นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจมาเลเซียยืนยันได้สอบสวนเกษตรกรผู้ส่งผลไม้ไปกับเครื่องบินโดยสาร มาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 แล้วหลังจากมีผู้สันนิษฐานว่าอาจมีการซุกซ่อนระเบิดในผลไม้ที่ขึ้นเครื่อง
ตามรายงานระบุว่า เครื่องบิน MH370 ที่สูญหายนั้น มีการบรรทุกมังคุดไปด้วยในปริมาณถึง 4 ตัน ทำให้มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการซุกซ่อนระเบิดไป ด้วยและอาจเกิดระเบิดขึ้นจนทำให้เครื่องบินตกทะเลและยังไม่สามารถค้น หาชิ้นส่วนหรือซากเครื่องบินได้จนถึงขณะนี้ ตำรวจมาเลเซียได้สอบสวนเป็นกรณีพิเศษทั้งผู้ที่สั่งสินค้าและผู้ส่งมังคุด ขึ้นเครื่องรวมไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมังคุดจำนวน 4 ตันบนเครื่องโดยเป็นการสอบสวนทางลึก
ขณะเดียวกันก็เผยถึงผลการตรวจสอบเครื่องจำลองการบินของกัปตันเครื่องบิน ดังกล่าวว่า ยังมีเงือนงำบางประการทั้งที่การประกาศอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ว่าผลการ ตรวจสอบไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ ก็ตาม ส่วนการตรวจสอบผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องนั้นพบว่า ไม่มีข้อสงสัยใดๆ แต่สำหรับเจ้าหน้าที่บนเครื่องนั้นการสอบสวนยังดำเนินต่อไป
ส่วนประเด็น ที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินสูญหายยังคงอยู่ที่ 4 แนวทางคือ การจี้เครื่องบิน การก่อวินาศกรรม ภาวะทางจิตของพนักงานบนเครื่อง และประเด็นส่วนตัว ซึ่งแนวทางทั้งหมดบ่งบอกว่า สาเหตุที่ทำให้เครื่องบินสูญหายมาจากฝีมือมนุษย์ มิใช่เครื่องยนต์ขัดข้องอย่างแน่นอน
นายคาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้โดยสารทั้งหมดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจี้เครื่องบิน ก่อวินาศกรรม หรือไม่มีปัญหาส่วนตัวและปัญหาทางจิตใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินหายไปตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มาเลเซียยังไม่ตัดประเด็นปัญหาเครื่องยนต์ที่อาจเป็นเหตุให้ เครื่องบินสูญหายไป แต่จากหลักฐานพบว่ามีผู้เจตนาเปลี่ยนเส้นทางบินกัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง เจ้าหน้าที่สอบสวนเชื่อว่ามีคนรู้เรื่องข้อมูลอย่างดี ทั้งเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 อีอาร์ และระบบนำทางการบินพาณิชย์ ที่ตัดสัญญาณระบบการสื่อสารเครื่องบินได้ก่อนเปลี่ยนวิถีออกมาจากเส้นทางบิน ห่างไปหลายพันกิโลเมตร ตำรวจกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า พุ่งประเด็นไปที่นักบิน แต่ยังไม่กระจ่างพอ จนกว่าจะพบกล่องดำบันทึกข้อมูลการบิน
ส่วนปฏิบัติการณ์ค้นหาเครื่องบิน MH370 ยังดำเนินต่อไปอย่างไม่ลดละจากความร่วมมือกันระหว่างนานาชาติ นำโดยออสเตรเลีย มีการส่งเครื่องบิน 10 ลำ เรือ 9 ลำ ร่วมด้วยเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรืออังกฤษ ออกไปค้นหาชิ้นส่วนของเครื่องบินในทะเลทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย แต่การค้นหายังคงคว้าน้ำเหลว ไม่พบวัตถุใดๆ ที่น่าจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งในวันที่ 8 เม.ย.นี้ แบตเตอรี่กล่องดำบนเครื่องบินจะหมดลง ทำให้การค้นหายากยิ่งขึ้น และอาจจะส่งผลทำให้เครื่องบิน MH370 กลายเป็นประวัติศาสตร์ เครื่องบินหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยไปตลอดกาล