25. Craco, Matera, Basilicata อิตาลี
เมืองร้างที่ถูกล้อมด้วยกำแพงในยุคกลางของเมืองคราโค่ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 400 ฟุต เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า “ต้องคำสาป” ด้วยภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งที่ทำให้ผลิตผลทางการเกษตรไม่ดี การถูกโจรปล้นบ้านเรือน และสุดท้าย การเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่หลายครั้งติดกัน ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปมากมาย และเสียหายเกินกว่าที่จะได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ ประชากรกลุ่มสุดท้ายได้อพยพออกไป เพราะเกรงกลัวแผ่นดินไหว ในที่สุดทำให้เมืองล่มสลายลงใน ปี 1960
26. Quinta da Regaleira, Sintra โปตุเกส
Quinta da Regaleira เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ใกล้ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของ Sintra จัดเป็นหนึ่งในมรดกโลกโดยยูเนสโก้ เป็นสถานที่ที่ดูสวยงามและลึกลับในคราวเดียวกัน บ่อน้ำที่ลึกถึง 27 เมตรนี้ดูเป็นฉากสยองเล็กๆ ในหนังเลยก็ว่าได้ เหมือนเป็นหอคอยที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางความลึกลับอยู่ที่ว่าคุณจะเลือกเดินทางลงไปลึกที่สุดของโลก หรือปีนขึ้นมาจากความมืดเพื่อค้นหาแสงสว่าง
27. Weißgerbergasse, Nuremberg เยอรมนี
เมืองเก่าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Nuremberg ประเทศเยอรมนี เป็นแหล่งที่เราจะพบกับสถาปัตยกรรมยุคเก่า เป็นที่รวมช่างฝีมือมากมาย หอระฆัง สวนตามบ้านต่างๆ เป็นจุดบอกความมั่งคั่งในอดีต ปัจจุบันที่นี่เป็นแหล่งรวมร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, บาร์เก๋ๆ เป็นที่นิยมของชาวเมืองโดยทั่วไป และนักท่องเที่ยว และสามารถเดินขึ้นไปบนปราสาท Altenburg castle เพื่อชมวิวทั่วทั้งเมืองได้ในคราวเดียว
28. Procida อิตาลี
เมือง Procida เป็นเมืองที่มีความสวยงาม เป็นเกาะสวรรค์ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เป็นเกาะที่เล็กที่สุดของอ่าวเนเปิลส์เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว และโบราณคดีทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมี Terra Murata ซึ่งเป็นหัวใจของเมืองที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้
29. Lofoten Islands นอร์เวย์
Lofoten เป็นกลุ่มของหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือของนอร์เวย์ภายในอาร์กติกเซอร์เคิล เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมงที่แสนจะล่อตาล่อใจนักจับปลาทั้งหลาย คนที่ชื่นชอบการตกปลามักมาที่นี่กันในวันหยุดเพื่ออวดปลาตัวใหญ่ให้โลกเห็น นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังที่ลึกที่สุดของโลกอยู่ที่นี่อีกด้วย แน่นอนว่าความสวยงามแห่งซีกโลกเหนืออยู่ที่นี่แหละ
30. Cocos Island คอสตา ริก้า
เกาะ Cocos Island เป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่เลย ห่างจากชายฝั่งคอสตา ริก้า ประมาณ 300 ไมล์ เพราะฉะนั้นจึงเป็นอุทยานแห่งชาติที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งดำน้ำที่ดีที่สุดของโลก เพราะโลกใต้น้ำจะเต็มไปด้วยสัตว์น้ำดาษดื่น
31. Rock tombs in Myra, Lycia ตุรกี
