เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ มณเฑียร อินทะเกตุ สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
ผอ.ฝ่ายฯ ห้างมาบุญครอง เมาแล้วขับรถชนรถเก็บขยะ ทำให้คนขายของริมทางดับ ส่วนคนเก็บขยะเจ็บ ด้านญาติคนขับวอนสื่ออย่าทำข่าว จนมีปากเสียงกับญาติผู้ตาย
วันนี้ (19 เมษายน 2557) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.จักรวรรดิ์ รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบริเวณหน้าตรอกหัวเม็ดซอยวานิช 1 ถนนจักรวรรดิ์ จึงเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่าที่เกิดเหตุอยู่หน้าตู้โทรศัพท์สาธารณะใกล้ปากซอยวานิช 1 ขณะเดียวกันก็มีรถเก็บขยะของสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ป้ายทะเบียน 77-8478 กรุงเทพฯ มีรอยชนด้านท้ายจนได้รับความเสียหาย
ห่างออกไป 2 เมตร มีรถเบนซ์รุ่น ซีแอลเค 240 สีดำ ป้ายทะเบียน 1กญ 752 กรุงเทพมหานคร อยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน เนื่องจากชนตะกร้าถังขยะริมทางเท้า ทำให้ขยะเกลื่อนเต็มถนน ส่วนคนขับรถได้แก่ นายใจดล ไกรฤกษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายตกแต่งในเครือห้างสรรพสินค้ามาบุญครองอายุ 61 ปี นั่งอยู่ในรถ มีอาการคล้ายคนเมาสุราอย่างหนัก เจ้าหน้าที่จึงนำมาตรวจแอลกอฮอล์ในเลือด พบว่ามีปริมาณสูงถึง 94 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกฎหมายที่กำหนดไว้ที่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ที่ใต้ท้องรถเก็บขยะ พบศพนายสมชาย ขำผิวพรรค พ่อค้าขายกระเป๋าใส่โทรศัพท์มือถือที่ตลาดสำเพ็ง ในสภาพนอนคว่ำหน้า สวมใส่เสื้อโปโลแขนสั้นสีเหลือง กางเกงขาสั้นสีเทา นอนจมกองเลือด ส่วนท้ายรถพบนายทวีป แสนคำ พนักงานเก็บขยะวัย 27 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกกระแทก ต้องนำส่งโรงพยาบาลกลาง
โดย นายสัมฤทธิ์ โตสันเทียะ พนักงานคนขับรถขยะอีกคน เปิดเผยว่า ในเวลาประมาณ 00.10 น. ตนและพนักงานเก็บขยะ 2 คนได้ขับรถมาที่จุดเกิดเหตุเพื่อเก็บขยะ อย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเก็บขยะอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังกระแทกมาจากด้านหลัง เมื่อหันไปดูก็พบอุบัติเหตุรถชนคนและชนรถเก็บขยะ
ส่วนนางสาวเยาวลักษณ์ แสงสุชา หลานสาวผู้ตายวัย 44 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและผู้ตายได้นั่งรถแท็กซี่ขนของเตรียมมาขายที่ตลาดสำเพ็งโดยมากันคนละคัน โดยผู้ตายมาถึงก่อน จึงได้ไปเอารถมาเข็นของ ก่อนที่จะมีการชนกันดังสนั่น ซึ่งตอนแรกที่ได้ยินเสียง ตนก็ไม่กล้าดูเพราะกลัวเป็นคนรู้จัก แต่พอพบว่าเป็นลุงของตนก็รู้สึกใจสลาย เพราะขายของกับลุงมากว่า 20 ปี และลุงก็ไม่มีครอบครัว แต่เป็นคนขยันหาเลี้ยง ช่วยหาเงินดูแลน้องชายที่พิการกับญาติ อย่างไรก็ดี ถ้ามองในแง่ดีลุงก็ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว เพราะชีวิตนี้เหนื่อยมามาก นอกจากนี้ ตนยังรู้สึกแค้น ผอ.ห้างมาบุญครอง ที่หลังเกิดเหตุได้คุยกับเจ้าหน้าที่ทำนองว่า รถเป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่ห่วงผู้ตายเลย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ประสานกับทางผู้เสียชีวิตและญาติคู่กรณีซึ่งเป็นคนขับรถเบนซ์แล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการมึนเมา ไม่สามารถให้การได้ ซึ่งญาติผู้ก่อเหตุระบุว่า ยินดีที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมด และขอให้สื่ออย่าทำข่าวและภาพ เพราะตัวเองเป็นข้าราชการระดับสูง จึงไม่อยากเป็นข่าว แต่ก็ทำให้นางสาวเยาวลักษณ์ สวนไปทันทีว่า สื่อควรทำข่าว เพราะจะได้เป็นกรณีศึกษาเมาแล้วขับเป็นอย่างไร ไม่ต้องห่วงชื่อเสียงจากความผิดครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดการโต้เถียงกันเล็กน้อย
สุดท้าย นายใจดล ผู้ขับรถ เปิดเผยว่า ได้ดื่มสุราในงานเลี้ยงมาจริง ก่อนที่จะขับรถกลับบ้าน จนถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการวูบ รู้ตัวอีกทีเกิดอุบัติเหตุแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าทีตำรวจแจ้งข้อหาขับรถเมาสุรา และขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต