เราเคยได้ยินได้ฟังการลง "นะหน้าทอง" กันมาบ้าง เคยสงสัยไหมคะว่ามีความเป็นมาอย่างไร และลงนะหน้าทองไปเพื่ออะไร วันนี้จึงนำมาให้อ่านเพื่อประดับความรู้กันนะคะ
การลงนะหน้าทอง
เป็นศาสตร์ที่มีอำนาจสูงส่งทางด้านการส่งเสริมดวงชะตาบารมี เสริมสิริมงคล รวมไปถึงเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ และโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรือง ผู้ใดได้ลงนะหน้าทองถือ เป็นวาสนาแห่งบุคคลผู้นั้น ที่ไม่เคยมีใครรักก็กลับมามีคนเมตตารักใคร่ ที่ทำมาหากินไม่ดีก็กลับมาค้าขายดีมีกำไร ชีวิตที่อับเฉาก็จะไม่แห้งเหี่ยวอีกต่อไป จะบังเกิดสิ่งที่ดี ๆ เข้ามาในชีวิตพลิกชะตาจากที่ร้ายกลายเป็นดีอย่างไม่น่าเชื่อจะบังเกิดสิ่ง ที่ดี ๆ ขึ้นในชีวิต
วิชานะหน้าทองเป็นวิชาไสยศาสตร์ตามลัทธิพราหมณ์
สืบเนื่องมาจากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ กล่าวคือ ภายในเรื่องรามเกียรติ์นั้นมี พระลักษณ์ ซึ่งมีรูปกายเป็นสีทอง มีศักดิ์เป็นน้องของพระราม พระลักษณ์นี้มีลักษณะ สง่างาม เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ด้วยคุณของพระลักษณ์ดังกล่าวมานี้ ในกาลต่อมาจึงได้ถือเป็นคติในการสร้างวิชาสายเมตตามหานิยม และมหาเสน่ห์ นะหน้าทองคือวิชาไสยศาสตร์ที่มีอำนาจ ทางเมตตามหานิยม จัดเป็นวิชาชั้นสูงที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธคุณ ไม่ใช่วิชาสายต่ำหรือมนต์ดำ
ที่เรียกว่านะหน้าทอง
เนื่องจากมีการใช้ทองคำเปลวบริสุทธิ์ (ถือว่าเป็นของสูง) มาลงที่ใบหน้าของผู้ที่ประสงค์ให้คนมีสง่าราศี ประกอบกับอักขระที่ลงนั้นมีสูตรการเรียกเฉพาะตนว่าตัวนะหน้าทอง และยันต์ที่ลงก็จะมีสูตรถือเป็นเคล็ดของครูบาอาจารย์แต่ละท่านจะไม่เหมือน กัน ใครสำเร็จยันต์ไหน ตัวนะอักขระตัวใดก็ลงตามที่ตนเชึ่ยวชาญ
เหตุที่ต้องใช้ทองในการลง
นะหน้าทองนั้นเป็นวิชาโบราณที่มีการใช้ "ธาตุทอง" เป็นตัวลง การใช้ธาตุทองนั้นเนื่องจากธาตุทองเป็นธาตุที่มีความเป็นสิริหรือแสงสว่าง ภายในตัว โดยตามธรรมชาตินั้นธาตุทองจะซึมซับเอาสิริ หรือแสงสว่างจากพระอาทิตย์ และพระจันทร์ไว้ในตัว นอกจากนี้แล้วธาตุทอง ยังถือว่าเป็นสิ่งอันเป็นมงคลด้วย เพราะเป็นธาตุที่ถือว่าเป็นตัวแทนของความดี ความงาม ความสว่าง และนอกจากนี้ ทองคำยังเป็นธาตุที่ไม่มีวันเสื่อมคุณค่า ไม่ว่าจะโดนน้ำ โดนไฟ โดนลม ก็ไม่ทำให้เสื่อมคุณภาพ หรือคุณค่าในตัวเองลง เมื่อทองคำมีคุณค่าเช่นนี้ โบราณจารย์ จึงได้คิดค้นวิชานะหน้าทองขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ลง
จุดที่ลงนะหน้าทอง
โดยมากเรามักเห็นการลงนะหน้าทองจะลงกันที่บริเวณหน้าผาก แต่ทั้งนี้การลงนะหน้าทองนั้นหากลงเต็มสูตรจริง ๆ จะมีตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้
1. หน้าผาก เป็นจุดใหญ่ที่สุดของใบหน้าและถือเป็นจุดที่สามารถเห็นเด่นชัด จุดนี้ถือว่าเป็นที่รวมของสิริบนใบหน้า และเป็นจุดสำคัญที่สุดในการลงนะหน้าทอง
2. เปลือกตา หรือใต้ตา จุดนี้เพื่อให้ยามที่ใครสบตาเรา หรือยามที่เรากระพริบตา ผู้ที่มองเราอยู่จะรู้สึกนึกรักและนิยมในตัวเรา
3. แก้ม เพื่อให้เป็นที่รัก การลงที่แก้มจะเรียกว่าวิชาพรหมสี่หน้า เป็นเมตตาอย่างประเสริฐ
4.กราม เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือยามพูด
5. ที่ติ่งหูสองด้าน เป็นที่สถิตของเทวดารักษาอายุ
6. ท้ายทอย เพื่อเป็นที่รักยามที่คนมองเราจากด้านหลัง
7. ลิ้น เรียกว่าสาลิกาลิ้นทอง เป็นวิชาลงทองที่มีสูตรเฉพาะแยกออกมาอีกสาขาหนึ่ง
8. กระหม่อม เป็นจุดเข้าออกของวิญญาณและปราณพลังชีวิต เป็นจุดศูนย์รวมของพลังชีวิตมนุษย์และเป็นที่สถิตของเทวดา
9. คาง เป็นส่วนที่ต่ำสุดของใบหน้า ลงจุดนี้เพื่อเป็นที่เคารพยำเกรง แต่โดยมากการลงนะน้อยคนนักที่จะได้ลงครบสูตรตามนี้ ส่วนมากมักจะลงที่ หน้าผาก แก้ม คาง ก็เพียงพอแล้ว อาจจะไม่ใช่มาตรฐานตายตัว แต่ก็นับได้ว่าเป็นความรู้ เป็นศาสตร์และศิลป์ที่น่าสนใจ จึงนำมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังต่อ ๆ กันไป