"อินทรี" ยำแซมบ้า 7-1 "โคลเซ" ทุบสถิติ

 

โคลเซ ยิงลูกที่ 16 สูงสุดในบอลโลก คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น มุลเลอร์ เบิกร่อง
โครส ขอสอง
แฟนบอลเจ้าบ้านถอดสีหน้า
ฮัล์ค ช่วยอะไรไม่ได้
แฟนอินทรีเหล็กเฮ
ช่วยซับน้ำตา
ขุนพลนักเตะ เยอรมนี โชว์ฟอร์มสุดยอดแบบไม่ไว้หน้าแฟนเจ้าบ้าน หลังจัดการยัดเยียดความปราชัยให้ บราซิล เจ้าภาพแบบยับเยิน 7-1 ตีตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลก เป็นทีมแรก ขณะที่ มิโรสลาฟ โคลเซ ทำลายสถิติของ โรนัลโด ยิงรอบสุดท้ายสูงสุด 16 ประตู
       
       ฟุตบอลโลก รอบรองชนะเลิศ
       บราซิล 1-7 เยอรมนี
       
       ศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบรองชนะเลิศ เกมที่ เอสตาดิโอ มิเนเรา บราซิล เจ้าภาพลงสนามเผชิญหน้ากับ เยอรมนี โดยวันนี้เจ้าบ้านใช้ เฟร็ด เป็นความหวังพังประตูหลังไม่มี เนย์มาร์ ดาวเตะคนสำคัญที่เจ็บหนักจนถอนตัวไปแล้ว ส่วน "อินทรีเหล็ก" ขนชุดใหญ่แถมใช้ มิโรสลาฟ โคลเซ ลงประสานงานกับ โธมัส มุลเลอร์ ลุ้นสถิติพังประตูสูงสุดใน เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย
       
       เริ่มครึ่งแรก เยอรมนี บุกได้น้ำได้เนื้อมากกว่าจนกระทั่ง นาที 10 ก็ทำช็อกเจ้าภาพ โทนี โครส เปิดบอลจากมุมธงไปที่ โธมัส มุลเลอร์ ยืนว่างๆแล้ววอลเลย์สวนให้ อินทรีเหล็ก นำ 1-0 ขณะที่ นาที 18 บราซิล เกือบได้จุดโทษหลัง มาร์เซโล โดน ฟิลิปป์ ลาห์ม เสียบแต่โดนบอล ผู้ตัดสินทำเฉยปล่อยเกมไหลต่อ
       
       บราซิล ยังตั้งเกมไม่ได้จน นาที 22 เยอรมนี บวกเพิ่ม 2-0 โทนี โครส ไหลให้ มิโรสลาฟ โคลเซ ยิงติดเซฟจังหวะแรก แต่ยังซ้ำเข้าไปได้ และก็เป็นประตูที่ 16 ทำลายสถิติยิงสูงสุดของ โรนัลโด เรียบร้อย เท่านั้นไม่พอ นาที 24 อินทรีเหล็ก กดเพิ่มเม็ดที่สามจากลูกอัดด้วยซ้ายของ โทนี โครส ให้ เยอรมนี นำ 3-0
       
       นาที 25 เจ้าภาพยังเจอฝันร้ายเมื่อแนวรับหละหลวมปล่อยให้ โทนี โครส เติมขึ้นมาเบิ้ลลูกที่สองส่งทีมทิ้งห่าง 4-0 เท่านั้นไม่พอ นาที 29 ทีมของ โจอาคิม เลิฟ สวนกลับแล้วจบที่ ซามี เคดิรา แปเน้นๆไม่เหลือซากเป็น 5-0 เล่นเอาแฟนบอล บราซิล ที่มาเชียร์เต็มสนามเริ่มถอดสีหน้า
       
       บราซิล พยายามบุกเพื่อตีไข่แตกเรียกความมั่นใจแต่ก็ยังทำไม่ได้ นาที 42 ดาวิด ลุยซ์ จ่ายให้ ออสการ์ ส่องด้วยขวาจังหวะดีที่สุดแต่ไปติดบล็อค จากนั้นยังไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก บราซิล ตามหลัง เยอรมนี ขาด 0-5
       
       กลับมาครึ่งหลัง นาที 51 บราซิล มีลุ้นพังประตูแรก ออสการ์ หลุดขึ้นไปส่องเหน่งๆหน้าประตูแต่ มานูเอล นอยเออร์ นายด่านทีมเยือนเซฟช่วยทีมได้ จากนั้น นาที 53 เปาลินโญ หลุดเดี่ยวขึ้นไปยิงเน้นแต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังไม่เผลอป้องกันไว้ได้อีกครั้ง
       
       เจ้าบ้านเริ่มเซตเกมขึ้นมาได้แต่จังหวะสุดท้ายไม่คม จนนาที 68 เยอรมนี กดอีก 6-0 จังหวะ ฟิลิปป์ ลาห์ม จ่ายยัดเข้ากลางให้ อังเดร ชูร์เล ตัวสำรองแปนิ่มๆ และทีมของ "โยกี เลิฟ" ก็ยังไม่หยุด นาที 79 โธมัส มุลเลอร์ ตวัดมาให้ อังเดร ชูร์เล ยิงด้วยซ้ายเช็ดคานส่ง อินทรีเหล็ก ทิ้งหาย 7-0
       
       แซมบ้า มาได้ประตูปลอบใจ นาที 89 ออสการ์ หลุดเดี่ยวแบบไม่ล้ำหน้าแล้วแปตีไข่แตกเข้าไป และก็เป็นฉากสุดท้าย จบเกม เยอรมนี บุกถล่ม "แซมบ้า" ยับเยินเละเทะ 7-1 ส่งให้ "อินทรีเหล็ก" กำตั๋วเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เป็นทีมแรก ก่อนไปลุ้นเจอผู้ชนะระหว่าง อาร์เจนตินา หรือ เนเธอร์แลนด์ส วันที่ 13 กรกฏาคมนี้ ส่วน บราซิล ต้องไปชิงที่ 3 วันที่ 12 กรกฏาคม
       
       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
       บราซิล - ชูลิโอ เซซาร์, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เซโล, ดานเต, ไมคอน, แฟร์นันดินโญ, ออสการ์, หลุยส์ กุสตาโว, เบอร์นาร์ด, เฟร็ด, ฮัล์ค
       เยอรมนี - มานูเอล นอยเออร์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส, มัตส์ ฮุมเมิลส์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, ซามี เคดิรา, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ, โธมัส มุลเลอร์