ที่มา : mcfc.in.th
สูง 597 เมตร คาดว่าจะเสร็จ 2016 จบอันดับสุดท้ายกับประเทศที่มีตึกสูงมากที่สุดนั่นก็คือประเทศจีนนั่นเอง “โกลดินไฟแนนซ์117 (Goldin Finance 117) หรือไชน่า 117 (China 117)” สถานที่ตั้ง – มหานครเทียนจิน ความสูง (ถึงหลังคา) - 600 เมตร จำนวนชั้น - 117 ชั้นเนื้อที่ - 406,000 ตารางเมตร มูลค่าในการก่อสร้างโดยประมาณ - 820,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯเริ่มสร้าง - ปี 2008 กำหนดปีแล้วเสร็จ - ปี 2015โครงการนี้พัฒนาโดยโกลดินพร็อพเพอร์ตีส์ในฮ่องกงบนยอดสุดของโกลดินไฟแนนซ์117 ได้รับการออกแบบใหม่เป็นรูปเพชรเมื่อสร้างเสร็จตึกแห่งนี้จะใช้เป็นที่ตั้งสำนักงาน, โรงแรม, ภัตตาคารและศูนย์สรรพสินค้าและทั้งหมดนั้นก็คือ เจ้าของตำแหน่งว่าที่ 10 ตึกที่สูงที่สุดในโลก อยากไปเยี่ยมที่ไหนก็เตรียมหยอดกระปุกไว้แต่เนิ่นๆ
สูง 600 เมตร คาดว่าจะเสร็จ 2018 การออกแบบเมนาราวาริสันเมอร์เคดา ยังปิดไว้เป็นความลับ ซึ่งยังต้องรอต่อไป วันนี้ทางทีมงานก็เอารูปตึกใน มาเลเซียมาให้ดูกันก่อนแก่ขัด
สูง 601 เมตร เปิดตัว 2012ตึกสูงอันดับ 8 ที่ตั้งอยู่ในนครมักกะห์ “อับราจอัลเบททาวเวอร์ส” เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้มัสยิดฮะรอมซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีอุมเราะหฺและพิธีฮัจญ์ในนครมักกะห์ (Makkah) ประเทศซาอุดิอาระเบียบริหารงานโดยกลุ่มทุนคิงดอมโฮลดิ้งในกรุงริยาดรับผิดชอบด้านการก่อสร้างโดยกลุ่มบริษัทซาอุดิบินลาดินกรุ๊ป โครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนกว่า 6.5 หมื่นล้านประกอบด้วยหมู่ตึกใหญ่น้อยจำนวน 7อาคารศูนย์การประชุมโถงละหมาดสำหรับ 3,800 คนศูนย์การค้าฯลฯมีพื้นที่ใช้สอยทั้งสิ้นมากถึง 4.5 ล้านตารางเมตร ”อับราจอัลเบทโฮเต็ลทาวเวอร์” *” มีความสูงทั้งสิ้น 76 ชั้นขนาด 858 ห้องบนยอดอาคารเป็นที่ตั้งของนาฬิกายักษ์ขนาด 40 เมตร (ใหญ่กว่านาฬิกาบิ๊กเบนในกรุงลอนดอน 5 เท่า) สามารถมองเห็นได้ในรัศมี 17 กิโลเมตรนอกจากนี้ภายในโรงแรมดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งของศูนย์สังเกตการณ์ดวงจันทร์ (Lunar Observation Center) และพิพิธภัณฑ์อิสลามอีกด้วย
สูง 632 เมตรคาดว่าจะแล้วเสร็จ 2014 สำหรับตึกสูงที่เคยเป็นอันดับ2รองจากเบิร์จ คาลิฟา มาคราวนี้ตกลงมาอยู่ในอันดับ 7 เลยทีเดียวเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์อยู่ในเขตพู่ตงเป็นรองอาคารเบิร์จคาลิฟาที่ดูไบซึ่งเคยสูงที่สุดในโลกด้วยความสูง 2,722 ฟุตสำหรับอาคารสูงระฟ้าเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์นี้จะประกอบด้วยโรงแรมหรูและสำนักงานห้างร้านต่างๆ ตกแต่งโดยบริษัทสถาปนิกชั้นนำของสหรัฐคือเกนส์เลอร์อาคารเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์นี้เป็นอาคารสูงที่สุดในเซี่ยงไฮ้แทนที่อาคารศูนย์การเงินโลกเซี่ยงไฮ้ที่สร้างเสร็จเมื่อปี 2550 ซึ่งครองแชมป์อาคารสูงที่สุดมาก่อนรวมทั้งอาคารจินเหมาซึ่งมีความสูงติดอันดับที่สุดในโลกเช่นกัน
สูง 636 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2017 มาอีกตึกที่พี่จีนส่งเข้าประกวดนั่นก็คือ หวู่ฮั่นเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ยความสูง (ถึงปลายยอด) - 606 เมตร (1,988 ฟุต) จำนวนชั้น - 119 ชั้นเนื้อที่ - 300,000 ตารางเมตรกำหนดปีแล้วเสร็จ - ปี 2017 สถาปนิกผู้ออกแบบ - Adrian Smith และ Gordon Gill Architecture วิศวกรผู้ควบคุม - Thornton Tomasetti หวู่ฮั่นกรีนแลนด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์สร้างโดยกลุ่มกรีนแลนด์กรุ๊ปเมื่อสร้างเสร็จจะใช้เป็นศูนย์กลางธุรกิจของเมืองหวู่ฮั่นและเป็นที่พักอาศัยและโรงแรม
