รวมตำนานผีไทย ภาค 1

รวมตำนานผีไทย ภาค 1

1. กระสือ

กระสือ เป็นชื่อผีชนิดหนึ่งที่ถือว่าเข้าสิงในตัวผู้หญิงและ ชอบกินของโสโครก คู่กับ "กระหัง" ซึ่งเข้าสิงในตัวผู้ชาย ผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมั กเป็นยายแก่ ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินกลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีเขียวเรืองวาม ๆ
ใครคลอดลูกใหม่ กลิ่นสดคาวของเลือดจะชักนำให้ผีกระสือมาและเข้าสิงกิ นตับไตไส้พุงของหญิงที่คลอดลูกหรือของทารกที่คลอดนั้ น เหตุนี้ชาวบ้านจึงมักเอาหนามพุทราสะไว้ที่ใต้ถุนเรือ นตรงที่มีร่องมีรู เพื่อป้องกันมิให้กระสือเข้ามา เชื่อกันว่ากระสือกลัวหนามเกี่ยวไส้
นอกจากของสดของคาวแล้ว กระสือยังชอบรับประทานของโสโครกเช่นอุจจาระเป็นต้น เมื่อรับประทานแล้วเห็นผ้าของใครตากทิ้งค้างคืนไว้ก็ เข้าไปเช็ดปาก ผ้านั้นจะปรากฏเป็นรอยเปื้อนดวง ๆ ถ้าเอาผ้านั้นไปต้มกระสือจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนปากทน ไม่ไหวจนต้องมาขอร้องไม่ให้ต้มต่อไป
กระสือนั้นเมื่อเจ็บจวนจะตายก็ไม่ตายง่าย ๆ ต้องคายน้ำลายของตนถ่ายเข้าปากลูกหลานคนใดคนหนึ่งไว้ ให้สืบทายาทเป็นกระสือต่อก่อน ตนจึงจะตายได้โดยไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไป
การปราบกระสือนั้น ไม่สามารถไล่ผีที่มาสิงสู่ออกจากร่างเหยื่อได้ ว่ากันว่าวิญญาณนั้นได้หยั่งลึกลงในใจของคน ๆ นั้นแล้ว ฉะนั้น การปราบกระสือก็เท่ากับต้องฆ่าคน ๆ นั้นไปเลย

2. กระหัง

กระหัง ตามความเชื่อพื้นบ้านมีลักษณะเป็นผีผู้ชาย ที่มีอุปนิสัยคล้ายกับกระสือ สามารถบินได้ โดยใช้กระด้งฝัดข้าวลักษณะคล้ายปีกโผบิน และนั่งบนสากตำข้าวควบคู่กัน จริงๆแล้วตามความเชื่อ การที่จะเป็นกระหังได้นั้นไม่ยาก การเป็นกระหังเกิดจาก การผิดครู คือ ผิดคำที่สัญญากับครู(อาจารย์ทางเวทมนต์)เช่น ต้องห้ามกินอาหารที่เป็นบวบ ห้ามเดินลอดสะพาน การผิดครูจะทำให้เกิดเป็นกระหังประเภทหนึ่ง

3. นางตะเคียน

นางตะเคียน เป็นผี ตามตำนานพื้นบ้านของไทย เป็นผีผู้หญิง สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียน
บริเวณผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมา ปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คงเหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัว เองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
นางตะเคียนมักมีรูปร่างหน้าตาสะสวย หมดจดงดงาม ผมยาว ห่มสไบ ใส่ผ้าถุง บางที่ก็ว่าแต่งตัวเหมือนสาวบ้านป่าทั่วๆ ไป ผีนางตะเคียนมักจะเป็นจำพวกหวงที่อยู่ และจะดุร้ายมากหากใครคิดจะรุกรานที่อยู่ของตน
เนื่องจากต้นตะเคียน มีผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่ การจะนำเอาต้นตะเคียนมาขุดเป็นเรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนำไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จำเป็นจะต้องทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ เมื่อต้นตะเคียนที่ถูกนำมาแปรสภาพเป็นยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างแล้ว นางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนนั้นก็จะเปลี่ย นแปลงสถานะตามไปด้วย เช่น ถ้าเป็นเรือ นางตะเคียนก็จะกลายเป็นแม่ย่านางเรือ เป็นต้น

4. นางตานี
 

นางตานี เป็นผีผู้หญิง เช่นเดียวกับนางตะเคียน นางตานีจะสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานี และต้องเป็นกล้วยตานีตายพราย (ต้นกล้วยตานีที่ออกปลีแล้วตาย)
นางตานีจะมีรูปร่างหน้าตาสวยสด หมดจด งดงาม ห่มสไบสีเขียว และนุ่งโจงกระเบนแบบหญิงโบราณชอบล่อชายไปลวนลาม เเละนางตานียังมีเเรงหึงหวงที่น่ากลัวอีกด้วย เพราะถ้าชายที่มีอะไรกับนางเเล้ว เมื่อไปมีผู้หญิงคนอื่นนางตานีก็จะตามไปหักคอชายผู้น ั้นทันที ด้วยเเรงหึงหวงนั้นเอง
 
