เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทวิตเตอร์ @MorningNewsTV3
ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 สั่งลุยจัดระเบียบรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่แรก ระบุเป็นหน้าเป็นตาประเทศ เตรียมใช้ระบบรูดการ์ดแทนคนคุม แก้ปัญหามาเฟียกินหัวคิว-เลือกผู้โดยสาร พร้อมตั้งจุดตรวจแท็กซี่ 4 จุดใหญ่
วันนี้ (19 มิถุนายน 2557) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวการจัดระเบียบรถแท็กซี่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลว่า วานนี้ (18 มิถุนายน 2557) พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (ผบ.มทบ.11) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการจัดระเบียบรถแท็กซี่ได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมร่วมกัน อาทิ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตัวแทนผู้ประกอบการรถรับจ้างหรือแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก เป็นต้น
โดย พล.ต.นิรันดร เปิดเผยว่า จะเริ่มต้นการจัดระเบียบรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นแห่งแรก เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิถือว่า เป็นหน้าตาของประเทศ ประกอบกับพฤติกรรมของแท็กซี่ในช่วงที่ผ่านมา จะพบว่า มีปัญหาแท็กซี่พาผู้โดยสารหรือนักท่องเที่ยวไปทิ้งกลางทาง รวมทั้งการเรียกราคาค่าโดยสารเพิ่ม หรือคิดราคาสูงมากเกินไป ตลอดจนเรื่องกิริยามารยาท หรือกรณีที่คนขับเข้าไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดจากการที่มีผู้มีอิทธิพลหรือระบบมาเฟียคอยควบคุมอยู่นั่นเอง
สำหรับสนามบินสุวรรณภูมินั้น พบว่า มีรถแท็กซี่มาคอยให้บริการผู้โดยสาร จำนวน 7,000 คัน จาก 39 กลุ่ม หรือกลุ่มสหกรณ์ โดยมีรถแท็กซี่ประมาณ 70% ที่เป็นรถส่วนตัว ขณะที่เหลือเป็นรถเช่า และจากการพูดคุยกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและบรรดาแท็กซี่เพื่อทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ คสช. จำเป็นต้องเข้ามาจัดระเบียบรถแท็กซี่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ให้เป็นไปตามนโยบาย คสช. ดังต่อไปนี้
1. เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนคืนความสุขให้ประชาชน และผู้โดยสาร นอกจากนี้ ต้องการลดจำนวนเรื่องร้องเรียน รวมถึงการเร่งแก้ไขเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
2. แท็กซี่ต้องเข้าสู่กรอบกติกา ระเบียบ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด หรือแม้แต่เรื่องของค้าประเวณี
พล.ต.นิรันดร ยังได้กล่าวถึงปัญหาของกลุ่มมาเฟียที่เข้ามาคุมและจัดคิวรถให้แท็กซี่ว่า จากการสอบถามบรรดาคนขับรถแท็กซี่ทำให้รู้ว่า แท็กซี่ส่วนใหญ่ไม่อยากรับผู้โดยสารที่ไประยะใกล้เพราะไม่คุ้ม แต่ต้องการนักท่องเที่ยวที่ไปไกล ๆ เช่น พัทยา ซึ่งการที่จะได้ผู้โดยสารลักษณะนี้ แท็กซี่ต้องจ่ายหัวคิวให้มาเฟียที่คุมคิวรถด้วย ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ต่อจากนี้ไป แท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ลงทะเบียนประวัติ ลายนิ้วมือของแท็กซี่ที่มาจดทะเบียนกับสนามบินแล้วใช้ระบบรูดการ์ดเข้ามาแทนระบบจัดคิวของมาเฟีย
นอกจากนี้ จากการสำรวจยังพบอีกว่า ภายในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถแท็กซี่จำนวน 110,000 คัน โดยในจำนวน 70,000 คัน อยู่ในสังกัด 130 สหกรณ์แท็กซี่ และ 13 ศูนย์วิทยุแท็กซี่ ขณะที่แท็กซี่อีก 40,000 คัน เป็นแท็กซี่อิสระที่ไม่ได้จดทะเบียนกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ก็มีโอกาสจะเข้ามารับผู้โดยสารชั้น 4 เพราะมาส่งผู้โดยสารขาออก ซึ่งตรงนี้ก็สามารถรับผู้โดยสารออกไปได้ แต่ห้ามจอดแช่รอผู้โดยสารโดยเด็ดขาด
สำหรับปัญหาที่น่าห่วงหลังจากนี้ก็คือ เมื่อ คสช. ออกไปแล้ว ระบบมาเฟียอาจจะกลับมาอีก ดังนั้น อาจมีการหารือเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแก้ไขเรื่อง พ.ร.บ.ท่าอากาศยาน เนื่องจากสนามบินสุวรรณภูมิตั้งมาทีหลัง ไม่ได้อยู่ใน พ.ร.บ.ท่าอากาศยาน และไม่ได้อยู่ในเขตทหาร จึงทำให้มีปัญหาในการดำเนินแก้ไขปัญหาในหลาย ๆ อย่าง
ขณะที่ นางระวีวรรณ เนตระคเวสนะ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวถึงการนำระบบรูดการ์ดมาใช้เพื่อจัดคิวรถแท็กซี่ ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประกวดราคา เพื่อจัดหาระบบคอมพิวเตอร์การจัดคิวรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้วิธีการเช่าเดือนละ 7 แสนบาท คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หรือเริ่มใช้ได้ 1 สิงหาคมนี้ โดยจะเปิดให้มีการลงทะเบียนประวัติ ลายนิ้วมือของแท็กซี่ที่จดทะเบียนกับสนามบินสุวรรณภูมิ และใช้ระบบรูดการ์ดแทนการใช้มาเฟียจัดคิวทำให้แท็กซี่ไม่มีการเลือกลูกค้า ระบบมาเฟียจะหมดไป
ด้านนายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการหารือร่วมกันเรื่องการตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่ร่วมกันบริเวณที่ประชาชนใช้บริการจำนวนมาก โดยจะมีการตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่นำร่อง 4 จุด ดังต่อไปนี้
1. สนามบินดอนเมือง
2. สนามบินสุวรรณภูมิ
3. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
4. จุดเชื่อมต่อ BTS-MRT
โดยจะเริ่มตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่ที่สนามบินดอนเมืองเป็นแห่งแรก ในวันที่ 19 มิถุนายน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก