เรียกว่าน่าอัศจรรย์จริงๆ
เรื่องราวของชีค ซาเยด บิน ซุลต่าน อัล นาห์ยาน มหาเศรษฐีชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการปรับสภาพแวดล้อมของเกาะรกร้างแห่งหนึ่งให้กลายเป็นซาฟารีอันอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้และสัตว์จากดินแดนแอฟริกากว่า 1.2 หมื่นตัว จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลกในทุกวันนี้
50 ปีที่แล้ว เกาะนิรนามแห่งนี้ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ห่างจากกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐเอมิเรตส์ ประมาณ 100 กิโลเมตร เป็นพื้นที่รกร้างเต็มไปด้วยก้อนหิน ไม่เหมาะอย่างยิ่งต่อการเพาะปลูก มีเพียงแต่เกลือเท่านั้นที่พบได้ง่ายบนเกาะแห่งนี้ แต่ชีค ซาเยด บิน ซุลต่าน อัล นาห์ยานได้เกิดความคิดและทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการปรับเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกต้นไม้มากกว่า 1 ล้านต้น ใช้น้ำมากถึง 10 ล้านแกลลอนเทียบเท่าสระว่ายน้ำที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกรวมกันถึง 17 สนาม
นอกจากนี้ยังนำเอาสัตว์ป่ากว่า 23 ชนิดจากทวีปแอฟริกากว่า 1.2 หมื่นตัว ทั้งนกกระจอกเทศ ยีราฟ แบล็คบัค กาเซลล์ เสือชีตาร์ ไฮยีน่า ช้าง ฮิปโปโปเตมัส และตัวออริกซ์ ฯลฯ มาเลี้ยงไว้ที่นี่ ก่อนตั้งชื่อให้เกาะนี้ว่า Sir Bani Yas Island
ปัจจุบัน เกาะ Sir Bani Yas Island กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวซาฟารีซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก มีรถนำเที่ยวรอบเกาะ เป็นแหล่งศึกษาของนักเรียนและเด็กๆที่สนใจเรื่องสัตว์ป่าแอฟริกา ตลอดจนรีสอร์ทใกล้ชิดธรรมชาติด้วย
I instantly liked the feel of the place, chic and yet keeping in mind its Arabic roots. The hotel compound is framed by plant massing and dotted by a couple of water features. Timber bridges connect the driveway and the road.
ตอนนี้แผนดำเนินการโครงการ 2 เงินลงทุน 1,450,000,000 $ เท่านั้นเอง *0*
ข้อมูลโดย Postoday.com
เรียบเรียง UniGang