Myra เป็นเมืองกรีกโบราณเล็กๆ ใน Lycia ปัจจุบันตั้งอยู่ในรัฐ Antalya ริมแม่น้ำ Myros ของประเทศตุรกี เป็นเมืองกรีกโบราณที่ยังคงซากปรักหักพังไว้อย่างสมบูรณ์ให้ได้พบเห็น สุสานเหล่านี้รู้จักกันในชื่อว่า Rock tombs สุสานหินตัดสลักบนหน้าผา สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ Lion's tomb หรือ Painted Tomb นั่นเอง หลังจากเดินชมหน้าผาสุสานหินแล้ว สามารถเดินขึ้นไปขอพรที่โบสถ์ Saint Nicholas ก่อนอำลาที่นี่ไป
32. Herrenchiemsee New Palace, Lake Chiemsee เยอรมนี
ในปี 1873 กษัตริย์ลุดวิกที่สองแห่งบาวาเรีย ทรงให้สร้างพระราชวังแฮร์เรนคีมเซ (Herreninsel) ขึ้นเป็นพระราชวังใหม่ของพระองค์โดยได้แรงบันดาลใจมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ที่สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระราชวังแฮร์เรนคีมเซเป็นพระราชวังอยู่บนเกาะแฮร์เรนอินเซลซึ่งเป็นเกาะอยู่กลางทะเลสาบ Chiemsee เรียกได้ว่าพระราชวังแห่งนี้เป็นพระราชวังที่ใหญ่ และหรูหราที่สุดของกษัตริย์ลุดวิกที่สองเลยก็ว่าได้
33. Fès โมร็อคโค
ถ้ากำลังมองหาแหล่งทำเครื่องหนักที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อย่าลืมที่นี่ เมืองเฟส (Fes) โมร็อคโค ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเชิงเทือกเขารีฟ (Rif Mountain) ทางตอนเหนือกับเขตเทือกเขาแอตลาสตอนกลาง อยู่ห่างจากกรุงราบัตไปทางตะวันออก 180 กิโลเมตร เฟส เป็นเมืองแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของโมรอคโค มีสถานที่ที่น่าสนใจหลายแห่ง ที่ดูจะดึงดูดเรามากที่สุดก็คงเป็น เขตเมืองเก่า ซึ่งเรียกกันว่า “เมดินา” มีกำแพงเมืองโบราณโดยรอบสีฟ้าซึ่งสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมของศิลปะอิสลาม ผ่านพ้นกำแพงเมืองเข้ามาจะเริ่มเป็นตรอกซอกซอยเล็กๆ มากมาย วกวนซับซ้อนอยู่ภายในคล้ายเขาวงกตเป็นหมื่นๆ ซอยเลยทีเดียว มีเสน่ห์ที่สุดแสนจะคลาสสิค
34. Blagaj บอสเนีย และ เฮอร์เซโกวีน่า
Blagaj เป็นหมู่บ้านเมือง Kasaba ในตะวันออกเฉียงใต้ของลุ่มน้ำ Mostar ของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีน่า เป็นเมืองที่ผสมผสานความเป็นเมืองและชนบทไว้ได้เป็นอย่างดี Blagaj Tekija ถูกสร้างในปี 1520 ที่มีองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมออตโตมัน และสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนไว้อย่างลงตัว
35. Cesky Krumlov สาธารณรัฐเช็ก
เมือง Cesky Krumlov นี้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 13 และมีการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อยจนมาถึงปัจจุบัน เป็นเมืองขนาดเล็กในภูมิภาคโบฮีเมียใต้ของสาธารณรัฐเช็ก มีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมและศิลปะของเขตเมืองเก่าและปราสาทกรุมลอฟ ซึ่งเขตเมืองเก่านี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก ทุกครั้งที่ได้ก้าวเข้ามาในปราสาทกรุมลอฟจะทำให้กลับมานึกถึง Renaissance festival ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในเดือนมิถุนายน
36. Saint Petersburg รัสเซีย
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg) เป็นเมืองท่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ตั้งอยู่ปากแม่น้ำเนวา ริมอ่าวฟินแลนด์ในทะเลบอลติก สร้างโดยพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช เรียกได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางแห่งความเจริญที่เก่าแก่ที่สุดรวมไปถึงด้าน นโยบายการเมืองและเศรษฐกิจที่มีบทบาทและความสำคัญในหน้าที่ประวัติศาสตร์ สมัยที่เคยเรืองอำนาจในยุโรปจนถูกขนานนามว่า "หน้าต่างของยุโรป"