อาถรรพ์เจ้าหญิง และ คําสาปมัมมี่

 ความลับของเรื่องการล่มของเรือไททานิด  เป็นโศกนาฏกรรมที่พูดกันไม่มีวันจบ และหนึ่งในสาเหตุครั้งนั้นเชื่อกันว่ามีที่มาจากอาถรรพ์คําสาปของมัมมี่รวมอยุ่ด้วยครับ 

 ถ้าเป็นแค่มัมมี่ของเศรษฐีผุ้มีอันจะกินธรรมดา  ก็คงไม่เฮื้ยนขนาดสร้างตํานานชุ้รักเรือล่มขึ้นมาได้หรอกครับ  แต่มัมมี่ตัวที่ว่านี้บังเอิญเส้นใหญ่แข็งโป็ก  เพราะเป็นถึงมัมมี่ของบุคคลชั้นสุงระดับเจ้าหญิง  อาถรรพ์คําสาปก็เลยรุนแรงตามไปด้วย

เจ้าหญิงพระองค์นี้มีชื่อว่า  เจ้าหญิงอาเมนรา  ทรงมีชีวิตอยุ่เมื่อหลายพันปีก่อนคริสตกาลเมื่อสิ้นพระชนม์ลงก็ถูกเอาไปทําเป็นมัมมี่เก็บไว้อย่างดีในสุสานหลวง  พร้อมด้วยสมบัติทรัพย์ศฤงคารอีกมหาศาลตามธรรมเนียมการเก็บพระศพของเจ้านาย

แต่ในปี พ.ศ. 2433  นักสํารวจชาวอังกฤษ 4 คนซึ้งไปขุดหาวัตถุโบราณแถวๆ สุสานก็ได้ซื้อมัมมี่ของพระองค์มาจากพ่อค้าที่ขโมยขุดสุสาน  จากนั้นไม่แค่กี่ชั่วโมงอาถรรพ์สุดสยองก็เรี่มขึ้น....นักสํารวจคนแรกเดินหายเข้าไปในทะเลทรายโดยไม่ได้กลับออกมาอีกเลย  นักสํารวจคนที่สองก็ให้มีเรื่องทะเลาะกับคนรับใช้จนถูกฟันแขนขาด  คนที่สามได้รับโทรเลขจากทางบ้านบอกว่าธนาคารที่เขาฝากเงินไว้เกิดล้มละลายต้องกลายเป็นคนหมดตัวภายในข้ามคืน  ส่วนนักสํารวจคนที่สี่ก็ไม่สบายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด  พอหายป่วยร่างกายก็ไม่มีแรง  ทํางานไม่ได้ ต้องยืนขายไม้ขีดไฟเลื้ยงชีวิตอย่างน่าสงสาร

ถัดจากสี่หนุ่ม  เหยื่อรายต่อมาของมัมมี่เจ้าหญิงอาเมนราก็คือนักธุรกิจชาวอังกฤษ ซึ้งรับซื้อมัมมี่มาโดยไม่รุ้เบื้องหลัง  ผลจากการลองของปรากฏว่าครอบครัวของเขาประสบอุบัติเหตุ  ซํ้าๆ ซากๆ  กันทั้งบ้านจนต้องบริจาคมัมมี่ให้พิพิธภัณฑ์อังกฤษไป  แต่เพียงแค่เอามัมมี่ขึ้นรถอาถรรพ์สยองก็เกิดขึ้น เรี่มจากคนขับรถของพิพิธภัณฑ์ขับรถถอยหลังไปทับชาวบ้านที่เดินอยุ่แถวๆนั้น จนเจ็บระนาวจากนั้นเมื่อขนโลงไปเก็บที่พิพิธภัณฑ์กรรมกรที่แบกโลงก็ตกบันไดลงมาขาหัก  2 วันต่อคนงานอีกคนก็ตายไปโดยไม่มีใครรุ้สาเหตุ  เฮื้ยนได้ใจดีไหมล่ะ!  แค่นี้ยังไม่หนําใจ  เจ้าหญิงอาเมนรายังมาตามแสดงเดชมัมมี่ภาคสองต่อในห้องจัดแสดงเดชมัมมี่ภาคสองต่อในห้องจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์คราวนี้มากับความมืดครับ  ตั้งแต่เอามัมมี่มาแสดง ยามที่ทํางานกะกลางคืนมักจะได้ยินเสืยงผุ้หญิงร้องไห้  ตามด้วยเสียงเตะถีบทุบโลงจ้าละหวั่น  จนยามแทบจะจับไข้ไปตามๆกัน  จากนั้นยามในกะนี้ก็เรี่มทยอยตายลงทีละคนๆ  ทั้งๆ ที่แต่ละคนก้ยังหนุ่มแน่นแ็งแรงกันทั้งนั้น  เจ้าหญิงทรงอาละวาดขนาดนี้ ถ้ามาอยุ่ในประเทศแถบตะวันออกอย่างบ้านเราก็น่าจะมีผลอะไรบ้างแล้ว  แต่พิพิธภัณฑ์อังกฤษยังทําตัวต่อมสยองตายด้านไม่รุ้ไม่ชี้ก้มหน้าตาเฉย  แถมยังส่งคนไปปัดฝุ่นบนพระพักตรของมัมมี่เสียนี่ไม่รุ้ซะแล้วว่าอะไรเป็นอะไร  ไม่กี่วันต่อมาผุ้หวังดีที่ไปปัดฝุ่นก้ต้องร้องไห้เมื่อลูกชายมาตายลงกะทันหัน ส่วนผุ้ช่วยก็ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัสเกือบจะพิการตลอดชีวิต  

 เจอเข้าไปติดๆ กันหลายศพ  คนอังกฤษที่ว่าไม่กลัวผีก็ชักจะทนไม่ไหว  เพราะขนาดช่างภาพที่แค่มาถ่ายรูปโลงศพเฉยๆ  ยังลุกขึ้นมายิงตัวตาย  ส่วนรูปที่ถ่ายไปก็ได้ออกมาเป็นภาพหฤโหดน่าเกลียดน่ากลัวจนคนที่เห้นแทบจะจับไข้หัวโกร๋นี่  ในที่สุดทางพิพิธภัณฑ์จึงตัดสินใจขายมัมมี่ของเจ้าหญิงให้นักสะสมรายหนึ่ง  แต่ไม่กี่วันต่อมาเจ้าของคนใหม่ก็มีอันเป็นไปอีกจนได้ครับ 

 มัมมี่เจ้าหญิงยังต้องชัดเชพเนจรถูกขายทอดตลาดต่อไปอีก  คราวนี้คนที่ซื้อเป็นนักโบราณคดีชาวอเมริกันซึ้งกําลังจะเดินทางไปนิวยอรค์  ก็เลยขนโลงพระศพลงเรือลําใหม่สุดโก้ที่ชื่อว่า เรือไททานิด  ในเดือนเมษายน พ.ศ 2454 จากนั้นเรือยักษ์ลําที่ทุกคนพูดเป็นเสืยงเดืยวกันว่าไม่มีทางล่มก็พาผุ้โดยสารออกเดินทางเป็นรอบปฐมฤกษ์

และแล้วโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น  คราวนี้อาถรรพ์มัมมี่พาเอาคนบริสุทธิ์นับร้อยคนจมดิ่งลงใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เป็นการสังเวยคําสาปมัมีมี่ครั้งสุดท้ายของเจ้าหญิงอาเมนราครับ  จบ  สวัสดีครับ

Credit: wome
22 เม.ย. 53 เวลา 07:11 7,099 3 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...