เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MorningNewsTV3

          น้องบาส เด็ก ป.4 ยอดกตัญญู ปั่นจักรยานกลับบ้าน มาคอยดูแลป้อนข้าวลุง และพี่ชายพิการ ทุกกลางวันนาน 2 ปีแล้ว วอนคนใจดีช่วยเหลือ อยากเห็นลุงและพี่ชายเดินได้เหมือนคนปกติทั่วไป
 
          วันนี้ (25 มิถุนายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวของเด็กชายยอดกกตัญญูที่คอยดูแลลุงและพี่ชายพิการ โดยผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเรื่องราวของน้องบาส ด.ช.สมเกียรติ  คำภาพันธ์ อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4  โรงเรียนวัดบ้านดาบ ที่ต้องคอยดูแลลุงกับพี่ชายซึ่งพิการทั้ง 2 คน แทนแม่ของน้องบาสที่ต้องออกไปทำงานเพื่อหารายได้มาดูแลคนในครอบครัวทั้งหมด โดยก่อนจะไปโรงเรียนทุกวันน้องบาส จะต้องออกไปซื้อข้าวกับน้ำซุปมาป้อนให้ลุงและพี่ชาย และเมื่อถึงช่วงพักกลางวัน น้องบาสจะขอลาครู เพื่อปั่นจักรยานกลับมาป้อนข้าวลุงและพี่ชายจนเรียบร้อยแล้ว น้องก็บาสก็จะปั่นจักรยานกลับไปเรียนหนังสือต่อทันที และก่อนกลับบ้านในช่วงเย็นน้องบาสก็จะแวะไปหาซื้อข้าว เพื่อมาป้อนลุงกับพี่ชายที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อีกเช่นกัน ซึ่งน้องบาสต้องทำหน้าที่ดูแลลุงกับพี่ชาย ขณะที่แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านแบบนี้มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

          ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพร้อมด้วย นายชัชชัย  กิตติไชย หรือ ชัช ตลาดไท หัวหน้าอาสาสมัครกู้ภัยอยุธยารวมใจจุดเอเซีย  ได้เดินทางไปหาน้องบาส ยังบ้านเลขที่ 61/9 ม. 7 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงก็พบว่า มีชาย 2 คนนอนอยู่ภายในบ้าน ทราบชื่อว่า นายอนงค์  ส้มแก้ว อายุ 50 ปี และนายสนิท  คำภาพันธ์  อายุ 15 ปี นอนอยู่นอนเปลือยกายห่มคลุมด้วยผ้าห่ม  แต่ทั้ง 2 คนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เนื่องจากมีอาการพิการมาตั้งแต่กำเนิด

          จากการพูดคุยกัน น้องบาส เล่าว่า ที่ต้องมาคอยดูแลลุงกับพี่ชาย ก็ด้วยความเป็นห่วงและคิดว่าเขาเป็นลุงและเป็นพี่น้องก็ไม่ควรทิ้งกัน และอยากขอให้คนใจดีมาช่วยเหลือให้ลุงกับพี่ชายเดินได้เหมือนกับคนทั่วไปก็เพียงพอแล้ว  โดยปกติช่วงกลางคืน ตนจะนอนที่บ้านหลังนี้ เพื่อคอยดูแลลุงและพี่ชาย ส่วนแม่จะพักกับพ่อที่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ติด ๆ กัน
 
          ด้านนางสะอาด เอี่ยมพิชัย สมาชิก อบต.บ่อโพง เปิดเผยว่า ทาง อบต.บ่อโพง ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณมาดูแลช่วยเหลือผู้พิการทั้ง 2 คนได้ เนื่องจากเป็นบุคคลนอกพื้นที่เข้ามาอยู่อาศัย แต่ทางท้องถิ่นก็ไม่ได้ทอดทิ้ง ประสานงานกับทางโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชมาโดยตลอด เช่น การดูแลสุขภาพ ตรวจรักษา และซ่อมแซมหลังคาบ้าน เพื่อที่ทั้งสองคนลุงหลานพิการได้อยู่อาศัยในระดับหนึ่ง