และถ้าอยากติดตามรายการต๊อง ๆ ชมรายการตอนใหม่ ๆ ก็ติดตามได้ตามนี้ครับ ทั้งช่องในยูทูบแล้วก็เฟซบุ๊กครับ หรือจะรอดูในพันทิปก็ได้ครับ

            ช่องทางการติดต่อ ทางเฟซบุ๊กครับ เฟซบุ๊ก Eak Summer Snow

            รับข้อมูลตอนใหม่ทางยูทูบ Eak Summer Snow

           มาเริ่มจากวิธีการเดินทางกันเลยครับ

           อย่างที่บอกไปว่าผมตั้งต้นจากโอซาก้าโดยไม่มีบัตร JR Pass ด้วย ดังนั้น การเดินทางครั้งนี้จึงอ้อม ๆ ไปหน่อยนะครับ ซึ่งถ้าหากเพื่อน ๆ ออกเดินทางมาจากฮิโระชิมะมาจะใกล้กว่าครับ

การเดินทางผมเริ่มต้นที่โอซาก้า แล้วใช้บัตร Kansai WIDE Area Pass (ใช้ได้ 4 วัน 7,200 เยน) นั่งรถไฟชินคันเซ็นโนโซมิ (คนใช้ JR Pass ได้แต่มองตาปริบ ๆ เพราะนั่งไม่ได้ อิอิ) มาลงที่ "โอคายาม่า (Okayama)" ครับ

แล้วก็เดินเล่นรอที่โอคายาม่าสักพักหนึ่งก่อนจะนั่งรถไฟ JR จากโอคายาม่ามาลงที่ "มิฮาระ (Mihara)"

ที่บริเวณสถานีมิฮาระครับ สัญลักษณ์ของเมืองเป็นทาโกะ (หมึกยักษ์) ถ้ามีเวลาว่างก็เดินเล่นที่นี่ได้ครับ

หลังจากนั้นจากมิฮาระก็ต้องรอรถไฟสายอินดี้ "คุเรไลน์" ซึ่งจะมาชั่วโมงละสองขบวนครับ

ซึ่งสายคุเรไลน์นี่เป็นทางรถไฟสายโลคอล แต่วิวทิวทัศน์ระหว่างทางสวยมาก เพราะจะมองเห็นเกาะต่าง ๆ ของจังหวัดฮิโรชิม่าผ่านทางหน้าต่างรถไฟ ฟินสุด ๆ แถวรอบที่ผมไปคนคุมรถไฟสายนี้เป็นสาวน้อยตัวเล็ก ๆ น่ารักมากกกกก (จนอยากให้รถไฟมันวิ่งนาน ๆ นะครับ แหม) แถมทั้งขบวนก็ไม่ค่อยมีคนเลยอีกต่างหาก เอารูปวิวไปพอเนอะ ไม่ได้ถ่ายรูปพนักงานรถไฟเพราะนั่งกันอยู่สองคน คงจะดูหื่นมากถ้าไปไล่ถ่ายรูปเขาในระหว่างงาน ฮ่าาาาาาา

เราต้องนั่งรถไฟคุเรไลน์จากสถานี "มิฮาระ" มาลงที่นี่ครับ สถานี "ทาดาโนะอุมิ (Tadanoumi)" สถานีเล็กมากครับ แล้วก็อินดี้มาก ผมปั๊มบัตรรถไฟ IC Card (ผมใช้บัตรพาสโม) จากสถานีมิฮาระมา แต่พอจะออกที่นี่ตัวสถานีไม่มีประตูกั้นอัตโนมัติครับ อ้าว เฮ้ย ยืนงงเลย จะออกยังไงเนี่ย สรุปว่าถ้าใครซื้อบัตรเป็นตั๋วกระดาษมาต้องยื่นให้เจ้าหน้าที่ ส่วนใครปั๊มบัตรมาแบบผมต้องไปใช้เครื่องสแกนบัตรเอานะครับ นายสถานีเป็นลุงแก่ ๆ ที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ก็ช่วยเหลือเต็มที่ครับ (แถมตอนเที่ยงแกไปพักกินข้าวอีก สถานีว่างเปล่า ประตูกันก็ไม่มี เดินเข้า ๆ ออก ๆ กันได้อย่างสนุกสนาน -*-)

