อิสรภาพใครๆก็รักแต่ทำผิดก็ต้องติดคุก เมื่อย้อยแย้งกันอย่างนี้มนุษย์บางจำพวกที่
ติดคุกติดตะรางเลยมีกลวิธีแหกลูกกรง ฝ่าดงกระสุน ข้ามกำแพงสูงท่วมหัว ในแบบ
ที่โลกต้องขอบันทึกเอาไว้ในฐานะการแหกคุกที่สุดจะมันส์เลย!!
...ตาลีบันดำดิน...
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2011 เกิดเหตุการณ์แหกคุกครั้งใหญ่ของโลกเลยก็ว่าได้ คุก ในเมืองกันดาฮาร์ อดีตเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ในสมัยปกครองโดยตาลีบัน มีเอาไว้ขังนักโทษตาลีบัน และในการโจมตีโดยกองกำลังกบฏในปี 2008 ก็ช่วยให้นักโทษเป็นไทได้ถึง 900 คน แต่ในปี 2011 คุกที่นั่นก็แน่นหนามากขึ้น อย่างน้อยก็แน่นพอจะไม่ให้ใครหนีไปได้ แต่มันก็ไม่จริง
เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาราวๆ ตีสี่ของวันที่ 25 เมษายน 2011หนึ่ง ในนักโทษตาลีบันที่คาดว่าคงเคยดู ไมเคิล สกอฟิลด์ มาก่อน ผลก็คืออุโมงค์ที่พวกเขาใช้หลบหนีออกไปทั้งหมดช่วยกัน ขุด ขุด ขุด เป็นระยะทาง 320 เมตร รอดหลบผ่านใต้หอตรวจการ กำแพง และลวดหนาม เหล่าคนคุกเริ่มแผนการก่อนเที่ยงคืน ก่อนที่อุโมงค์จะถูกพบตอนตี 4 โดยมีนักโทษตาลีบันหนีไปแล้ว 480 คน แต่การที่นักโทษคนสุดท้ายหนีออกไปก่อนที่ความจะแตกแค่ 30 นาที กับตลอดมา 5 เดือนที่ไม่มีผุ้คุมคนใดระแคะระคายแผนการ รวมทั้งนักโทษทั้งหมดที่อยู่ในห้องขังล๊อกแน่นหนา แต่กลับออกไปได้กันขนาดนี้เลยคาดว่าในที่คุมขังอาจจะมีเกลือเป็นหนอนนั่นเอง
พาสกัล เพเย็ต ติดคุกในข้อหาปล้น แล้วถูกส่งตัวไปอยู่คุกลุนส์ เมื่อปี 2001 หลังจากนั้น 2 ปี เขาก็หลบหนีไปได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่จี้มา แต่หลังจากหนีไปได้ร่วม 2 ปี เพเย็ตก็แสดงความรักเพื่อนด้วยวิถีแมนๆ เช่นบินหลับไปช่วยเพื่อนร่วมขบวนปล้นของเขาในคุกอีกครั้ง ก่อนจะถูกตามไปจับได้ในเวลาต่อมา คราวนี้เพเย็ตถูกจับขังเดี่ยว แต่ระหว่างการเปลี่ยนสถานคุมขังทุกๆ 6 เดือน เขาก็ยังมีแผน ในปี 2007 ชายสวมหน้ากาก 4 รายจี้เฮลิคอปเตอร์มาลงที่หลังคาคุกที่เพเย็ตถูกคุมขัง แล้วช่วยพาเขาหนีไปอีกแต่สุดท้ายก็โดนจับได้ในปีเดียวกันที่สเปน
...หนีคุกเถื่อนสุดชีวิต...
ภาพประกอบจากเรื่อง Rescue Dawn
ไดเตอร์ เดงเลอร์ กับ ดอน มาร์ติน ตัดสินใจหนีสุดชีวิตจากค่ายกักกันในลาว หลังจากได้ยินผุ้คุมคุยกันว่าจะฆ่าพวกเขาทิ้งแล้วจะได้กลับบ้านเสียที
ขณะสู้กำลังสู้รบ เดงเลอร์ – นักบินทัพมะกันเชื้อสายเยอรมัน ถูกยิงร่วงตกในเขตลาวเมื่อปี 1966 โดนทรมานอยู่เป็นเดือน ทั้งถูกมัดห้อยหัว ราดด้วยฉี่ควายแล้วลากไปทั่วหมู่บ้าน และเมื่อสองคนหนีจากค่ายไปตามป่าดิบชื้นเท้าของพวกเขาก็เริ่มเปื่อยเน่า สิ่งเดียวที่มีคือหนังรองเท้าเทนนิสข้างเดียวที่สองคนต้องพลัดกันใส่โดยยึด มันไว้กับเท้าด้วยใบปาล์ม พวกเขาหนีไปจนถึงแม่น้ำที่แยกมาจากแม่โขง ซึ่งจะพาให้เขาไปถึงเขตแดนไทยได้ เพื่ออิสรภาพทั้งคู่เลยทำแพล่องไปตามน้ำ ตกกลางคืนปีนขึ้นไปนอนบนต้นไม้และพอตื่นขึ้นมาก็เจอกับประสบการณ์สุดโหด
ชาวบ้านชุมชนแรกที่เขาพบไม่ใช่ไร้ความเมตตา แต่หนึ่งในนั้นตัดหัวมาร์ตินด้วยอีโต้กระเด็นไป เดงเลอร์วิ่งหนีไม่คิดชีวิต นอกจากนี้เขายังเล่าด้วยว่าได้เจอหมีตัวหนึ่งที่คอยตามจนเหมือนสัตว์เลี้ยง ไปเลย แถมยังเคยหลอนถึงขนาดเห็นประตูยักษ์ที่พอเปิดออกมาก็มีนางฟ้าขี่ม้าเดินออก มา
“ความตายยังไม่ต้องการผม” เดงเลอร์บอก หลังจากรอนแรมมา 5 วัน เครื่องบินอเมริกัน ก็พบเขาแล้วช่วยออกมาจนรอด ต่อมาเมื่อปี 2006 เรื่องราวหนีค่ายโหดครั้งนี้กลายมาเป้นเรื่อง ‘Rescue Dawn” หนังที่ได้รับการกล่าวขวัญของผุ้กำกับ เวอร์เนอร์ เฮอร์ซอก นำแสดงโดย คริสเตียน เบล และ สตีฟ ซาห์น
Rescue Dawn Trailer