เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thelittlerebellion.com
เด็กวัยรุ่นอเมริกัน 3 คน เจอเงินกว่า 1.3 ล้านบาท ซ่อนไว้ใต้โซฟามือสอง พร้อมรุดนำเงินคืนเจ้าของ ลั่นไม่เสียใจที่ทำความดี
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล์ รายงานว่า 3 เพื่อนนักเรียนจากกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ได้ซื้อโซฟามือสองจากร้านขายของเก่าแห่งหนึ่ง ในราคาเพียง 20 ดอลลาร์ หรือประมาณ 650 บาท แต่สุดท้าย ทั้งสองคนก็มาพบว่า โซฟานั้นกลายเป็นที่ซ่อนเงินของเจ้าของเก่า และมีเงินซ่อนอยู่ใต้โซฟาทั้งสิ้นกว่า 1.3 ล้านบาท
โดย น.ส.รีส เวิร์คโฮเฟ่น, นายคัลลี่ กัวสตี และ น.ส.ลาร่า รุสโซ่ ได้ซื้อโซฟามือสองจากร้านซัลเวชั่น อาร์มี่ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะนำมาไว้ที่บ้านในย่านนิวพลาซ์ ซึ่งต่อมาในเดือนเมษายน หลังจากที่พวกเขากำลังนั่งดูหนังอยู่ พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงรอยย่นตรงหมอนทั้งสองข้างที่ติดกับโซฟา จึงได้แกะออกดู แล้วก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบถุงกระดาษใส่เงินสดซ่อนเอาไว้ตรงรอยแยกของโซฟา
"มีบับเบิลห่อถุงกระดาษอยู่ 2-3 ถุง ซ่อนไว้ใต้โซฟา เราฉีกบับเบิลออกและตกใจแทบสิ้นสติ เพราะในถุงกระดาษนั้นมีธนบัตรร้อยดอลลาร์หนาเป็นปึกอยู่ในถุง" รีส เวิร์คโฮเฟ่น กล่าว
จากนั้น ทั้งสามคนต่างงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงรื้อโซฟาเพื่อหาดูว่า มีอะไรที่ซ่อนอยู่ในนั้นอีกบ้าง และเมื่อพวกเขาเอาถุงกระดาษทั้งหมดออกมาแล้ว พวกเขาก็มานั่งนับเงินด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับถ่ายภาพไปด้วย ซึ่งพบว่า มีเงินทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ใต้โซฟากว่า 41,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 1.3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อนทั้ง 3 คนก็ต้องมาเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อการตัดสินใจ เมื่อ 1 ในถุงกระดาษนั้น มีชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่บนถุง ดังนั้น ทั้ง 3 คนจึงเริ่มเสาะแสวงหาผู้ที่เป็นเจ้าของเงินตัวจริง และด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของนักเรียนคนอื่น ที่บอกพวกเขาว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เนื่องจากกลัวจากเงินนี้จะถูกขโมยไป จนสุดท้าย คุณแม่ของ น.ส.รีส เวิร์คโฮเฟ่น ก็เจอชื่อของผู้หญิงเจ้าของเงินในสมุดหน้าเหลืองและได้โทรหาหญิงคนนั้นทันที
ทั้งนี้ หญิงคนนั้นเป็นหญิงชราที่ไม่ขอเปิดเผยตัว เธอบอกว่า สามีที่ป่วยของเธอได้ให้เงินสดจำนวนนี้กับเธอหลายปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เพื่อให้เธอสามารถมีเงินใช้ต่อไปได้หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว แต่เธอเองไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปไว้ที่ไหนดี จึงซ่อนเงินเอาไว้ในโซฟาตัวเก่า และเก็บเงินเอาไว้ในโซฟากว่า 30 ปี จนกระทั่งเธอต้องเข้าผ่าตัดหลังและใช้เวลาหลายเดือนในศูนย์ฟื้นฟู ซึ่งในขณะนั้น คุณหมอได้แนะนำให้ลูก ๆ ของเธอเปลี่ยนโซฟาตัวนั้นเสีย เพื่อเวลาที่เธอนอน โซฟาจะช่วยพยุงหลังได้ดีขึ้น เธอจะได้ไม่รู้สึกเจ็บหลัง ลูกของเธอจึงตัดสินใจนำโซฟาไปบริจาคที่ซัลเวชั่นอาร์มี่ โดยที่ไม่รู้ว่ามีเงินซ่อนอยู่
"เราเกือบจะไม่ซื้อโซฟานั่นแล้ว เพราะมันทั้งน่าเกลียดและมีกลิ่นเหม็น แต่มันเป็นโซฟาตัวเดียวที่เข้ากับขนาดห้องของเราพอดี เราทั้งสามคนไม่เสียใจที่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราคิดว่าทุกคนสามารถทำความดีได้หากพวกเขามีความตั้งใจมากพอ" เพื่อนทั้ง 3 คนกล่าว