มีกระต่ายคอยโบกรถไฟอยู่ ไม่หลงแน่

ลงมาที่สถานี อ้าวงงเลย แล้วต้องเดินไปทางไหนต่อล่ะเนี่ย เดินกลับไปถามคุณลุงที่สถานีแกก็ชี้นิ้วให้เดินอ้อมไปทางด้านหลังสถานีนู้น ผมก็เดินมั่ว ๆ ไปก็เห็นป้ายท่าเรือเองต้องเดินข้ามรางรถไฟไปครับ

เดินไปถึงท่าเรือ อ้าว...งงอีกแล้ว ท่าเรือมันอยู่ตรงไหนฟระ ยังดีที่คุณป้าคนขายตั๋วพูดภาษาอังกฤษได้ แล้วมีคนญี่ปุ่นรอขึ้นเรือด้วยประมาณ 7-8 คน ก็เลยเดินมั่ว ๆ ตาม ๆ เขาไป แต่คนญี่ปุ่นเองก็งงไม่แพ้เรา ถ้าดูจากวิดีโอจะเห็นเลยว่ามาจอดรถกันผิดที่แล้วก็ต้องย้ายรถกันวุ่นวาย หวิดจะต่อยกันไปแล้ว (บรึ๊ยยยย)

บรรยากาศชิล ๆ ระหว่างรอเรือครับ ท่าเรือไม่มีป้ายบอกว่าให้รอตรงไหน หรือเรือที่มาจะไปไหนนะครับ ต้องมั่ว ๆ ไหลไปตามชาวญี่ปุ่น

เห็นเรือลำโตลิบ ๆ เอ๊ะนั่นใช่เรือของเราไหมนะ ?

ใช่จริง ๆ ด้วยครับ รอสักพักเรือก็มา (เรือจะมาชั่วโมงละ 2 ลำครับ) เรือจะมีแบบเรือเล็กกับเรือใหญ่ ถ้าโชคดีจะได้นั่งเรือใหญ่แบบนี้ครับ สามารถนำรถข้ามไปได้ด้วยความรู้สึกอลังการกว่าเรือเล็กเป็นไหน ๆ (แต่ขากลับผมดันได้กลับเรือเล็ก เหม็นควันมาก เซ็งสุด ๆ)

ระหว่างอยู่บนเรือยืนชมวิวอะไรไป (หนาวมาก -*-) จะเข้าไปข้างในก็ได้ แต่ผมเลือกยืนอยู่ข้างนอกครับ นาน ๆ จะได้มาที ชมวิวเกาะของฮิโระชิมะไปสักราว ๆ สิบกว่านาทีก็มาถึงแล้วครับ เกาะโอคุโนะ

ที่เห็นอยู่ลิบ ๆ นั่นแหละครับ เกาะกระต่าย เป้าหมายของเราในวันนี้

ทะเลฮิโระชิมะสวยกว่าทะเลที่คันโตเยอะเลยครับ

เทียบท่าแล้วครับ (อ่านมาถึงตรงนี้คงเริ่มมีคนบ่น เฮ้ย กระต่ายอยู่ไหนฟระ !!!) ใจเย็น ๆ นะคร้าบบบบบ

ลงเรือปุ๊บ กระต่ายวิ่งมาตอนรับทันทีครับ ราว ๆ 10-20 ตัวได้ สาว ๆ ญี่ปุ่นที่มาพร้อมกันกรี๊ดกร๊าดวิ่งเข้าไปเล่นกระต่ายทันที

