หลังจากพบว่ามีชาวบ้านหมู่ 1, 3, 8 และ 9 ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคทริคิเนลโลซิส (Trichinellosis) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ไข้หมูป่า ล่าสุดพื้นที่ดังกล่าวได้รับการประกาศให้เป็น "พื้นที่โรคระบาด" แล้ว  
       ล่าสุด นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โรคนี้เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร ที่ยังนิยมกินอาหารปรุงดิบหรือแบบสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ เช่น ปลา เนื้อหมู และเนื้อวัว หากเป็นหมู หรือวัว ชาวบ้านมักจะชำแหละกันเองในหมู่บ้าน และนำมากินดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เพราะมีความเชื่อว่าทำให้แข็งแรง มีรสชาติอร่อยกว่าเนื้อสุก และเชื่อว่าเครื่องปรุงต่างๆ เช่น พริก เกลือ น้ำมะนาว ฯลฯ จะทำให้เชื้อโรคและตัวอ่อนพยาธิที่อยู่ในเนื้อหมูตาย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคและเสียชีวิตอย่างน้อย 4 โรค ได้แก่  
       1.โรคมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากโรคพยาธิใบไม้ตับ พบในผู้ที่กินเนื้อปลาน้ำจืด ปรุงดิบหรือดิบๆ สุกๆ ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ปีละ 28,000 ราย เฉลี่ยวันละ 76 ราย 
       2.โรคถุงพยาธิตืดหมูในสมอง  
       3.โรคไข้หูดับ หรือโรคสเตรปโตคอคคัส ซูอิส (Streptococcus suis)  
       4.โรคทริคิเนลโลซิส ซึ่งเกิดจากกินเนื้อหมู หรือสัตว์ป่าปรุงดิบที่มีพยาธิตัวกลมในลำไส้ พบในแถบภาคเหนือและชายแดน ผู้ป่วยที่ติดเชื้อรุนแรงมากอาจเสียชีวิต เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและล้มเหลว ส่วนโรคไข้หูดับ เกิดจากการกินเนื้อหมูดิบหรือกินเลือดหมูดิบ หากรุนแรงจะทำให้เสียชีวิต หรือหากไม่เสียชีวิต ยังทำให้หูหนวกถาวรตลอดชีวิต หรือเป็นอัมพาตครึ่งซีก 
วิธีป้องกัน          ต้องกินอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อนเท่านั้น วิธีสังเกตว่าเนื้อสัตว์สุกให้ดูที่สีของเนื้อจะเปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีเทาทุกส่วน และให้ยึดหลักง่ายๆ คือ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ ส่วนผู้ชำแหละหรือ ผู้สัมผัสเนื้อสัตว์ ควรสวมถุงมือป้องกันการติดเชื้อทุกครั้ง หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด 
       หากมีอาการป่วย เช่น ปวดกล้ามเนื้อมากและกดเจ็บ หน้าบวม หนังตาบนบวม กลัวแสง มีไข้สูง ปวดศีรษะโดยเฉพาะหลังจากกินหมูดิบภายใน 3 วัน ให้รีบพบแพทย์ และต้องบอกประวัติการกินหมูดิบด้วย

 

อ้างอิงsanook

Credit: http://www.goosiam.com/Health/html/0009702.html