โลกนี้เต็มไปด้วยความลับ โดยเฉพาะบางสถานที่ ที่เราไม่ทราบความจริง มันคือสถานที่อะไรกันแน่ ส่วนเราก็ไม่สามารถที่จะไปเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าวได้อีก และนี้คือ 10 สถานที่ ลับที่มีชื่อเสียงของโลก ที่ไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาเยี่ยมชน
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
เป็นเมืองปิดของรัสเซียที่อเมริกาให้ความสนใจว่ามันคือเมืองอะไรกันแน่ เชื่อว่าเมืองนี้ยังคงมีบ้านคนทำงานอะไรบางอย่างที่เป็นความลับสุดยอด เมืองนี้ก่อตั้งในปี 1979 ท่ามกลางหุบเขา Yamantaw สูงกว่า 1640 เมตร(5381 ฟุต) ซึ่งเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของเทือกเขายูเร็ลส มีประชากรประมาณ 17,464คน(ปี2006) โดยอเมริกาสงสัยว่าเมืองแห่งนี้อาจเป็นฐานปล่อยจรวดนิวเคลียร์ลับ โดยอเมริกาได้ใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมในการถ่ายสภาพเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง ส่วนทางรัสเซียก็ออกมาแก้ต่างว่ามันเป็นเพียงเหมืองแร่ธรรมดาเท่านั้นเอง และนอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ใช้เก็บอาหารและเชื้อเพลิงสำหรับผู้นำของเขาใน กรณีเกิดสงครามนิวเคลียร์เกิดขึ้น
9. Vatican Secret Archives
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
หอจดหมายเหตุลับของวาติกัน ตั้งอยู่ในนครวาติกัน ในห้องใต้ดินของหอสมุดวาติกัน เป็นศูนย์กลางเก็บข้อมูลเอกสารสำคัญทั้งแบบเปิดและแบบปกปิดหลายชิ้นของ วาติกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบม้วนหนังสือ แผ่นหนัง และชุดหนังสือทำด้วยผืนหนัง บางชนิดมีอายุมากมายเกินกว่าศตวรรษ ตัวอย่างเอกสารลับของวาติกันดังกล่าว ได้แก่ จดหมายของพระสันตะปาปาถึงฮิตเลอร์ จดหมายของพระนางแมรี่ ราชินีแห่งสก๊อต บางเอกสารดังกล่าวมักเป็นเรื่องราวความขัดแย้งและการกล่าวหาจากบุคคลในวงการ วิทยาศาสตร์และศิลปะ เช่นเอกสารจากการพิพากษากาลิเลโออย่างไม่ถูกต้อง จดหมายโต้ตอบกันกับอีรามุส โวแตร์และโมสาร์ท เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอกสารที่มากมายที่ไม่เปิดเผยเนื่องจากจะมีผลต่อจิตใจของ ประชาชนชาวคริสต์ ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ห้ามประชาชนทั่วไปเข้า นักวิจัยต้องกรอกเอกสารให้ชัดเจนและละเอียดในการขอเอกสารต่างๆ เพื่อจะได้เห็นมัน และสถานที่แห่งนี้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์เทวากับซาตาน
พื้นที่ 51 เป็นชื่อเล่นของฐานทัพทหารและพื้นที่ต้องห้ามแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังไม่มีสิทธิจะเข้ามา ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐเนวาดา ในสหรัฐอเมริกาตะวันตก ห่างจากดาวน์ทาวน์ในลาสเวกัส 83 ไมล์ (133 กม.) ตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของ “กรูม เลก” ในบริเวณพื้นที่ทางทหารการบินลับขนาดใหญ่ มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและทดสอบอากาศยานและระบบอาวุธสร้างขึ้นใน ปี ค.ศ. 1955 โดยฐานลับการทหารนี้ถูกตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบ และพัฒนาเครื่องบินรบแบบใหม่ และเนื่องด้วยความเข้มงวดของกองทัพและรัฐบาลสหรัฐเคยปฏิเสธการมีตัวตนของ พื้นที่ 51 เหมือนกับพวกเขาพยายามที่จะปิดบังอะไรอยู่ ทำให้มีหลายคนต้องข้อสมมุติฐานเรื่องทฤษฏีสมคบคิด ว่าพื้นที่แทบนี้มักมีวัตถุบินลึกลับปรากฏออกมาบ่อยๆ เลยสันนิษฐานว่ามันคือฐานทัพของมนุษย์ต่างดาว
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
