ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ หลายๆ ทีการจะจับจ่ายใช้สอยแต่ละครั้งต้องผ่านกระบวนการการคิดมาอย่างถี่ถ้วนสุดๆ เพราะอยากจะให้เงินในกระเป๋ายัง ‘ชะลอ’ อยู่ด้วยกันไปนานๆ ซึ่งภาวะที่จะเห็นได้ชัด คงจะเป็นช่วงสิ้นเดือนมหันตภัย ที่การยังชีพต้องปรับเป็นการจำกัดจำเขี่ยที่แสนแตกต่างกับช่วงต้นเดือนและทางเลือกให้รอดพ้นช่วงดังกล่าวไปได้อย่างไม่บอบช้ำเกินไปนัก คงหนีไม่พ้นการพึ่งพา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
จากกระแสข่าวเกี่ยวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกำลังปรับขึ้นในส่วนของราคาค้าส่ง เนื่องจากผู้ค้ามีกำไรที่ลดลง ทำให้เกิดการยื่นเรื่องขอเพิ่มเพดานราคาสินค้า แต่ในส่วนของราคาค้าปลีก ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยได้หรือไม่ เพราะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่ต้องผ่านการควบคุมราคา ซึ่งล่าสุดมีการสรุปออกมาว่า ไม่มีการขึ้นราคาแต่อย่างใด โดยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดปกติ จะอยู่ที่ราคาห่อละ 6 บาท
“มาม่าปลิดชีพ” กรุ๊ปในเฟซบุ๊คที่มีสมาชิกมากกว่า 14,000 ราย เป็นอีกหนึ่งกรุ๊ปที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้สวนกระแสข่าวมาม่าราคาขึ้น ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มสมาชิกเพื่อแชร์ภาพเมนูมาม่าที่ถูกพัฒนาให้น่ารับประทานมากขึ้น
โดยสเต็ปของการบริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปจากแบบสำเร็จรูปเก่าๆ คือ ฉีกซอง-เติมน้ำ-ปิดฝารอสามนาที เปลี่ยนไปสู่เมนูมาม่าพิสดาร ตามความชื่นชอบของแต่ละคน นำมาปรุงเพิ่มเติมแต่งแบบมีไอเดียสร้างสรรค์ เช่น มาม่าผัดน้ำพริกอ่อง มาม่าคาโบนาร่า มาม่าต้มยำทะเลน้ำใสหมูยอ มาม่าหมูก้อนทอดทะเลไข่ มาม่าเบอร์เกอร์ มาม่าต้มยำปลากระป๋อง
กรุ๊ป มาม่าปลิดชีพ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ส่วนใหญ่มองว่าเป็นอาหารเรียบง่ายราคาประหยัด เพราะหากคำนวนดูจากการใช้วัตถุดิบที่นำมาใช้ ราคาสุทธิทั้งหมดคงไม่ต่างกับอาหารมื้อปกติ มีตั้งแต่ชามละ 50บาท จนไปถึงหลักหลายร้อยถามแต่วัตถุดิบที่สรรหามา
รวมไปถึงเป็นการข้ามพ้นเรื่องของราคาค่าใช้จ่าย ไปที่มูลค่าของความสุขที่ได้จากการลงมือสร้างสรรค์เมนูที่เป็นหนึ่งเดียวของแต่ละคน รวมไปถึงความสุขจากการได้แบ่งปันไอเดียนั้นๆ ให้กับเพื่อนร่วมกลุ่มของตน ซึ่งที่สุดแล้ว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้กลายมาเป็นส่วนประกอบหลักสำหรับการสร้างไอเดียใหม่ๆ และเป็นการทำลายกรอบการบริโภคแบบเก่าๆ รวมถึงภาพลัพษณ์ของสินค้าประเภทนี้ไปอย่างสิ้นเชิง