5. กองกอย

กองกอย เป็นผีป่าชนิดหนึ่ง (ผีไพร) ลักษณะรูปร่างจะเป็นผีที่มีขาข้างเดียว มีปากเป็นท่อเหมือนแมลงวัน เวลาไปไหนมาไหนจะกระโดดไปด้วยขาข้างเดียว และส่งเสียงร้องว่า " กองกอย ๆ " อันเป็นที่มาของชื่อ เชื่อว่ามีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง บ้างเรียกว่า ผีโป่ง หรือผีโบ่งขาม สันนิษฐานว่า ความเชื่อเรื่องผีโป่ง ก็คือ ค่างแก่ที่หน้าตาน่าเกลียดไม่สามารถขึ้นต้นไม้ได้ มีความเชื่อของคนบางกลุ่มว่า ถ้าได้ดื่มเลือดค่างจะทำให้ร่างกายคงกระพันเป็นอมตะ เจ้าย่องตอดในวรรณคดีพระอภัยมณีเชื่อว่า ก็คือ ผีกองกอย นั่นเอง
เชื่อว่า ผีกองกอย จะดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนค้างแรมในป่า วิธีการป้องกันคือ ให้นอนไขว้ขาหรือชิดเท้ากันทั้งสองข้าง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผีลักษณะแบบเดียวกับผีกองกอย มีความเชื่อกระจายทั่วไป ไม่เฉพาะในไทย ในมาเลเซียเชื่อว่า มีคนป่าเผ่าหนึ่งมีขาข้างเดียว ไม่มีสะบ้าหัวเข่า ที่จีนก็มีความเชื่อว่า มีปีศาจชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ตามภูเขา มีขาเดียว ตัวเล็ก แต่ผมยาว ตาโต หูแหลม มักขโมยอาหารหรือสิ่งของของคนเดินทาง เมื่อถึงวันตรุษก็มักเข้ามาอาละวาดในหมู่บ้าน เชื่อว่านำมาซึ่งความอัปมงคล และใครจับต้องตัวมันจะเผชิญกับโชคร้ายหรือเจ็บไข้ได้ ป่วย หรือ แม้แต่ผีขาเดียว ที่ไปไหนมาไหนด้วยวิธีการกระโดด ของยุโรปก็มี
ภาคเหนือมีผีชนิดหนึ่ง เรียกว่า ผีโป๊กกะโหล้ง สันนิษฐานว่า เป็นผีโป่งชนิดหนึ่ง เพราะมีลักษณะคล้ายกันคือ มีขาเดียว วิ่งไวเหมือนลมพัด แต่ผีชนิดนี้มีความแปลกอยู่บ้างตรงที่ไม่เคยดูดเลือด คนที่เดินป่า แต่ชอบบังตาคนเล่น ผีชนิดนี้มีเสียงร้องประจำตัวคือ โป๊กๆๆ กะโหล้ง โป๊กๆๆๆ กะโหล้ง เป็นลักษณะประจำตัว นิสัยประจำตัวอีกอย่างของผีชนิดนี้คือ หากมีคนตะโกนเรียกกันในป่า มันจะเลียนเสียง ทำให้คนที่ตะโกนรับหลงทางเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นคนเฒ่าคนแก่ถึงได้ห้ามตะโกนในป่า เพราะผีโป๊กกะโหล้งจะเลียนเสียงทำให้หลงป่าได้.

6. เปรต

เปรต เป็นผีตามความเชื่อไทย มีรูปร่างสูงโย่งเท่าต้นตาล ผมยาว คอยาว ผอมโซ ตัวดำ ท้องโต มือเท่าใบตาล แต่มีปากเท่ารูเข็ม และเปรตจะหิวอยู่ตลอดเวลาเนื่องจากกินอะไรไม่ได้ จึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ ซึ่งเมื่อสะสมบุญได้แล้วเกิดใหม่ชาติหน้าจะได้ไม่ต้อ งทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่

7. ปอบ (ไม่มีรูป)

ปอบ หรือผีปอบ เป็นผีจำพวกหนึ่ง ที่เล่าต่อๆ กันมาในตำนวนพื้นบ้านของไทย โดยเชื่อกันว่าเป็นผีที่กินของดิบๆ สดๆ กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม โดยมีความเชื่อว่า คนที่จะกลายเป็นปอบนั้น มักจะเล่นคาถาอาคม หรือคุณไสย พอรักษาคาถาอาคมที่มีอยู่กับตัวไม่ได้ ของนั้นเลยแตก ไม่สามารถบังคับตนเองได้จนกลายเป็นปอบ ปอบไม่มีวันตายจนกว่าจะเจอทายาท
นอกจากนี้ คำว่า "ปอบ" ยังนำไปใช้เรียก คนที่กินจุมากด้วย เช่น กินจุอย่างกับปอบลง
 
 

 
 
Credit: Asiasoft Official Webboard
#ผี #ผีไทย #ตำนานผีไทย
nunid.k
นักแสดงรับเชิญ
20 เม.ย. 53 เวลา 16:51 8,432 5 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...