Club 33 เป็นชื่อสโมสรเอกชน ที่เป็นห้องที่ตั้งอยู่ใจกลางสวนสนุกนิวออสแควร์(New Orleans Square) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดีสนีย์แลนด์ ในนิวออร์ลีน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยชมรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กับร้านอาหาร Blue Bayou ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประชาชนทั่วไปห้ามเข้า โดยคนที่เข้าได้สมาชิกซึ่งมีเพียงหยิบมือเท่านั้นที่จะเข้าได้โดยการกดกริ่ง บนแผงที่ซ่อนที่ทางเข้าประตู(และต้องใส่บัตรสมาชิกด้วนย) แล้วพนักงานต้อนรับจะถามชื่อเราผ่านอินเตอร์คอมและจะเปิดล็อกประตูเพื่อเข้า ไปข้างใน แน่นอนเราไม่รู้ข้างในมันเป็นยังไง แต่คาดว่าน่าจะเป็นร้านอาหารหรือห้องพักวีไอพี และมีพิธภัณฑ์ของดีสนีย์ที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน และของใช้สำหรับคนดังแปลกๆ มากมาบ เช่นเปียโนของเอลตันจอห์น ภาพวาดของดีสนีย์ นอกจากนี้คลับ 33 ยังถูกตั้งในโตเกียวดีสนีย์แลนด์ด้วย
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
Moscow Metro-2 เป็นสายรถไฟฟ้าใต้ดินลับในกรุงมอสโก รัสเซีย ที่ทางการรัสเซียปฏิเสธตัวตนการมีอยู่ของมัน หากแต่มีหลายคนสงสัยว่ามันมีอยู่จริง คาดคะเนว่ามันน่าจะถูกสร้างในช่วงที่สตาลินครองอำนาจ ภายใต้ชื่อรหัส D-6 โดย KGB ส่วนระยะทางเป็นข่าวลือว่ามันน่าจะมีสี่สาย ระยะทางกว่า 50-200 เมตร มีไว้เพื่อติดต่อกับสถานที่สำคัญในรัสเซียคือ เครมลินกับสำนักงานใหญ่ FSB สนามบินรัฐบาล(Vnukovo-2) และเมืองใต้ดิน(ที่ Ramenki) นอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่มีความสำคัญระดับชาติอีกมากที่เชื่อกันว่าเชื่อมติดกับรางรถไฟฟ้าสายนี้
5. White’s Gentlemen’s Club
ไวท์ เป็นคลับ ตั้งอยู่ในบ้านเลขที่ 4 เชสเตอร์ฟิลด์ ถนน 1693 ก่อตั้งในปี 1693 โดยชาวอิตาลี ฟรานเชนโก้ บิอังโค เพื่อขายช็อกโกแลตร้อนที่ค้นพบใหม่(สมัยก่อนเป็นสินค้าหายากและมีราคาแพง) ทำให้ชื่อเดิมของสถานที่นี้ว่าบ้านช็อกโกแลตไปด้วย สมัยก่อนเคยเป็นที่พบปะของบุคคลชั้นสูงเพื่อพูดเรื่องการเมือง เช่น การปฏิวัติฝรั่งเศส และสงครามนโปเลียน ปัจจุบันกลายเป็นสโมสรที่นัดพบปะของสุภาพบุรุษที่มีชื่อเสียง ที่เข้าได้เฉพาะสมาชิกเท่านั้น ซึ่งในอดีตสมาชิกแต่ละคนล้วนแต่เป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อประเทศอังกฤษ ทั้งสิ้น
ห้อง 39 นั้นเป็นชื่อสำนักงานหรือหน่วยงานลับที่คาดว่าที่ทำการอยู่ที่อาคารพรรคแรง งาน ในเปียงยาง เกาหลีเหนือ ก่อตั้งในปี 1970 โดยมีวัตถุประสงค์ในการรักษาเงินและเพิ่มเงินตราต่างประเทศในกระเป๋าของท่าน ผู้นำคิม จอง อิลโดยไม่เกี่ยงวิธีการ โดยอย่างที่รู้กันว่าประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศสันโดษ ความเป็นอยู่ในสภาพอดอยาก ประชาชนเป็นอยู่อย่างยากแค้น ทำให้ไม่เกิดการพัฒนาหลายด้าน ทำให้ท่านผู้นำไม่สามารถหาเงินหรือใช้เงินได้สะดวก ดังนั้นองค์กรนี้จึงได้ตั้งขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ คาดว่าองค์กรนี้มีบัญชีในธนาคารประเทศจีนหรือสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีวัตถุประสงค์ ในการ ฟอกเงิน ตั้งกองทุนปลอม ปลอมแปลงเงิน นอกจากนี้องค์กรห้อง 39 ยังถูกกล่าวหาว่าทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น ค้าอาวุธ ลักลอบขนยาเสพย์ติด และการใช้เงินเพื่อสนับสนุนทางการเมืองและสร้างอาวุธนิวเคลียร์ แต่องค์กรเกาหลีเหนือกลับออกมาปฏิเสธในเรื่องเหล่านี้
