ผ้าขาวม้า
เป็นอาภรณ์อเนกประสงค์ มีลักษณะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนใหญ่ทอมาจากฝ้าย แต่บางครั้งอาจทอจากเส้นไหม ในบางท้องถิ่นนิยมทอจากเส้นด้ายดิบและเส้นป่าน นิยมทอสลับสีกันเป็นลายตาหมากรุกหรือเป็นลายทาง โดยมากผลิตในแถบภาคเหนือหรือภาคอีสาน มีขนาดความกว้าง - ยาวแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะกว้างประมาณ 3 คืบ ยาว 5 คืบ อายุของการใช้งานจะประมาณ 1 - 3 ปี สำหรับราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามวัสดุที่ใช้ (ถ้าเป็นผ้าไหมเนื้อดีจะมีราคาแพง ซึ่งนิยมใช้แตะพาดบ่า หรือพาดไหล่) ใช้นุ่งอาบน้ำ
ผ้าขาวม้ามีความเกี่ยวข้องกับวิถีทางแห่งการดำรงชีวิตมากมายหลายอย่างด้วยกัน จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า "ผ้าขาวม้า" คือสิ่งมหัศจรรย์แห่งสายใยที่ถักทอไว้อย่างประณีต จากตำนานกาลเวลา และคุณค่าอันน่ายกย่อง สรุปความได้ว่าประโยชน์ของผ้าขาวม้าใช้กันตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายเช่น
ทำความสะอาดร่างกาย
ปูรองนั่ง
โพกศรีษะกันแดด
นุ่มแทนกางเกง
ห่มคลุมร่างกาย
นุ่งกระโจมอกแทนผ้าถุง
ใช้มัดแทนเชือก
ม้วนหนุนหัวแทนหมอน
ทำความสะอาดสิ่งของ เครื่องใช้
ทำผ้าขี้ริ้ว พรมเช็ดเท้า
ใช้แทนผ้าพันแผล
คลุมโต๊ะ
ทำผ้าอ้อมเด็ก
ซับเหงื่อ
ผูกเป็นเปล
คาดเอว
ห่อของแทนย่าม
ปัดไล่แมลง ยุง ฝุ่น
เวลาผลัดเปลี่ยนผ้า
บังแดด ลม ฝน
เป็นผ้าเช็ดตัว
เป็นผ้ากันเปื้อน
เป็นผ้าอนามัย
อุปกรณ์การละเล่นของพื้นบ้าน ท้องถิ่น และเด็กๆ
และอีกมากมายครับ ปัจจุบันมีการนำผ้าขาวม้ามาประยุกต์เข้ากับไลฟสไตล์คนหนุ่มสาวมากขึ้น หวังให้ผ้าขาวม้าอินเทรนด์กับคนทุกเพศวัย อาชีพได้เป็นอย่างดี เช่น
ผู้นำเองก็ช่วยรณรงค์ให้คนใส่ผ้าขาวม้า
น้องๆ นำผ้าขาวมามาออกกำลังกาย
ผ้าขาวม้าบนรันเวย์
กระเป๋าหนังผสมลายผ้าขาวม้า
ดาราสาวอุ้ม ลักขณา