คดีการเสียชีวิตของ สรุพล สมบัติเจริญ

 

 
คดีการเสียชีวิตของ สรุพล สมบัติเจริญ

สุรพล หรือ ลำดวน สมบัติเจริญ อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ ๑๒๕ ถนนนางพิม อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ฐานะทางครอบครัวแต่เดิมค่อนข้างจะดีด้วย คุณพ่อรับราชการอยู่แผนกสรรพากรจังหวัด ชื่อ เปลื้อง สมบัติเจริญ ส่วนคุณแม่ชื่อ วงศ์ นอกจากเป็นแม่บ้านแล้วยังค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้านกลางใจเมืองสุพรรณ สุรพลเป็นบุตรชายคนที่ ๒ ในบรรดาพี่น้องท้องเดียวกัน ๖ คน หลัง จบชั้นประถมจาก โรงเรียนประสาทวิทย์ ก็มาเรียนที่โรงเรียนกรรณสูตศึกษาลัยจนจบมัธยมปีที่ ๖ เมื่อเรียนจบที่สุพรรณบุรี คุณพ่อก็ส่งสุรพลเข้ามาเรียนต่อที่ โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย แต่สุรพลก็เรียนได้เพียงปีครึ่งก็ต้องลาออก เพราะใจไม่รักแต่ด้วยไม่อยากขัดใจคุณพ่อ การเรียนก็เลยไม่ดี เขาไปสมัครเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนสุพรรณกงลิเสวียเสี้ยว เป็นโรงเรียนจีน แต่สอนอยู่ได้แค่ครึ่งปีก็ลาออก ด้วยใจไม่ได้รักอาชีพนี้อย่างจริงจัง เขา ได้สมัครเข้าไปเป็นทหารอยู่ที่โรงเรียนนักเรียนจ่าทหารเรือ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชะตาเขาพลิกผัน หลังจากเขาได้หนีราชการทหารเรือจนได้รับโทษถูกคุมขัง เขาได้กลายเป็นขวัญใจของนักโทษ ด้วยการร้องเพลงกล่อมก่อนนอน เมื่อได้รับอิสรภาพ สุรพลได้ทิ้งเส้นทางทหารเรือ สุรพลมีโอกาสได้ร้องเพลงในงานสังสรรค์กองทัพอากาศ น้ำเสียงของเขาได้โดนใจหัวหน้าคณะนักมวยเลือดชาวฟ้า อย่างเรืออากาศศรีปราโมทย์ วรรณพงษ์ จึงเรียกตัวเขาไปพบในวันรุ่งขึ้น และยื่นโอกาสให้สุรพลย้ายไปเป็นนักร้องประจำกองดุริยางค์ทหารอากาศ ใน ปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เพลง 'น้ำตาลาวเวียง' เป็นเพลงแรกที่ได้บันทึกเสียง แต่เพลงที่ทำให้เป็นที่รู้จักทั่วไปคือเพลง 'ชูชกสองกุมาร' หลังจากนั้นชื่อเสียงของสุรพล ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น และมีผลงานชุดใหม่ออกมาเรื่อยๆ เช่น 'สาวสวนแตง' 'เป็นโสดทำไม' 'ของปลอม' 'หนาวจะตายอยู่แล้ว' 'หัวใจผมว่าง' 'สาวจริงน้อง' 'ขันหมากมาแล้ว' 'น้ำตาจ่าโท' 'มอง' และอีกหลายเพลง และ ทำให้คนรู้จักความเป็น "สุรพล สมบัติเจริญ" อย่างแท้จริงในเวลาต่อมาก็คือเพลง "ลืมไม่ลง" และเมื่อชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป สุรพลจึงมีงานร้องเพลง นอกสังกัดถี่ขึ้นเป็นลำดับ อาทิ ร่วมร้องกับวง "แมมโบ้ร็อค" ของ เจือ รังแรงจิตร วง "บางกอกช่ะช่ะช่ะ" ของ ชุติมา สุวรรณรัตน์ และ สมพงษ์ วงษ์รักไทย ส่วนวงดนตรีที่สุรพลร้องด้วยมากที่สุดคือ วง "ชุมนุมศิลปิน" ของ จำรัส วิภาตะวัตร ตลอด ชีวิตของการเป็นนักร้อง สาเหตุที่ทำให้ "สุรพล" ได้รับการยอมรับว่าเป็นราชาเพลงลูกทุ่ง เพราะความอัจฉริยะในตัวเองที่สามารถแต่งเพลง และยังคงเป็นที่จดจำจนทุกวันนี้ก็มี อาทิ ลืมไม่ลง, ดำเนินจ๋า, แซ่ซี้อ้ายลื้อเจ็กนั้ง, หัวใจเดาะ, สาวสวนแตง, น้ำตาจ่าโท, สนุกเกอร์, นุ่งสั้น, จราจรหญิง, เสน่ห์บางกอก และ ๑๖ ปีแห่งความหลัง เป็นต้น นอก จากจะแต่งเอง ร้องเองแล้ว "สุรพล" ยังทำหน้าที่ครูแต่งเพลงให้คนอื่นร้องจนโด่งดังอีกด้วยอย่างเช่น ผ่องศรี วรนุช, ไพรวัลย์ ลูกเพชร, ละอองดาว สกาวเดือน, ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย, เมืองมนต์ สมบัติเจริญ เป็นต้น ส่วนเรื่องใครฆ่านั้น เรื่องนี้เป็นคำตอบที่ไม่แน่นอน เพราะเรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องกับความตายของ "สุรพล สมบัติเจริญ" อาจมาจากเรื่องชู้สาว ก็ได้ เพราะสมัยนั้นสุรพล สมบัติเจริญดังมากๆ แฟนเพลงสาวๆ ติดกันตรึม และผนวกกับสุรพล ก็เป็นคนประเภทเจ้าชู้อยู่แล้วด้วย กรณีที่ถูกยิงนั้นก็มาจากเรื่องแอบไปเป็นชู้กับเมียของผู้มีอิทธิพลในจังหวัดนครปฐมนั้นแหละครับ เพราะช่วงนั้นคุณสีนวลภรรยาของสุรพล ได้แยกออกไปอยู่ต่างหากเพราะทนความเจ้าชู้ของสุรพล ไม่ได้ เรื่องประเด็นอื่นนั้นน่าจะไม่มีเป็นแน่ ส่วนผู้บงการสั่งฆ่านั้นก็มีอิทธิพลมาก ตำรวจสาวไปเจอตอแล้วก็หยุด ทำอะไรไม่ได้ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสมัยปี 2500 นั้น กฎหมายบ้านเมืองก็ยังไม่เข้มมากนัก ส่วนมือปืนรับจ้างนั้นตายไปนานมากแล้ว
ความตายของเขาก็ยังคงเป็นปริศนาดำมืด ด้วยสำนวนคดีที่ไม่มีตัวจำเลย 
ที่มา http://www.suphaninsure.com/wizContent.asp?wizConID=59489&txtmMenu_ID=7
 
 
 
14 พ.ค. 57 เวลา 10:32 13,974 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...