ต่อมาในปี พ.ศ.2429 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้รับโอนกิจการโทรศัพท์จากกระทรวงกลาโหมมาดำเนินการ
และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เช่าใช้เครื่องโทรศัพท์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
โดยใช้โทรศัพท์จากกระทรวงกลาโหมมาดำเนินการ
และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เช่าใช้เครื่องโทรศัพท์เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
โดยโทรศัพท์ที่ใช้ในระยะแรกนั้นเป็นเครื่องระบบ “แม็กนิโต” หรือเรียกกันว่าระบบไฟประจำเครื่อง
เครื่องระบบนี้ไม่มีหน้าปัด สามารถติดต่อเบอร์อื่นได้เพียงเบอร์เดียว
เวลาจะติดต่อให้หมุนคันหมุนไปอีกเบอร์หนึ่ง ทุกๆ เครื่องจะต้องมีแบตเตอรี่ต่ออยู่กับตัวเครื่อง
เพื่อป้อนกระแสไฟในการพูดกันมีจำนวนผู้เช่าทั้งสิ้น 61 ราย
มีระยะทางสายทั้งสิ้นยาวประมาณ 86 กิโลเมตร
และได้เปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์ระบบไฟกลางแทน เวลาใช้ก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้น
สัญญาณจะแสดงที่ชุมสายโทรศัพท์พนักงานต่อสายเมื่อทราบว่าผู้ใช้จะโทรศัพท์ไปหมายเลขใด
ก็จะทำการต่อให้และตั้งชุมสายโทรศัพท์ขึ้นที่ตำบลวัดเลียบในปี พ.ศ.2450
ต่อมาพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน
ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมในสมัยนั้น
ทรงดำริที่จะเปลี่ยนเครื่องชุมสายโทรศัพท์เป็นระบบอัตโนมัติแบบ Step-by-Step
เมื่อทำการติดตั้งชุมสายโทรศัพท์ระบบอัตโนมัติเสร็จ
ผู้เช่าโทรศัพท์สามารถหมุนหมายเลขลงบนหน้าปัดติดต่อถึงกันได้เองครั้งแรก
เมื่อเวลา 0.01น. ของวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2480
เนื่องจากกิจการโทรศัพท์ไม่อาจขยายงานรุดหน้าได้เท่าที่ควร เพราะเป็นเพียงกองช่างโทรศัพท์ในสังกัดกรมไปรษณีย์โทรเลข
พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจึงได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้ตราพระราชบัญญัติตั้งองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยขึ้น เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2497
โดยในสมัยนั้นมีชุมสายโทรศัพท์ 4 ชุมสายและมีจำนวนเลขหมายทั้งสิ้นประมาณ 10,000 เลขหมาย
ต่อมาจนถึงสิ้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2526 มีชุมสายโทรศัพท์ทั่วประเทศ 207 ชุมสาย
จำนวนเลขหมายทั้งสิ้นประมาณ 518,672 เลขหมาย
Credit : หนังสือเขาคิดขึ้นมาได้อย่างไร ชุดวิทยาศาสตร์อ่านสนุก