125 ปีหอไอเฟล สัญลักษณ์แห่งปารีส

 

 

 

 

 

เฉลิมฉลองครบรอบ 125 ปี สัญลักษณ์แห่งกรุงปารีส ฝรั่งเศส




หอไอเฟล สัญลักษณ์ของกรุงปารีส มีอายุครบรอบ 125 ปีนับตั้งแต่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1889 ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมเวิร์ลด์แฟร์ และยังเป็นการรำลึกครบรอบ 100 ปีแห่งการปฏิวัติฝรั่งเศส หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร หรือ 300 เมตรแบบไม่นับรวมความสูงของเสาสัญญาณ แม้ในช่วงแรกเริ่มของการก่อสร้าง หอไอเฟลจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา แต่ในทุกวันนี้ ก็เป็นที่ตระหนักชัดเจนแล้ว มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของทั้งกรุงปารีสและประเทศฝรั่งเศส จนเป็นที่รู้จักไปไกลทั่วโลก




หอไอเฟลได้รับการออกแบบขึ้นโดยวิศวกร Maurice Koechlin, ?mile Nougierand และสถาปนิก Stephen Sauvestre ซึ่งทำงานให้กับบริษัท Compagnie des Etablissements Eiffel ภายใต้การดูแลของ กุสตาฟ ไอเฟล ภายหลังจากแบบร่างและสถานที่ก่อสร้างผ่านการอนุมัติ ก็มีการเซ็นสัญญากันในเดือนมกราคม 1887 และเริ่มโครงการก่อสร้างภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนั้น




ในตอนแรก หอไอเฟลไม่เป็นที่ถูกใจชาวปารีสเท่าใดนัก ศิลปินชื่อดังและบุคคลสำคัญ ๆ หลายคนได้รวมตัวกันต่อต้านหอไอเฟล ด้วยเหตุผลด้านความเป็นไปได้ในการก่อสร้างและความสวยงาม จนถึงขั้นมีการก่อตั้งคณะกรรมการ “Committee of Three Hundred” นำโดยเหล่าสถาปนิกและสมาชิกกลุ่มศิลปินของเมือง ยื่นคำร้องให้ยุติการก่อสร้างหอไอเฟลแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม กุสตาฟ ไอเฟล ก็ไม่ได้สะทกสะท้านจากกระแสต่อต้านแต่อย่างใด โดยได้เปรียบว่าโครงการก่อสร้างของเขาก็เหมือนกับการก่อสร้างพีระมิดในอียิปต์หลาย ๆ แห่งซึ่งในตอนแรกก็ถูกต่อต้านด้วยเช่นกัน ส่วนภาพนี้ หอไอเฟลกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างภายหลังจากที่ส่วนของชั้น 2 เพิ่งจะเสร็จสิ้นลง




เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว กุสตาฟ ไอเฟล ก็รับหน้าที่เป็นคนพาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลและสื่อมวลชนขึ้นไปเที่ยวชมสู่ชั้นบนสุดของหอไอเฟล เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 1889 ในพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ กุสตาฟ ไอเฟล ได้ทำพิธีชูธงชาติฝรั่งเศสจากชั้นบนสุดของหอ พร้อมกับมีการยิงสลุต 25 นัดจากชั้นล่าง ภายหลังงานเวิร์ลด์แฟร์สิ้นสุดลง หอไอเฟลก็ทำยอดดึงดูดนักท่องเที่ยวได้สูงสุดกว่า 1,896,987 คน




ปารีสได้ทำหน้าที่จัดงานเวิร์ลด์แฟร์อีกครั้งในปี 1900 และก็เป็นอีกครั้งที่หอไอเฟลถูกใช้เป็นศูนย์กลางของงาน (ดังภาพ) โดยตัวหอได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเรื่องระบบลิฟท์ ต่อมา 14 ปีให้หลัง หอไอเฟลได้ทำหน้าที่เป็นหอส่งสัญญาณรบกวนการสื่อสารของฝ่ายกองทัพเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1