ลงมาถึงจะมีรถของโรงแรมมารับครับ (ที่นี่มีโรงแรมอยู่แค่ที่เดียว จึงทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปในตัว) ถึงเราจะไม่ได้พักที่โรงแรมก็สามารถใช้รถฟรีได้ครับ (ซึ่งจริง ๆ มันก็เดินจากท่าเรือไปโรงแรมได้แหละ ไม่ไกลมาก -*-) จะเดินหรือจะนั่งรถก็เลือกเอานะครับ ผมเลือกนั่งรถไปก่อน เพื่อเป็นการสำรวจสถานที่ เดี๋ยวเดินไปแล้วหลงทางหลงป่า

คนขับอารมณ์ดีมากครับ ชวนคุยตลอด ผมก็เป็นตัวประหลาดเป็นต่างชาติอยู่คนเดียว ทั้งคนขับทั้งผู้ร่วมทางทั้งชวนคุยชวนร้องเพลงแล้วก็หัวเราะกัน ผมก็ไม่รู้เรื่องหรอก เห็นเขาหัวเราะก็หัวเราะด้วย (สกิลการมั่วส่วนตัว) ทั้งคันส่วนใหญ่ก็เป็นคนแก่ แล้วก็มีนักข่าวมาด้วยสองคนครับ ส่วนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่มาด้วยกันในเรือ เลือกจะเดินตามกระต่ายไปไม่ขึ้นรถ

คุณนักข่าวพยายามสัมภาษณ์ผม แต่พูดกันไม่รู้เรื่อง เพราะสกิลภาษาญี่ปุ่นของผมไม่แข็งแรงมาก คุณพิธีกรคนสวยบอกว่าพูดเป็นภาษาอังกฤษไปเลย เดี๋ยวให้คนไปแปลทีหลัง สรุปคือเขาสัมภาษณ์เป็นภาษาญี่ปุ่น ผมตอบเป็นภาษาอังกฤษ คงเป็นรายการที่มั่วพิลึก (มาญี่ปุ่นสองครั้งหลัง ได้ออกทีวีทั้งสองครั้ง รัศมีดาราจับสินะ ฮ่าาาาา) อันนี้คุณนักข่าวครับ ทำเอาผมเลิกสนใจกระต่ายไปพักหนึ่ง อะแฮ่ม ๆ

ลงรถมาปุ๊บกระต่ายวิ่งมารุมปั๊บ คราวนี้น่าจะเกือบ ๆ ร้อยตัวได้ครับ มีกระต่ายอยู่ทุกหนแห่ง แต่พอมันเห็นว่าเราไม่มีอาหาร เราก็จะหมดประโยชน์ต่อมัน น้องกระต่ายก็จะวิ่งกลับไปนอน กระเป๋าแบนแฟนทิ้งก็เป็นอย่างนี้แหล่ะนะ (ฮ่าาาา) ไม่ถนัดเรื่องพันธุ์กระต่ายครับ ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไรบ้าง

ผมเดินเล่นกับกระต่ายแถวหน้าโรงแรมสักพักก็ตัดสินใจเช่าจักรยานปั่นรอบเกาะ ก็เดินเข้าไปเช่าในโรงแรม พนักงานพูดอังกฤษไม่ได้เช่นเคย ก็มั่ว ๆ กันไป (ไม่ต้องตกใจนะครับว่าทำไมค่าเช่าแพง เขาจะเก็บค่ามัดจำด้วย 1,000 เยนครับ ตอนคืนจักรยานจะคืนให้)

คุณนักข่าวพยายามล่อกระต่ายมาเข้ากล้อง แต่กระต่ายพอกินเสร็จแล้วก็หนีครับ จนขนมหมดถุงแล้วก็ยังถ่ายทำไม่ได้ (ฮ่าาาา)

ขนมกระต่ายแพงกว่าอาหารที่ผมกินมาเมื่อเช้า แถมยังต้องปั่นจักรยานไปถ่ายวิดีโอไปมันก็เลยลำบากก็เลยไม่ได้ซื้อไป แต่แบบว่ากระต่ายที่นี่จะเคยชินกับเสียงจักรยานมาก ถ้ามีเสียงจักรยานจอดปุ๊บ มันจะวิ่งมารุมขออาหารทันทีครับ (รู้สึกผิดที่ไม่มีอาหารมาให้มัน)

ที่นี่มีกระต่ายทุกซอกทุกมุมของเกาะครับ เวลาปั่นจักรยานต้องระวังนะครับ มันชอบวิ่งลอดล้อ แต่เชื่องทุกตัวครับ จับได้ อุ้มได้

นอกจากกระต่ายแล้วมีอะไรอีกบ้าง ?

