เเจ็ค เชอร์ชิล คนนี้ได้รับการเข้าใจผิดบ่อยครั้งเขามิใช่น้องชายของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ วินสตัน เชอร์ชิล น้องชายของท่านวินสตัน เชอร์ชิล พันตรี จอร์น มัลค่อม โทรป เฟลมมิ่ง "เเจ็ค" เชอร์ชิล( John Malcolm Thorpe Fleming "Jack" Churchill) หรือที่รู้จักกันในชื่อ"เเจ็คบ้า"(Mad Jack) เกิดในฮ่องกง จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารเเซนเฮิสในปี1926เเละเข้าประจำการในพม่าภายใต้ Manchester Regiment. หลังสงครามได้ลาออกจากกองทัพในปี1936เเละทำงานในกองบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์
เเจ็ค เชอร์ชิลกลายเป็นที่รู้จักในสงครามโลกครั้งที่สองในปี1940เชอร์ชิลได้กลับมาเข้ากองทัพอีกครั้งหลังโปเเลนด์ถูกเยอรมันรุกราน
ดูเผินๆเเจ็ค เชอร์ชิลอาจเหมือนนายทหารอังกฤษทั่วๆไป เเต่ผิดที่ว่าเขาไม่พกปืน เเล้วเค้าใช้อะไรเป็นอาวุธล่ะ ก็ดาบยาวเเละคันธนูยังไงล่ะ ใช่ดาบเเละธนู!! เเจ็คเชอร์ชิลเป็นทหารเพียงคนเดียวที่พกดาบไปรบ ในระหว่างสงครามในฝรั่งเศษหน่วยของเชอร์ชิลได้ซุ่มโจมตีหน่วยลาดตระเวณของเยอรมันสัญญาณเริ่มโจมตีของเค้าไม่ใช่นกหวีดเเละเสียงตะโกนเเต่เป็นลูกธนูหนึ่งดอกที่ปักอยู่กลางอกหัวหน้าหมู่เยอรมัน
ภายหลังฝ่ายพันธมิตรพ่ายเเพ้ที่ดันเคิร์กเเจ็คได้อาสาสมัครเป็นหน่วยคอมมานโด เเจ็คเชอร์ชิลได้สร้างวีรกรรมไว้มากมายระหว่างอยู่ในหน่วยรบพิเศษยกตัวอย่างเช่น ในคืนหนึ่งเเจ็คสามารถจับเชลยศึกเยอรมัน42คนพร้อมทั้งทีมปืนค.หนึ่งหน่วยได้โดยใช้เเค่ดาบ หรืออีกครั้งระหว่างภารกิจโจมตีที่มั่นเยอรมันในนอเวย์เเจ็คได้วิ่งออกจากตำเเหน่งของตัวเองเป่าปี่สก็อตเเละขว้างระเบิดมือเข้าใส่เยอรมัน..............เรายังไม่ได้บอกเรื่องปี่สก็อตงั้นเหรอ เค้าก็เหน็บมันไว้ข้างๆดาบเล่มโตนั่นยังไงล่ะ
ภารกิจสุดท้ายของเเจ็คมาถึงในปี1944 เค้าเเละหน่วยคอมมานโดหลายสิบนายถูกส่งไปยูโกสลาเวียเพื่อช่วยเหล่ากองกำลังต่อต้าน ในวันที่สองของการเข้าที่ฐานของเยอรมันที่เกาะบรอท(Bra?) หน่วยของเเจ็ควิ่งฝ่าเเนวป้องกันของข้าศึก มีเพียงเเค่หกคนที่รอดมาถึงที่หมายก่อนที่ห่าฝนลูกปืนค.จะสังหารทุกคนยกเว้นเเจ็ค ทหารเยอรมันมาพบเเจ็คในขณะที่กำลังเป่าปี่สก็อตเพลง"Will Ye No' Come Back Again "อยู่ท่ามกลางซากศพของลูกน้อง
( Mad Jack escaped the Sagan prison before being captured again and sent to Sachsenhausen concentration camp, in Germany (pictured))
หลังถูกจับเป็นเชลยเเจ็คถูกส่งไปยังค่ายกักกันไม่ไกลจากเบอร์ลินเเต่อยู่ในค่ายได้ไม่นานเเจ็คก็เกิดเบื่อในปลายปี44นั่นเองเเจ็คจึงชวนนายทหารอากาศนายหนึ่งคลานหนีออกจากค่ายเเละไปเดินเล่น เเต่ก็ถูกจับอีกครั้งไม่ไกลจากเมืองรอสต็อก( Rostock.) หลังถูกส่งมายังค่ายกักกันอีกเเห่งในกลางปี1945ทหารประจำค่ายที่กลัวความพ่ายเเพ้เเละศัตรูที่กำลังรุกคืบเข้ามาจึงได้ทิ้งค่ายเเละนักโทษไว้ข้างหลัง เเจ็คจึงออกไปเดินเล่นอีกครั้งเป็นระยะทาง150กิโลเมตรไปยังเมืองเวโนน่า(Venona.)ประเทศอิตาลีโดยมีเเค่หัวหอมกระป๋องเป็นเสบียง เเละพบเข้ากับหน่วยยานเกราะของสหรัฐเเละได้บินกลับไปยังอังกฤษเพื่อรักษาตัว เเจ็คอาสากลับมารบอีกครั้งเเละถูกส่งไปแปซิฟิกเเต่วันที่เค้าไปถึงอินเดียสงครามก็จบเสียเเล้ว เเจ็คบ่นกับเพื่อนในภายหลังว่า"ถ้าไม่ใช่เพราะพวกไอ้กันนะ เราจะรบต่อไปอีกซักสิบปี"
หลังสงครามเเจ็ค เชอร์ชิลยังคงอยู่ในกองทัพในฐานะครูฝึกสอนของหน่วยพิเศษเเละได้ทำการฝึกสอนทั้งในเเละนอกประเทศ เเจ็คเกษียณตัวเองจากกองทัพในปี1959 เเละเสียชีวิตที่เมืองเซอเร่(Surrey)ในปี1996
*เเจ็คมีคำพูดติดปากว่า นายทหารที่ไม่พกดาบ ถือว่าเเต่งตัวไม่เรียบร้อย
เรียบเรียงไทย https://www.facebook.com/
ต้นฉบับ http://www.dailymail.co.uk/