คลื่นยักษ์สึนามิ ที่ล่าสุดเพิ่งกวาด และกลืนเอารถยนต์ บ้านเรือน สนามบิน และชีวิตคนที่ประเทศญี่ปุ่นไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึง 10 นาที แต่หากย้อนอดีตไปนานหลายสิบปี ก็จะพบว่าโลกของเราได้ประสบกับ “คลื่นยักษ์สึนามิ” บ่อยเหมือนกันแถมแต่ละครั้งไม่ธรรมดาเอาซะเลย
อันดับ 1
อภิมหาสึนามิครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อปี 1958 เกิด “มหาสึนามิ” ขึ้นที่อ่าวลิทจูยา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐอลาสกา สหรัฐอเมริกา ความสูงของคลื่นสูงถึง 524 เมตร สูงกว่าตึกเอมไพร์สเตท (448 เมตร) เสียด้วยซ้ำ นั่นคือสึนามิที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยปรากฏมาในประวัติศาสตร์ แต่ไม่ใช่ที่อำมหิตที่สุดเนื่องเพราะมันเกิดขึ้นในพื้นที่ที่แทบไร้ผู้คน และสลายตัวอย่างรวดเร็วเมื่อถึงทะเลเปิด มีชาวประมงเสียชีวิตเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นเอง
อันดับ 2
“ลิสบอน สึนามิ” เกิดเมื่อปี 1755 ที่เกิดขึ้นหลังจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ริคเตอร์ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สูง 120 เมตร ถล่มเข้าใส่กรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส คร่าชีวิตคนไปราว 60,000 คน เหตุการณ์ในครั้งนี้น่ากลัวตรงที่เมืองที่ได้รับผลกระทบเป็น “เมืองหลวง” จึงสร้างความสูญเสียอย่างมหาศาล
อันดับ 3
ถูกตั้งชื่อว่า “กรากะตั้วสึนามิ” ที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดของภูเขาไฟกรากะตั้ว ซึ่งไม่เพียงรุนแรงขนาดทำให้เกาะกรากะตั้วทั้งเกาะหายไปในพริบตา ยังก่อให้เกิดสึนามิขนาด 39 เมตร คร่าชีวิตผู้คนในอินโดนีเซีย และอินเดียไปอีก 36,000 คน นับเป็นเหตุการณ์ที่คน 2 ประเทศนี้ไม่มีวันลืมได้จริงๆ
อันดับ 4
เป็นสึนามิที่ถูกขนานนามว่า “สึนามิแห่งมหาสมุทรอินเดีย” ที่คนไทยรู้จักกันดีที่เกิดขึ้นเมื่อวัน “บ๊อกซิ่งเดย์” 26 ธันวาคม ปี 2547 ก่อให้เกิดคลื่นสูง 24 เมตร อาละวาดคร่าชีวิตคนไปมากกว่า 300,000 คน เหตุการณ์ในครั้งนี้เองประเทศไทยของเราเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูก “คลื่นยักษ์สึนามิ” ถล่มในจังหวัดภูเก็ต พังงา และเป็นครั้งแรกที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักคำว่า “สึนามิ”
อันดับ 5
สึนามิโนโทโฮะกุในญี่ปุ่น คลื่นยักทำลายล้างสูง 40.5 เมตร บางพื้นที่ พบว่าคลื่นได้พัดพาลึกเข้าไปในแผ่นดินสูงถึง 14 กิโลเมตร และได้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิ และคำสั่งอพยพตามชายฝั่งด้านแปซิฟิกของญี่ปุ่น และอีกอย่างน้อย 20 ประเทศ รวมทั้งชายฝั่งแปซิฟิกทั้งหมดของอเมิรกาเหนือและเอมริกาใต้ และสึนามิได้ซัดทำลายระบบกำเนิดไฟฟ้าดีเซลสำรองของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุซิมะ ทำให้เกิดการระเบิด 2 ครั้งฟูกุซิม และทำให้กัมมันตภาพรังสีในบริเวณรอบข้างมีระดับสูงขึ้น ประชาชนกว่า 200,000 คน ในบริเวณใกล้เคียงต้องอพยพหลบหนี
Credit http://www.stks.or.th/blog/?p=16812