สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมานางปวีณาได้รับการประสานงานจากนายศุภชัย ลิ้มพิพัฒน์โสภณ เจ้าหน้าที่ธุรการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 (ภาคตะวันออก) ดีเอสไอ จ.ชลบุรีว่ามีขบวนการนำเด็กมาขอทานในย่านพัทยาเป็นจำนวนมากจึงได้ออกสืบสวนเพื่อหาข้อมูล หลังจากการใช้เวลาในการติดตามระยะหนึ่งพบว่ามีผู้หญิงชาวเขมรรายหนึ่งจะนำเด็กเล็กๆ มาส่งตามตลาดนัด วอร์คกิ้งสตรีท สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในพัทยาและชายหาดพัทยา เจ้าหน้าที่จึงทำทีให้เงินและพูดคุยกับเด็กชายเอ (นามสมมติ) อายุ 5 ปี จนทราบว่า มีแม่ชื่อนางเล็ก เป็นชาวเขมร ทุกวันแม่จะพาไปบริเวณชายหาดพัทยาซอย 7 -8 เพื่อขอทาน ถ้าวันไหนไปขอทานไม่ได้เงินกลับมาก็จะถูกตี และเมื่อวันไหนได้เงินมาก็ต้องให้แม่เล็กทั้งหมด และแม่ของตนก็จะนำเงินไปซื้อเหล้า ชื้อยาบ้า เล่นการพนัน เมื่อทราบเรื่องดังกล่าวจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว พัฒนาสังคมจังหวัดชลบุรี จัดทีมร่วมกันออกสืบสวน ติดตามแม่เล็กเด็กขอทานคู่นี้ จนทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการซึ่งมีทั้งชาวไทยและเขมรร่วมกัน และทำมาเป็นเวลานาน อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ราคาหลายล้านบาท ทำการจัดหาเด็ก คนพิการ ส่งมาจากประเทศเขมร รวมกันอยู่ประมาณ 20-30 คน โดยจะแบ่งกันเช่าบ้านอยู่ 3 จุด จุดที่1. บ้านเช่าไม่มีเลขที่ย่านเขาน้อย อำเภอบางละมุง จุดที่ 2.บ้านเลขที่ 50 / 543 หมู่ 5 อำเภอบางละมุง จุดที่ 3 บ้านเลขที่ 45 / 32 หมู่ 6 ซอยบ้านล่าง อำเภอบางละมุง
จากนั้นจึงได้มีการนำเด็ก 3 คน มาสอบป.วิอาญา จนทราบว่ามีเด็กตั้งแต่อายุไม่กี่เดือนจนถึง 13 ปี ถูกนำมาขอทาน จึงรีบขออำนาจศาลออกหมายค้นบ้านทั้ง 3 แห่งซึ่งไม่พบกลุ่มเด็กดังกล่าว จากนั้นมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่ามีกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ต้องสงสัยได้เดินทางไปร่วมงานศพที่วัดสว่างฟ้า อ.บางละมุง นางปวีณาพร้อมคณะจึงได้เดินทางไปที่วัดดังกล่าว พบกลุ่มเด็กต้องสงสัยและผู้ใหญ่ประมาณ 30 กว่าคนกำลังร่วมงานศพ จึงได้นำตัวกลุ่มเด็กและผู้ใหญ่ดังกล่าวมาที่ดีเอสไอเพื่อสอบปากคำ เพื่อขยายผลติดตามจับกุมหัวหน้าแก๊งค้ามนุษย์และผู้ร่วมขบวนการรายนี้ต่อไป
นางปวีณา กล่าวว่า การเข้าตรวจค้น ช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เหล่านี้ เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการของ พม. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เป็นการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ค้า หาผลประโยชน์จากเหยื่อ
"หลังจากนี้จะนำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อ และสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเพื่อหาผู้กระทำความผิดและขยายผลจับกุมดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งช่วยเหลือ ฟื้นฟูดูแลสภาพจิตใจ โดยเบื้องต้นได้จัดเจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ดูแลให้อยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งบุคคลเหล่านี้ควรได้รับสิทธิ์ในการดำรงชีวิตให้อยู่ในสังคมได้ต่อไป และประเทศไทยควรมีความมุ่งมั่นในการปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง" นางปวีณากล่าว