คนงานโพสต์ท่าถ่ายรูปท้าความตาย ระหว่างช่วงสุดท้ายของขั้นตอนการปรับปรุงทาสีหอไอเฟล




แสงไฟขึ้นเป็นข้อความและสัญลักษณ์ของยี่ห้อรถ Citro?n ปรากฏอยู่บนหอไอเฟลในปี 1925 ข้อความและสัญลักษณ์ดังภาพได้รับการติดตั้งจนถึงปี 1934 สามารถเห็นได้จากทั้ง 4 ด้านของหอไอเฟล ถือเป็นเพียงครั้งเดียวที่หอไอเฟลถูกใช้เพื่อการโฆษณา ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็ถือเป็นพื้นที่โฆษณาที่สูงสุดในโลกด้วย




ในปี 1926 หอไอเฟลกลายเป็นสถานที่เกิดโศฏนาฏกรรมเมื่อนักบินฝรั่งเศสชื่อ Leon Collet ประสบอุบัติเหตุขับเครื่องบินตกเสียชีวิต ในขณะที่เขากำลังพยายามทำการบินลอดผ่านใต้ซุ้มโค้งของหอแต่เครื่องบินเกิดไปพันเข้ากับสายเคเบิล แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอุบัติเหตุในบริเวณของหอไอเฟล เมื่อปี 1912 ช่างตัดเสื้อชาวออสเตรีย Franz Reichelt ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตจากการกระโดดลงมาจากชั้นแรกของหอ แต่ชุดร่มชูชีพของเขากลับไม่สามารถทำงานได้ตามความคาดหมาย




ภาพตัดต่อจำลองเครื่องบิน Spirit of St. Louis ของนักบินชื่อดัง Charles Lindbergh ซึ่งได้ทำการบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อวันที่ 20-21 พฤษภาคม 1927 เหนือบริเวณของหอไอเฟล นับเป็นความพยายามในการบินเดี่ยวจากนิวยอร์กสู่ปารีสครั้งแรก มีการเฉลิมฉลองในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก




ทีมนักเต้นจากละครดังเรื่อง Moulin Rouge โพสต์ท่าถ่ายภาพบนหอไอเฟล 1 ปีก่อนที่หอไอเฟลจะสูญเสียตำแหน่งสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในโลกให้กับตึก Chrysler ในนิวยอร์ก




กรุงปารีสได้เป็นสถานที่จัดงานเวิร์ลด์แฟร์อีกครั้งในปี 1937 ภาพนี้ สามารถมองเห็นพื้นที่จัดแสดงของเยอรมนีและโซเวียตได้อยู่ฝากตรงข้าม โดยมีหอไอเฟลตั้งอยู่ระหว่างกลาง




ช่างไฟฟ้า 2 คนทำงานติดตั้งระบบไฟบนหอไอเฟลก่อนการจัดงานเวิร์ลด์แฟร์ปี 1937 เห็นแม่น้ำแซนทอดผ่านอยู่เบื้องล่าง




กรุงปารีสถูกกองทัพนาซีเยอรมนีเข้ายึดครองในช่วงปี 1940 - 1944 หอไอเฟลจึงถูกปิดไม่ให้คนทั่วไปเข้า จนกระทั่งกลับมาเปิดทำการใหม่อีกครั้งในปี 1946 ภาพบน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำกองทัพนาซี ขณะเยี่ยมชมหอไอเฟล พร้อม ๆ กับเหล่าทหารชั้นนายพล, ประติมากร Arno Breker และสถาปนิก Albert Speer




เชลยศึกฝ่ายนาซีขณะถูกควบคุมตัวผ่านใต้หอไอเฟล ท่ามกลางชาวปารีสที่มาแสดงความโกรธแค้น ภายหลังจากที่กองทัพสหรัฐฯ กลุ่มแรกได้เคลื่อนพลมาถึงกรุงปารีสเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 1944 ต่อจากการประกาศอิสรภาพโดยฝ่ายสัมพันธมิตร




