ปฏิวัติฝรั่งเศส

วันที่ 14 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1789 เป็นวันที่ประชาชนปารีสในฝรั่งเศส ลุกฮือยึดคุกบาสเตียล์ ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของความป่าเถื่อนของระบบยุติธรรมภายใต้รัฐบาล กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 ใน ช่วงต่อมาจนถึงปัจจุบัน วันยึดคุกบาสเตียล์กลายเป็นวันที่เฉลิมฉลองกันทั่วฝรั่งเศส มีงานปาร์ตี้จุดดอกไม้ไฟเต้นรำฟังเพลงกันในทุกเมืองทุกหมู่บ้าน

สาเหตุที่มีการยึดคุกบาสเตียล์ในปี 1789 ไม่ใช่เพื่อปล่อยนักโทษไม่กี่คนที่ยังติดคุกอยู่ แต่สาเหตุหลักคือ นอกจากมันเป็นคุกแล้วมันยังเป็นคลังอาวุธด้วย ประชาชนคนยากคนจนในปารีสได้เริ่มกระบวนการปฏิวัติฝรั่งเศส ด้วยการยึดอาวุธจากรัฐบาลกษัตริย์นั้นเอง

การปฏิวัติฝรั่งเศส เป็นการปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ของชนชั้นนายทุนต่อระบบกษัตริย์และขุนนาง นับเป็นครั้งที่สาม ที่มีการปฏิวัติใหญ่หลังการปฏิวัติในอังกฤษ/ฮอลแลนด์ ที่เปิดทางให้ทุนนิยมเข้ามาในโลก และการปฏิวัติในอเมริกาต่อเจ้าอาณานิคมอังกฤษ การปฏิวัติฝรั่งเศสเป็นผลของการสะสมความไม่พอใจของประชาชนเกือบทุกระดับ รัฐบาลกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 มีวิกฤตเศรษฐกิจและต้องการขึ้นภาษีกับนายทุนและคนจน ในขณะที่ตนเองเสพสุข นอกจากนี้รัฐบาลพยายามกีดกันการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบบการเมือง โดยมีสภาขุนนางและสภาพระศาสนาคริสต์ ที่คอยกีดกันความต้องการของพลเมือง

หลังจากที่มีการยึดคุกบาสตียล์ มีการประกาศหลักสิทธิมนุษยชน มีการใช้ธงสามสี แดง ขาว น้ำเงิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ เสรีภาพ ความเท่าเทียม และความสมานฉันท์ (ไม่ใช่ ชาติ ศาสนา กษัตริย์!!) และท่ามกลางกระแสปฏิวัติมีการเชิดชูความเป็นมนุษย์ แทนที่จะบูชาพระเจ้า ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการชูคำขวัญที่เคารพความเป็นพลเมือง เพราะในยุคอดีตผู้ปกครองในระบบกษัตริย์มักมองว่าประชาชนเป็นแค่ไพร่ ทาส หรือสัตว์ที่ต้องมอบคลานต่อกษัตริย์และพระเจ้า

พลังในการขับเคลื่อนการปฏิวัติฝรั่งเศสมาจากพลเมืองข้างล่าง ผู้นำจากชนชั้นนายทุนผู้มั่งมี เช่นพวกนายธนาคารใหญ่ ต้องการที่จะประนีประนอมกับกษัตริย์ แต่พรรคแจคโคบิน ซึ่งนำโดย โรบสเบียร์ เข้าใจว่าต้องปลุกระดมคนจนในเมืองเพื่อให้การปฏวัติถึงจุดจบ มวลชนที่สำคัญของพรรคแจคโคบินจึงเป็นพวก แซนคูลอท (พวกคนจนที่ไม่ใส่กางเกงขาสั้นตามแฟชั่นคนมั่งมี แต่ใส่กางเกงขายาวแทน) นอกจากนี้มีการปกป้องทหารที่ไม่ยอมยิงประชาชนตามคำสั่งของกษัตริย์ ซึ่งทำให้ทหารธรรมดาจำนวนมากเปลี่ยนข้างมาอยู่ฝ่ายปฏิวัติ

กษัตริย์หลุยส์ที่ 16 เป็นคนอ่อนแอ แต่อนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ทั้งป่าเถื่อนและไร้คุณสมบัติที่จะพัฒนาสังคมให้ทันสมัย ประชาชนฝรั่งเศสตั้งชื่อเล่นให้เขาว่า "หลุยส์คนสุดท้าย" ส่วน ราชินี มารี อันตัวเน๊ต เป็นคนที่ไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน มีตำนานเล่าว่าเมื่อมีคนจนประท้วงว่าไม่มีขนมปังกิน ราชินีตอบว่า "ทำไมไม่ไปกินเค้กแทนละ?" งาน อดิเรกของราชินีคือ การซ่อมวังและการสั่งให้คนงานสร้างหมู่บ้านตัวอย่างเพื่อชักชวนให้คนใช้ ชีวิตพอเพียงกับธรรมชาติ นอกจากนี้ราชินีมีส่วนในเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับสร้อยคอเพชรอีกด้วย

ในเดือนกันยายนปี 1792 รัฐสภาพลเมืองได้ลงมติยกเลิกสถาบันกษัตริย์และประกาศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ในที่สุดการปฏิวัติถึงจุดสุดยอดในปี 1793 ด้วยการประหารชีวิตกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 , ราชินี มารี อันตัวเน๊ต และราชวงศ์กับขุนนางจำนวนมาก เนื่องจากพวกนี้ต้องการขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของสังคมและหมุนนาฬิกากลับ สู่ยุคมืด

เซ็นต์จัสต์ ผู้นำพรรคแจคโคบินคนหนึ่งปราศรัยกับรัฐสภาในวันที่ 24 เมษายน ปี1793 ว่า "ในไม่ช้าประเทศอารยะจะจับพวกชนชั้นปกครองเก่ามาขึ้นศาล พวกกษัตริย์จะหนีไปอยู่ในทะเลทรายกับพวกสัตว์ป่าที่เป็นพวกเดียวกับเขา และสิทธิมนุษย์ตามธรรมชาติจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"


 

 

#ปฏิวัติฝรั่งเศส
seal1993
นักแสดงรับเชิญ
สมาชิก VIP
28 มี.ค. 57 เวลา 16:55 4,035 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...