ลิซซี เวลาสเกซ
แนวคิดดีๆและกำลังใจ จาก "ลิซซี เวลาสเกซ" ผู้หญิงที่ถูกผู้คนล้อเลียนว่าเธอ "อัปลักษณ์ที่สุดในโลก"!? 0 . 0
ขอยกย่องให้กับความเข้มแข็ง ความอดทนกับความกดดันบนโลกใบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะถูกคนอื่นมองว่าเป็น คนที่ไม่สวย ถึงขั้น "อัปลักษณ์" ก็เถอะ!? แต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา เรื่องราวของเธอจะน่าสนใจแค่ไหน ลองมาติดตามกันดูคะ แล้วเพื่อนๆจะบอกว่า “ใจเธอสวยมาก” จริงๆ ^ - ^
ในสมัยที่ "ลิซซี เวลาสเกซ"เรียนชั้นมัธยมปลาย เธอได้รับฉายาว่า “ผู้หญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก” จากคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงในยูทูบนาน 8 วินาที แน่นอน ไม่มีใครเลือกเกิดได้ "เวลาสเกซเกิดมาพร้อมอาการทางการแพทย์ที่หาผู้ป่วยยากยิ่ง กระทั่งปัจจุบันในโลกมีผู้ป่วยจากโรคนี้ที่พบแล้วเพียง 3 ราย"
อาการของเธอคือ เธอไม่มี "เนื้อเยื่อไขมัน" ภายใต้ผิวหนัง และไม่มีกล้ามเนื้อใดๆบนร่างกาย ทำให้ไม่สามารถกักเก็บพลังงานได้ และไม่สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ ฉะนั้น ไขมันในร่างกายของเธอจึงเป็นศูนย์ และมีน้ำหนักเพียง 60 ปอนด์
เวลาสเกซ เกิดที่เมืองซานแอนโตนิโอในรัฐเท็กซัส เธอเกิดก่อนกำหนด 4 สัปดาห์ ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 2 ปอนด์ 10 ออนซ์ แม่ของเธอเคยกล่าวว่า "ยังคิดไม่ออกว่าลูกสาวของเธอจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร?" เนื่องจากแพทย์ได้แจ้งว่า "เด็กคนนี้อาจไม่สามารถพูดหรือเดินได้ หรือปล่อยให้ใช้ชีวิตตามลำพังได้"
ลิซซีกับคุณพ่อคุณแม่
อย่างไรก็ดี เธอเติบโตขึ้นตามปกติ ทั้งอวัยวะภายในและภายนอก แม้ร่างกายจะผอมบางมากจนน่ากลัว และพบว่าไม่มีชั้นไขมันภายใต้ผิวหนังซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บสารอาหาร ทำให้เธอต้องทานอาหารทุกๆ 15-20 นาที เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานมากพอที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ ตาข้างหนึ่งของเธอเริ่มพร่าเลือนเมื่ออายุได้ 4 ขวบ และบอดในที่สุด ทำให้ปัจจุบันเธอต้องมองสิ่งต่างๆด้วยดวงตาเพียงข้างเดียว
ลิซซีกับครอบครัวของเธอ
ในคอมเมนต์ในยูทูบ ผู้ใช้บางรายเรียกเธอว่า "มัน" และบอกให้เธอ “ไปฆ่าตัวตายเสีย” แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอท้อใจแม้แต่น้อย และทำให้เธอตั้งจุดมุ่งหมายไว้ 4 ประการ
1.เป็นนักพูดเพื่อกระตุ้นให้กำลังใจผู้คน
2.เขียนหนังสือ
3. เรียนจบมหาวิทยาลัย
4.สร้างครอบครัวและหางานทำด้วยลำแข้งของตนเอง
