โรงฉายภาพยนตร์แห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง (ภาพ เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์)
เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - เจ้าพ่อวงการโรงฉายภาพยนตร์แดนมังกรเผย “ป๊อปคอร์น” ขุมทรัพย์ทำกำไร เกือบ 2,000 พันล้านบาท
รายงานข่าว (21 มี.ค.) อ้าง วั่นต๋า ซีนีม่าส์ (Wanda Cinemas) บริษัทผู้ประกอบการโรงฉายภาพยนตร์รายใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่า บริษัททำรายได้กว่า 390 ล้านหยวน หรือราว 1,950 ล้านบาท จากการจัดจำหน่ายข้าวโพดคั่ว อาหารว่างยอดนิยมคู่โรงภาพยนตร์ทั่วโลก โดยเม็ดเงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรายได้สุทธิปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 41,000 ล้านหยวน (ประมาณ 2 แสน 5 พันล้านบาท)
หวง ฉวินเฟย ผู้จัดการทั่วไปของสมาคมภาพยนตร์ใหม่แห่งปักกิ่ง (Beijing New Film Association) กล่าวกับซินหวา สื่อทางการจีนว่า บางครั้งรายได้จากยอดขายป๊อปคอร์นยังสูงกว่าของยอดขายตั๋วของโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ เนื่องจากรายได้จากยอดขายในส่วนหลังต้องแบ่งสรรให้กับบรรดาบริษัทผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และเจ้าของภาพยนตร์
“โดยปกติทางโรงภาพยนตร์จะเป็นผู้จัดเก็บรายได้จากการขายป๊อปคอร์นแต่เพียงผู้เดียว” หวงกล่าว
แม้ทางการจีนจะดำเนินมาตรการควบคุมสื่อหรือการเซ็นเซอร์เนื้อหาอย่างเข้มงวด แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ภายในประเทศยังคงมรแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยช่วง 10 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา พบสถิติผู้เข้าชมในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศกว่า 504 ล้านคน
ขณะที่ข้อมูลจากสำนักบริหารกิจการข่าว สิ่งพิมพ์ วิทยุ ภาพยนตร์และโทรทัศน์แห่งชาติของจีนระบุว่า เม็ดเงินของวงการฉายภาพยนตร์ได้ไต่ระดับสูงขึ้นจาก 950 ล้านหยวน (ราว 4,750 ล้านบาท) ในปี 2545 ซึ่งเป็นเวลาที่จีนเพิ่งเริ่มจริงจังกับอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ ขึ้นไปมากกว่า 217,000 ล้านหยวน (ราว 1,085,000 ล้านบาท) ในปี 2556
ทางด้านนักวิเคราะห์ต่างชี้ว่ามีสาเหตุมาจาก “ชนชั้นกลาง” ที่แตกหน่อออกผลอย่างรวดเร็วในสังคมจีน
ทั้งนี้ วั่นต๋า ซีนีม่าส์ เป็นบริษัทในเครือต้าเหลียน วั่นต๋า กรุ๊ป (Dalian Wanda Group) ของนายหวัง เจี้ยนหลิน บุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดของจีนจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอบส์ (Forbes) โดยนับแต่สิ้นปีก่อนมีโรงภาพยนตร์ 142 แห่ง พร้อมห้องฉาย 1,247 ห้อง ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโรงฉายไอแม็กซ์ (IMAX) ถึง 89 ห้อง อยู่ในความดูแลของบริษัท