Jean-Louis Bert นักเต้นชาวกรุงปารีส โชว์การแสดงกลางลาน Trocadero โดยมีหอไอเฟลตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง เมื่อปี 1955 2 ปีหลังจากนั้น เสาอากาศถูกนำไปติดตั้งที่ยอดหอ เพิ่มความสูงให้หอไอเฟลจาก 300 เมตรไปเป็น 324 เมตร




นักจัดรายการชาวอังกฤษ Ian Macnaught-Davis ขณะกำลังพยายามปีนหอไอเฟลเมื่อปี 1960




ประธานาธิบดีสหรัฐฯ John F. Kennedy และรัฐมนตรีต่างประเทศ Dean Rusk เดินทางมายังงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นใน Palais de Chaillot ใกล้กับหอไอเฟล ร่วมด้วยประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของฝรั่งเศส Robert de Saint-Jean (ซ้าย) และ Bernard Redmond ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวแองโกลอเมริกัน (ขวา)




นางแบบโพสต์ท่าถ่ายแบบโชว์แฟชั่นสไตล์ชาวปารีสที่ด้านหน้าหอไอเฟล ในช่วงฤดูร้อนของปี 1968




โครงสร้างเมื่อมองจากใต้หอไอเฟล ถ่ายเมื่อปี 1996




การแสดงดอกไม้ไฟสุดตระการตาที่หอไอเฟลในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 1999 เฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่




ทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 คนต้องฝ่าฝันลมฝนแรงเพื่อไปทำหน้าที่ติดตั้งระบบไฟ และซ่อมแซมดวงไฟกว่า 20,000 ดวงบนหอสำหรับการจัดแสดงภายในงานเฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ในปีก่อนหน้านั้น หอไอเฟลก็เพิ่งทำหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมเป็นคนที่ 200 ล้านเข้าไปแล้ว




แฟนบอลชาวฝรั่งเศสรวมโบกธงชาติที่หน้าหอไอเฟล ภายหลังจากทีมฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสของพวกเขาเอาชนะทีมชาติโปรตุเกสไปได้ในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2006




หอไอเฟลถูกตกแต่งด้วยแสงไฟสีน้ำเงินและดาวสีเหลือง ตามลักษณะของธงประจำสหภาพยุโรป เฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 6 เดือนที่ฝรั่งเศสทำหน้าที่เป็นประธานสภายุโรปในเดือนกรกฎาคม 2008




ชายคนหนึ่งกำลังพุ่งตัวลงสู่สระน้ำพุที่ใกล้กับหอไอเฟล ในขณะที่กรุงปารีสต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนสูงผิดปกติเมื่อปี 2012




หอไอเฟลตกอยู่ในความมืด เนื่องจากการปิดไฟประหยัดพลังงาน ในโครงการ Earth Hour เมื่อปี 2013 พร้อม ๆ กับสถานที่ที่มีชื่อเสียงแห่งอื่น ๆ ทั่วโลก




ท้องฟ้าโดยรอบหอไอเฟลสุกสว่างไปด้วยแสงจากดอกไม้ไฟในวันชาติฝรั่งเศส เมื่อปี 2013




ภาพของหอไอเฟลเมื่อมองจากอาคาร Tour Maine-Montparnasse ภายหลังจากเกิดหิมะตกภายในกรุงปารีสได้ไม่นาน




หอไอเฟลในยามพระอาทิตย์ตกตัดเส้นขอบฟ้าเหนือกรุงปารีส เมื่อปี 2013




ช่างภาพเก็บภาพเส้นแสงเป็นรูป '2014' ในคืนก่อนวันปีใหม่ด้านหน้าหอไอเฟล ทุกวันนี้หอไอเฟลถือเป็นอนุสรณ์สถานแบบเสียค่าเข้าชมที่มีผู้เข้าชมสูงสุดในโลก แค่เฉพาะในปี 2011 ก็มีผู้มาเยี่ยมชมถึง 6.98 ล้านคน

Credit: http://board.postjung.com/756422.html
30 มี.ค. 57 เวลา 19:49 3,511 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...