ญาติโยมแห่กราบไหว้ยันตระ พศ. ชี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ห้ามไม่ได้


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส
        
          พระยันตระ กลับไทย ญาติโยมแห่กราบไหว้เพียบ ลั่นเตรียมอยู่ไทยถาวร รอทำเรื่องเอกสารอยู่ ระบุจะกลับมาทำให้เศรษฐกิจปากพนังดีขึ้น ขณะที่ พศ. ชี้ประชาชนกราบไหว้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ห้ามไม่ได้ ส่วนคดีความหมดอายุทุกคดีแล้ว

          วานนี้ (25 เมษายน 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงฉัน ภายในวัดรัตนาราม วัดบางบ่อ ต.บางบ่อ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือ อดีตพระยันตระ พร้อมด้วยลูกศิษย์และญาติโยมกว่า 100 คน ได้เดินทางมายังสถานที่ดังกล่าว โดยขณะที่ยันตระเดินทางเข้ามาในโรมฉัน บรรดาญาติโยมต่างกล่าวคำว่า "สาธุ" พร้อมกราบไหว้ ก่อนที่จะนำอาหารมังสวิรัติมาถวายแก่ยันตระ และพระสงฆ์จำนวน 12 รูป
       
          ทั้งนี้  หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ ยันตระ ได้กล่าวว่ากับญาติโยมว่า การเดินทางมาพบกันในครั้งนี้ ถือว่าเป็นบุญกุศลที่ได้ทำร่วมกันมา ซึ่งการกลับไทยครั้งนี้ตนก็ไม่ได้ตั้ง ส่วนในวันนี้ (26 เมษายน 2557) ตนจะเดินทางไปยัง จ.ภูเก็ต เพื่อให้หมอดูแลสุขภาพ และจะเดินทางกลับ อ.ปากพนัง ในวันที่ 28 เมษายน ก่อนจะเดินทางกลับสหรัฐฯ ต่อไป

          ยันตระ กล่าวอีกว่า การที่ตนเดินทางกลับไทยก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร อีกทั้งยังทำให้เศรษฐกิจเมืองปากพนังดีขึ้นด้วย ส่วนการเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ก็เป็นไปตามกลไกธรรมชาติไม่ได้ปรุงแต่ง ซึ่งญาติโยมบางคนที่ได้เจอในวันนี้ ก็เคยพบกันสมัยตนอยู่ในป่ากาญจนบุรี

          พร้อมกันนี้ ยันตระ ยังกล่าวด้วยว่า ตนตั้งใจจะกลับมาอยู่ที่ปากพนัง แต่ต้องรอเวลาอีกสักนิด เพราะยังไม่มีหนังสือ คาดว่าอีกไม่นานตนก็จะได้กลับมาอยู่ที่นี่อย่างถาวร ซึ่งหากกลับมาตนจะทำให้คนปากพนังมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตนอยู่ต่างประเทศทราบเรื่องราวของปากพนังมาโดยตลอด จึงอยากให้ทุกคนหันมาช่วยเหลือกัน ดูแลฟื้นฟูเศรษฐกิจปากพนังให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ตนมั่นใจว่าโครงการพระบรมธาตุเจดีย์จะได้เป็นมรดกโลกอย่างแน่นอน ขอให้ทุกคนมีความอดทนในการรอ เพราะถ้าโครงการพระบรมธาตุเจดีย์จะได้เป็นมรดกโลกได้ ก็จะทำให้อู่ข้าวอู่น้ำเมืองปากพนังก็จะฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง

          ขณะที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องคดีความยันตระว่า ขณะนี้ทุกคดีความหมดอายุแล้ว และการที่ประชาชนเข้าไปกราบไหว้ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลซึ่งห้ามไม่ได้ เนื่องจากยันตระไม่มีความเกี่ยวข้องกับสงฆ์แล้ว แต่ส่วนตัวเห็นว่าการไปกราบไหว้พระที่ปาราชิกแล้ว ถือว่าไม่เหมาะสม ส่วนการบิณฑบาตนำพระสงฆ์ที่เคยปฏิบัติที่สหรัฐฯ แล้วจะนำมาปฏิบัติในประเทศไทย ก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน เพราะการบิณฑบาต คือ กิจของสงฆ์ไม่ใช่ของฆราวาส
 


 ติดตามข่าว พระยันตระ กลับไทย แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์, 

Credit: http://hilight.kapook.com/view/101235
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...