ปัจจุบันเธอเป็นนักพูดเพื่อให้กำลังใจแก่ผู้คนมานาน 7 ปีแล้ว รวมถึงเปิดเวิร์คช็อปเพื่อให้คนรู้จักที่จะสร้างความโดดเด่นให้ออกมาจากภายใน รวมถึงการรับมือจากการข่มเหงรังแกและการเอาชนะอุปสรรค นอกจากนั้น เธอยังเรียนปริญญาโทในสาขาการสื่อสาร จากมหาวิทยาลัยเท็กซัส สเตท และเป็นเจ้าของหนังสือ “Lizzie Beautiful” ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2010 และ “Be Yourself, Be Beautiful” หนังสือเล่มที่สองของเธอ
เวลาสเกซ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของซีเอ็นเอ็นว่า “การถูกจ้องมอง” เป็นสิ่งที่เธอต้องจัดการในขณะนี้เมื่อต้องออกสู่ที่สาธาณะ แต่เธอคิดว่า เธอเดินทางไปถึงจุดจุดหนึ่ง ที่คิดได้ว่า แทนที่จะนั่งเฉยๆและปล่อยให้คนอื่นคอยตัดสิน เธอเริ่มต้องการเดินออกไปหาคนเหล่านั้น และแนะนำตัวว่าเธอคือใคร พร้อมเสนอนามบัตรให้ พร้อมทั้งกล่าวว่า “บางทีคุณควรหยุดจ้องมองฉัน และเริ่มที่จะเรียนรู้”
เธอเขียนถึงความสำเร็จและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตลงในโพสต์บล็อคส่วนตัวโดยกล่าวว่า "เธอเรียนรู้ที่จะอ้าแขนรับสิ่งต่างๆที่ทำให้เธอดูแตกต่างจากคนอื่น แทนที่จะคอยมานั่งตอบโต้สิ่งที่ทำให้ตนเองรู้สึกแย่" เธอตั้งเป้าหมายให้ตนเองและผลักดันไปจนถึงความสำเร็จแม้จะมีคนที่เกลียดอยู่บ้าง นอกจากนั้น เธอยังเปิดช่องยูทูบ ที่สอนเทคนิคต่างๆ อาทิการรับมือกับการถูกดูหมิ่น การทำผม และการคิดบวก แม้บางครั้งจะมีคอมเมนต์ที่แสดงความเห็นในเชิงลบ เธอกล่าวว่าเธออ่านทุกคอมเมนต์เพราะมองว่านั่นก็เป็นเพียงแค่ "คำพูด"
เธอกล่าวว่าเธอดีใจที่เธอดูไม่เหมือนเหล่าเซเล็บที่มีหน้าตาสวยงามซึ่งดูเหมือนๆกันไปหมด ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้คนอื่นได้เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอ
เวลาสเกซกล่าวว่า เธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แน่นอนว่าเธอต้องรู้สึกเจ็บปวด แต่คำตัดสินของคนอื่นไม่ได้หมายความว่าเธอต้องเป็นเช่นนั้น และเธอจะไม่ยอมให้คำพูดเหล่านั้นมากำหนดความเป็นตนเอง และจะไม่ยอมจมไปกับความเสียใจเด็ดขาด แต่จะ "แก้แค้น" ผ่านการสร้างความสำเร็จให้ตนเอง และความมุมานะ
และในสงครามระหว่างคลิป "ผู้หญิงที่อัปลักษณ์ที่สุดในโลก" และ "ตัวฉันเองฉันคิดว่าฉันเป็นผู้ชนะ” เวลาสเกซกล่าวปิดท้าย
ถึงแม้คนที่ได้พบเห็นเธอบางส่วนจะดูถูก และกดดันในเรื่องของ "หน้าตาของเธอ" แต่เธอก็ไม่ย่อท้อนำแรงกดดันนั้นมาเป็นแรงกระตุ้นให้ตัวของเธอเองประสบความสำเร็จในชีวิต แถมอาจจะดีกว่าบางคนที่ต่อว่าเธอซะด้วยซ้ำไป ^ . ^ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะบอกเพื่อนๆคนที่ท้อ อ่อนแออยู่ให้ลุกขึ้นสู้ก็ได้นะคะ อีกอย่าง.......เพื่อนๆจะเห็นได้ว่า เธอบอกให้มองคนที่ภายใน (จิตใจ) ไม่ใช้แค่ภายนอก^^
ซ้ำขออภัยค่ะ