เกาะนี้มีทะเลที่สวยงามครับ แต่ไม่เห็นมีใครลงเล่นน้ำนะ อาจจะเพราะตอนที่ผมไปทั้งเกาะก็นักท่องเที่ยวอยู่แค่ 10 กว่าคน ถ้ารวมพนักงานโรงแรมที่ทำงานในเกาะรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งหมดแล้ว บนเกาะวันนี้มีมนุษย์อยู่แค่ราว ๆ 20 คนเองมั้งครับ ผมก็ไปเดินเล่นสำรวจเกาะอะไรไป ปั่นจักรยานบนเกาะ สูดกลิ่นทะเล เป็นอะไรที่ฟินครับ

แต่ทว่าเกาะนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสะพรึงซ่อนอยู่...จากที่บอกไปแล้วครับว่าโอคุโนชิมานี้เป็นเกาะที่ถูกใช้เป็นแล็ปทดลองอาวุธเคมีมาก่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังนั้น ที่นี่ก็จะมีเศษซากแห่งสงครามหลงเหลืออยู่ครับ

ผมปั่นไปเรื่อย ๆ จนเจอกันสิ่งนี้ เจนรู้สึกสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ขนเจนลุกเลยค่ะคุณแทค ขนาดกลางวันยังรู้สึกหลอน ๆ หวิว ๆ ถ้ามาพักที่โรงแรมแล้วออกมาตอนกลางคืนนี่จะขนาดไหนฟระเนี่ยยยยยย

ผมว่าหลอนไม่แพ้เกาะฮาชิมะที่โด่งดังเลยทีเดียวเชียว

จริง ๆ สามารถปั่นไปต่อเพื่อสำรวจเศษซากแห่งห้องแล็ปที่ซุกซ่อนอยู่ทั่วเกาะได้อีกครับ แต่เนื่องจากผมมาคนเดียวและไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย แถวทางมันยังเข้าป่าขึ้นเขา ผมจึงกลัวหลงป่า (เดี๋ยวดังในพันทิปเหมือนบุคคลในตำนาน เค้าล้อเล่น) ประกอบกับทางมันชันมากปั่นจักรยานไม่ไหวจนต้องจูงลงเดิน ผมจึงปั่นกลับไปทะเล นั่งชิลกับกระต่ายต่อดีกว่าครับ

ผมถามพนักงานที่โรงแรมว่ากระต่ายพวกนี้มันมาได้ยังไง เขาก็บอกว่ากระต่ายพวกนี้เป็นกระต่ายที่เคยใช้ทดลองสารเคมีในสมัยก่อน พอรัฐบาลญี่ปุ่นสั่งอพยพคนออกจากเกาะก็ได้ทิ้งพวกกระต่ายพวกนี้เอาไว้ กระต่ายจึงแพร่พันธุ์กันเองตามธรรมชาติ เพราะเกาะนี้ไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เป็นนักล่าอื่น ๆ อยู่เลย กระต่ายจึงขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วและครองเกาะในที่สุด แต่บางตัวก็อาจจะมีลักษณะพิกลพิการบ้าง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์ที่เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีหรือรังสีหรือไม่

อ้าว ! โปเตโต้ชิบหอยละสิครับ ถ้ามีอะไรตกค้างแล้วคนที่มาเที่ยวจะไม่ได้รับสารพิษอะไรเหรอ พนักงานก็บอกว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว รัฐบาลมีการตรวจระดับรังสีสารพิษตกค้างอะไรอย่างดี ก่อนจะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อืม..แน่นอก เอ้ย โล่งอกไปที