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
ศาลเจ้าอิเซะ จิงงุ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และศักดิ์สิทธิที่สุดของประเทศญี่ปุ่นที่คาดว่าจะมีอายุ 2000 ปี ตั้งอยู่ในเมืองอิเซะ ประกอบด้วยศาลเจ้าสองแห่ง คือศาลชั้นในที่เรียกว่าโคไตจิงงุ(ไนกุ)มีไว้สักการบูชาเทพอะมะเทะระซุ โอมิกะมิ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ศาลชั้นนอกเรียกว่า โทะโยเกะไดจิงงะ(เงะกู)สร้างขึ้นเพื่ออุทิศเทพเจ้าโทะโยะเกะ โอมิกะมิ นอกจากนี้ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ จักรพรรดิญี่ปุ่น ศาลจะถูกรื้อและสร้างใหม่ทุก 20 ปี โดยยังคงรักษาแนวคิดชินโตแห่งความตายและเกิดใหม่(สร้างใหม่ต่อไปจะเป็นปี 2013)และสถานที่คนธรรมดาอย่างเราสามารถเข้าไปข้างในได้ เพราะบุคคลกลุ่มเดียวที่สามารถไปได้ก็คือพระหรือสมาชิกในครอบครัวจักรพรรดิ ญี่ปุ่นเท่านั้น ดั้งนั้นหากเรามีญาติเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงแล้วไม่เคยมาที่นี้ก็ลองไปดู สักครั้งในชีวิตละกัน
2. Mount Weather Emergency Operations Center
ขอบคุณภาพจากภาพ : www.listverse.com
มันเป็นสถานที่มีระบบป้องกันภัยสูงสุด และไม่เฉพาะแค่ไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าเท่านั้น มันยังเป็นสถานที่ความหวังของประชาชนในการระวังภัยต่างๆ ละมันก็คือ ศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉินทางอากาศ เป็นสถานีวิทยุที่มีขนาดใหญ่กว่า 434 ไร่ นอกจากนี้ยังมีห้องใต้ดินกว่า 600,000 ฟุต ตั้งอยู่ในเทือกเขาบลูริดจ์ เวอร์จิเนีย สร้างขึ้นมรปี 1950 ในสงครามเย็นและยังคงดำเนินการจนถึงทุกวันนี้ โดยสถานที่นี้เป็นสถานที่ควบคุมความถี่สูง ระบบวิทยุเชื่อมต่อหน่วยงานกลางมากที่สุดเพื่อเตือนภัยแก่ประชาชนและทหาร สหรัฐ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเตือนภัย ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นความหวังสุดท้ายของสหรัฐและมันคงวุ่นวายมากหากเกิด ขึ้นอะไรกับมัน
เป็นฐานทัพทางการทหารที่ตั้งอยู่ในเมืองยอร์คเชียร์ ประเทศอังกฤษ ในเนินเขา Menwith มีหน้าที่ดูแลเครือข่ายทั่วโลก สอดแนม ขัดขวาง ตัดการติดต่อ หรือติดต่อสื่อสาร ซึ่งว่ากันว่านี้เป็นสถานีตรวจคลื่นอินเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ ดำเนินการโดยสำนักงานแห่งชาติสหรัฐในนามความมั่งคงแห่งชาติ ซึ่งที่แห่งนี้มีเทคโนโลยีการตรวจจับดักฟัง ซึ่งเป็นเครือข่ายการรวบรวมข้อมูลข่าวสาร ที่กระทำโดยรัฐบาลของชาติมหาอำนาจในโลก ซึ่งจะทำการเก็บและวิเคราะห์การติดต่อสื่อสารทางอีเลคโทรนิคนับล้านๆ ครั้งในแต่ละวัน มาใส่ไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ที่สลับซับซ้อน ขณะที่รายละเอียดสำคัญมากมายถูกเก็บไว้เป็นความลับสุดยอด อย่างเช่น จำนวนของข้อมูลข่าวสาร แน่นอนหนึ่งในข้อมูลเหล่านั้นย่อมมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแน่นอน โดยข้อมูลเหล่านั้นที่เด่นๆก็เช่นสงครามเย็น, ก่อการร้าย, ยาเสพติด, การเมือง, การทูต ฯลฯ และสังเกตว่า ณ บริเวณนั้น มีวัตถุทรงกลมประหลาดขนาดใหญ่แปลกๆ ถูกติดตั้งกระจายอยู่เต็มพื้นดิน มันมีชื่อเรียกว่า “radomes” ไม่มีใครรู้ว่ามันถูกสร้างขึ้นเพื่ออะไร แต่จากเอกสารรายงานระบุว่ามันมีหน้าที่ดักจับข้อมูลที่ถูกส่งผ่านไปมา ไม่ว่าการส่งอีเมล หรือการคุยโทรศัพท์มือถือ จะถูกลำเลียงผ่าน ไปยังเครือข่าย สามารถวิเคราะห์ แยกแยะ ถ่ายโอน และลำเลียงใหม่ข้อมูลที่ดักจับไว้ได้ แต่การปฏิบัติงานภายในของมันก็ยังคงเป็นความลับที่ยั่วให้คนอยากรู้ต่อไป