เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด

            ชาวสเปนนับแสน แห่ลงชื่อเรียกร้องคืนความเป็นธรรมแก่ ยู่ยี่ อลิสา อินทุสุมิต หลังศาลอาญาสั่งจำคุก 15 ปี 3 เดือน ปรับ 1.5 ล้านบาท ฐานลักลอบนำโคเคน 251 มิลลิกรัม เข้าประเทศ ชี้โทษรุนแรงเกินไป ตั้งคำถาม จำนวนโคเคนเพิ่มขึ้นได้อย่างไร

            จากกรณีศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก ยู่ยี่ อลิสา อินทุสุมิต หรือ นางชัชชญา เควสต้า รามอส วัย 41 ปี อดีตนักร้อง-นางแบบชื่อดัง ภรรยาของ นายแฟรงค์ ฟรานซิสโก เกวสต้า พิธีกรรายการสารคดีอนุรักษ์สัตว์ชื่อดังชาวสเปน เป็นเวลา 15 ปี 3 เดือน พร้อมปรับ 1.5 ล้านบาท ฐานลักลอบนำยาเสพติดให้โทษโคคาอีน (โคเคน) จำนวน 251 มิลลิกรัม เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นโทษหนักและกำลังกลายเป็นประเด็นร้อนขณะนี้นั้น

            ล่าสุดวานนี้ (20 มิถุนายน 2557) ได้มีประชาชนชาวสเปนบางส่วน จัดการรณรงค์เรียกร้องให้มีการคืนความเป็นธรรมแก่ ยู่ยี่ อลิสา ผ่านเว็บไซต์ justice4yuyee และ  freeyuyee โดยมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่าแสนคน ซึ่ง นายเอเดรียน เฟอนันเดซ หนึ่งในผู้รณรงค์ ระบุว่า การตัดสินลงโทษจำคุก 15 ปี กรณีนำเข้ายาเสพติดจำนวน 251 มิลลิกรัมนี้ ยังมีข้อสงสัยที่ต้องการคำตอบเป็นอย่างมาก เพราะเหมือนเรื่องดังกล่าวถูกจัดฉากขึ้นมา โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของจำนวนสารเสพติด เพราะในช่วงที่มีการจับกุมเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2555 พบโคเคนแค่ 5 มิลลิกรัมเท่านั้น และเป็นแค่ข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครอง  

            แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2556 อัยการกลับสั่งให้ตำรวจเพิ่มข้อหานำเข้าสารเสพติด ซึ่งทำให้มีโทษสูงถึง 20 ปี  และเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดีในชั้นศาลกลับพบว่ามีสารเสพติด 251 มิลลิกรัม ทั้งหมดเหล่านี้ทำให้มีคำถามมากมายว่ากระบวนการสอบสวนมีความเป็นธรรมและโปร่งใส หรือไม่อย่างไร 

            นายเอเดรียน กล่าวว่า ยาเสพติดแค่ 5 มิลลิกรัม ถือว่าน้อยมากแล้วจะแจ้งว่าเป็นการลักลอบได้อย่างไร ถือว่าเป็นข้อหาที่ไม่มีเหตุผล และอยู่ ๆ กลับพบว่ามีสารเสพติดเพิ่มมาจากไหนอีก 50 เท่า เรื่องเหล่านี้ต้องมีคำตอบ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ากระบวนการสอบสวนและคำตัดสินดังกล่าวถือว่าไม่เป็นธรรม

            นายเอเดรียน ระบุต่อว่า ที่ผ่านมานายแฟรงค์และภรรยาได้ทำประโยชน์ให้กับประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ต่าง ๆ รวมถึงในรายการยังได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวสถานที่สวยงามต่าง ๆ ในประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลก แต่ทำไมประเทศไทยถึงได้ทำกับครอบครัวเขาแบบนี้  ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนช่วยกันลงชื่อถึงสถานทูตไทยประจำประเทศสเปน และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย  พิจารณาเรื่องนี้และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันให้เกิดกระบวนการสอบสวนที่เป็นธรรมและปล่อยตัวยู่ยี่โดยเร็วที่สุดต่อไป 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก