ทีเอ็มบี ชวนเอสเอ็มอีถอนพิษเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ
ทั้งซัพพลายเชนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทีเอ็มบีเร่งส่งเสริมเอสเอ็มอีเตรียมความพร้อมรับมือสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการของเอสเอ็มอีตลอดทั้งซัพพลายเชน
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวในงานมอบประกาศนียบัตรฉลองความสำเร็จของโครงการ TMB Efficiency Improvement for Supply Chain รุ่นที่ 1 ว่า จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อม (TMB – SME Sentiment Index) พบว่า ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดย่อมในกรุงเทพได้มีการลดลงอย่างมีนัยยะ โดยลดลงจาก 42.6% ณ ไตรมาส 4/2556 เป็น 35.9% ณ ไตรมาส 1/2557 โดยผู้ประกอบการมีมุมมองว่า รายได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ไม่เพิ่มจากปัจจุบัน และต้นทุนจะสูงขึ้น ด้วยสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อทำให้ต้นทุนของตัวเองลดลง และเน้นเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจตลอดซัพพลายเชน ก็จะเป็นแนวทางที่ทำให้เอสเอ็มอีอยู่รอดและแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว
ทีเอ็มบีในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินได้นำหลักการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ อย่าง Lean Six Sigma มาใช้อย่างเต็มรูปแบบทั้งองค์กรตั้งแต่ปี 2553 ทำให้สามารถให้บริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า ขณะที่ต้นทุนลดลง
“ทีเอ็มบีเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยนอกจากการเพิ่มประสิทธิภาพของแต่ละบริษัทแล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพตลอดซัพพลายเชน โดยการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำนั้น จะส่งผลให้การเพิ่มประสิทธิภาพได้ผลมากกว่าการเพิ่มประสิทธิภาพที่ทำกันเองภายในแต่ละบริษัทมาก ซึ่งแต่ละบริษัทควรต้องคำนึงอยู่เสมอว่าทำอย่างไรเพื่อช่วยให้คู่ค้าของคุณประสบความสำเร็จ เพราะความสำเร็จของคู่ค้าทั้งซัพพลายเชน ก็คือความสำเร็จของบริษัทคุณนั่นเอง”
ทีเอ็มบีได้ริเริ่มโครงการ TMB Efficiency Improvement for Supply Chain เมื่อปลายปี 2556 โดยจะเน้นการเรียนรู้จริง นำไปใช้ได้จริง เชื่อมโยงการพัฒนาแบบซัพพลายเชน และสร้างความสัมพันธ์ในเครือข่ายธุรกิจเดียวกัน ต่อยอดด้วยกิจกรรมเสริมความรู้และการให้คำปรึกษา สำหรับโครงการรุ่นที่ 1 ที่เพิ่งปิดการอบรมไป ได้รับฟีดแบ็คจากผูเข้าอบรมที่ดีมาก โดยเฉพาะความรู้และเนื้อหาจากการอบรมที่สามารถนำไปใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งซัพพลายเชนได้จริง
นายนิรันดร์ แสงสุขเอี่ยม กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทศิริคุณ ซีฟู้ด หนึ่งในผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า "สิ่งที่ได้จากการเรียน สามารถนำไปใช้ได้จริงๆ ทุกครั้งที่มาอบรม พอกลับไปพนักงานที่บริษัทจะมีงานทำเพิ่มตลอดเวลา ผมจะเอาเรื่องที่เรียนไปลองใช้กับที่บริษัทจริงๆ ผลลัพธ์ที่ออกมาจับต้องได้ และคิดว่ายังต้องทำต่อไปเพราะว่าการเพิ่มประสิทธิภาพคงสามารถพัฒนาได้อีกหลายส่วน อย่างในส่วนของซัพพลายเชนเองเราก็มีการรวมกลุ่มกับชาวประมงเพื่อพูดคุยถึง spec สินค้าที่ต้องการ แล้วตั้งกลุ่มสิ่อสารและช่วยเหลือกัน ทำให้สื่อสารได้รวดเร็ว พร้อมได้วัตถุดิบตามที่ต้องการ ผลที่ออกมาก็คือ win-win กันทุกฝ่าย”
นายกุลวัชร ภูริชยวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ ออริจินัล ฟาร์ม จำกัด ผู้เข้าร่วมโครงการอีกรายหนึ่งให้ข้อคิดว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพของซัพพลายเชนมีความสำคัญมาก เราได้มีการพูดคุยกับซัพพลายเออร์มากขึ้น เพื่อจัดทำแผนสั่งซื้อระยะยาว เราจะมีการอัพเดทกันทุกเดือน มีการประมาณการจากฝั่งโอเปอเรชั่นที่ดูยอดขาย ซึ่งจะทำให้ลดความผกผันของราคาได้มากขึ้น เราจึงเห็นราคาได้ในระยะยาวพอสมควร"
“ในโอกาสการจบหลักสูตรและมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 1 สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ขณะนี้ทีมเอ็มบีได้เปิดรับสมัคร TMB Efficiency Improvement for Supply Chain รุ่นที่ 2 สำหรับอุตสาหกรรมอาหารจำนวน 100 บริษัท ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจส่งใบสมัครกว่า 200 ราย ผู้สนใจสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 28 มีนาคมนี้ นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนที่จะขยายโครงการไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีหลัง 2557 นี้จะเปิดรับอีก 3 รุ่น รวมเป็น 5 รุ่น เพื่อสร้างซัพพลายเชนคอมมูนิตี้ของประเทศ” บุญทักษ์ กล่าว
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 02-299-2250 หรือ 02-299-1855 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tmbbank.com/business