สูง 638 เมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จ ในปี 2020 มาถึงประเทศพี่เบิ้มในเขตเพื่อนบ้าน AEC ของเรากันบ้างกับโครงการ‘เดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์’ จะสร้างขึ้นที่ใจกลางย่านธุรกิจของจาการ์ตา (Sudirman Central Business District-SCBD) ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยหุ้นส่วนของนายวินาต้าคือบริษัทเอ็มจีเอ็มฮอสปิตาลิตี้ฯยักษ์ใหญ่โรงแรมจากสหรัฐอเมริกา ตึกเดอะซิกเนเจอร์ทาวเวอร์จะมีชั้นหอคอยและภัตตาคารอยู่บนสุดโรงแรมเอ็มจีเอ็ม6 ดาว 22 ชั้นพื้นที่สำนักงานเกรดเอ 2โซน โซนละ 22 ชั้นโซนอพาร์ตเมนต์ 22 ชั้นเพียบพร้อมด้วยศูนย์ประชุมและร้านค้าสินค้าหรูมีลานจอดรถ 6 ชั้นออกแบบโดยบริษัทดังจากสหรัฐอเมริกาคือบริษัทสมอลวู้ดฯบริษัทเรย์โนลด์ฯและบริษัทสจ๊วตแอนด์แอสโซซิเอทฯ
มาถึงประเทศจีนกันบ้าง จีนนั้นถือว่าเด่นในเรื่องของการสร้างตึกสูงอยู่แล้ว ประกอบกับการลงทุนที่เยอะแต่ผลตอบรับก็ถือว่าโอเค เพราะบรรดาตึกสูงๆ ที่เคยสร้างก็ยังสามารถใช้งานได้อยู่จนถึงปัจจุบันสถานที่ตั้ง - นครเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงความสูง (ถึงปลายยอด) - 660 เมตร (2,165 ฟุต) ความสูง (ถึงหลังคา) - 588 เมตร (1,929 ฟุต) จำนวนชั้น - 115 ชั้นเนื้อที่ - 468,600 ตารางเมตร สถาปนิกผู้ออกแบบ - บริษัท Kohn Pedersen Fox วิศวกรผู้ควบคุม - Thornton Tomasetti เริ่มสร้าง - ปี 2009 กำหนดปีแล้วเสร็จ - ปี 2015ผิงอัน อินเตอร์เนชั่นแนล ไฟแนนซ์ เซ็นเตอร์ เมื่อสร้างเสร็จจะกลายเป็นตึกระฟ้าที่สูงเป็นอันดับสองของโลก และสูงที่สุดในจีน แทนที่ เซี่ยงไฮ้ ทาวเวอร์ ที่มีกำหนดสร้างเสร็จในปี 2014 หลังจากสร้างเสร็จ ตึกแห่งนี้จะเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ สถาบันการเงินและบริษัทประกันภัยที่ใหญ่อันดับสองของจีน นอกจากนี้ตึกดังกล่าวจะประกอบด้วยที่ตั้งของโรงแรมรวมทั้งหมด 66 ชั้น
มาถึงอดีตแชมป์ตึกที่สูงที่สุดในโลกกัน เบิร์จ คาลิฟา นั่นเอง เบิร์จ คาลิฟา เริ่มสร้างตั้งแต่ค.ศ. 2005 ออกแบบโดย เอสโอเอ็ม ผู้ออกแบบเดียวกันกับ เซียร์ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันโดยสถาปัตยกรรมในส่วนหนึ่งเป็นการผสมผสานกับรูปแบบของสถาปัตยกรรมอิสลาม และในอีกส่วนหนึ่งมีความใกล้เคียงกับงานออกแบบของตึก ดิอิลลินอยส์ ของ แฟรงก์ ลอยด์ ไรต์ สถาปนิกชาวอเมริกันการตกแต่งภายในจะตกแต่งโดย จอร์โจ อาร์มานี โดยเป็นโรงแรมอาร์มานีสำหรับ 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็น อพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นสำนักงาน และชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึก ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ตึกเบิร์จ คาลิฟา มีความสูงเหยียบ 800 เมตร 160 ชั้น (เฉลี่ยสูงชั้นละ 5 เมตร) บุด้วยผนังกระจกกว่า 26,000 แผง มีพื้นที่รวมกว่า 500,000 ตารางเมตร พร้อมสำหรับออฟฟิศและอพาร์ทเมนต์แล้ว จากการก่อสร้างที่ได้เริ่มในปี 2004 ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นสูงสุด แต่พิธีเปิดกลับต้องมาเริ่มในช่วงวิกฤตทางการเงิน ซึ่งดูไบต้องร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินฉุกเฉิน (Bailed out) จาก อาบู ดาบี
อันดับ 2 ตกเป็นของสกายซิตี้ นี่ก็ตั้งใจทำลายสถิติเบิจ คาลิฟา เหมือนกันแต่โดนคิงดอมทาวเวอร์ ดับฝันไปซะก่อน เหตุที่ผุดไอเดียนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าริษัท บรอด ซัสเทนนาเบิล คอนสตรักชั่น (บีเอสซี) (Broad Sustainable Construction (BSC) ซึ่งมีชื่อเสียงมาก เมื่อปี พ.ศ. 2553 จากการโชว์งานประกอบโรงแรม Ark Hotel ในมณฑลหูนาน ซึ่งสูง 30 ชั้น โดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 วัน และยังคงใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบจนทุกวันนี้ และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาวิศวกรและสถาปนิกจีน ได้ประกาศโชว์งานประกอบอาคารระฟ้า สกายซิตี้ ตึกสูงทึ่สุดในโลก 220 ชั้น (838 เมตร) ให้เสร็จภายใน 90 วัน หรือเฉลี่ยวันละ 5 ชั้น โดยรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของกลุ่มสถาปนิกผู้สร้างว่า ตึกสกายซิตี้ซึ่งจะสร้างที่เมืองฉางซานี้ ออกแบบสร้างโดยกลุ่มวิศวกรและสถาปนิกผู้ผ่านงานสร้างตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) ในดูไบ ด้วย และหากนับความสูงแล้ว ตึกสกายซิตี้ จะสูงกว่าตึกเบิร์จคาลิฟา 10 เมตร แต่มีการเลื่อนระยะเวลาประกอบจาก 90 วัน หรือ 3 เดือน ออกไปเป็น 7 เดือน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเวลาที่สั้นมากๆ อยู่ดีเมื่อเทียบ กับเบิร์จ คาลิฟา ที่ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปีซึ่งตึกที่ว่านี้ใช้เทคนิคการประกอบแบบ(พรีแฟบ-Prefabricated modular) อันลดระยะเวลาก่อสร้างได้มากเนื่องจากไม่ต้องทำหรือก่อทีละชั้นก่อนจึงเริ่มชั้นถัดไปแต่สามารถทำชิ้นส่วนทุกชั้นพร้อมกันโดยเตรียมจากโรงงานต่างๆในเวลาเดียวกันและขนส่งมายังสถานที่ก่อสร้างเพื่อยกขึ้นประกอบทีละชั้นๆ ด้วยทาวเวอร์เครนแต่ความสำคัญอยู่ที่ชิ้นส่วนทุกชิ้นต้องมีการออกแบบมาอย่างดีและสร้างขึ้นจากการคำนวณที่ละเอียดแม่นยำ
ด้วยความสูงถึง 1 กิโลเมตร (ถ้ารวมกับส่วนฐานรากที่ฝังใต้ดิน จะสูงถึง 1.6 กม.) โดยสำนักข่าวต่างประเทศนั้นรายงานว่า บริษัทคิงดอม คอมเพนี ของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ผุดโครงการใหญ่ที่จะสร้างตึกที่มีความสูงเป็นสองเท่าของตึกที่สูงสุดในปัจจุบันในชื่อว่า “คิงดอมทาวเวอร์” หรือ “ไมล์-ไฮล์ ทาวเวอร์”ที่เมืองเจดดะห์ สำหรับตึกนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยถึง 3.5 ล้านตารางเมตรตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาปเดดซี( Dead sea)สำหรับเป็นที่ตั้งของโรงแรมสำนักงานอพาร์ตเมนต์สุดหรู รวมทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่และสามารถเดินทางจากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุดได้ด้วยลิฟท์ความเร็วสูงที่ใช้เวลาเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้นและเมกะโปรเจกต์นี้ทางการซาอุฯได้อนุมัติให้สร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยคาดว่าจะเริ่มลงมือก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ด้วยเม็ดเงินลงทุนมหาศาลถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 972,423 ล้านบาทซึ่งหากก่อสร้างสำเร็จเมื่อใดนอกจาก "คิงดอมทาวเวอร์" จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกแล้วยังจะเป็นตึกที่สูงเกิน 1 ไมล์เป็นตึกแรกของโลกด้วย ที่น่าสนใจเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ Prince Alwaleedแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าบริษัท Kingdom Holding Co., ของราชวงศ์ฯได้เซ็นสัญญามูลค่า $1.2 พันล้านเหรียญกับ Bin Laden Group ในการสร้างตึกนี้โดย Bin Laden Group ดังกล่าวนี้เป็นบริษัทก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของซาอุดิอาระเบียของตระกูล bin Laden ซึ่งเคยเป็นของ Osama bin Lade
ซ้ำขออภัยครับ