1.ทัชมาฮาล
1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก แห่งประเทศอินเดีย สถานที่นี้คนทั่วไปต่างรู้กันว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนี้ เกิดจากความรักที่ไม่ลืมหูลืมตาและความเศร้าที่สุดแสนจะคณานาของจักรพรรดิชาห์ ชหาน กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โมกุล(Mughal Empire India) ที่ปกครองอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 16 จนถึงช่วงกลางศตวรรษที่ 19 พระเจ้าชาห์ ชหาน ได้พบกับบุตรสาว อรชุมันท์ พานุ เพคุม บุตรสาวของรัฐมนตรีเมื่ออายุ 14 พรรษา และหลงรักนางตั้งแต่แรกเจอต่อมาในอีก 5 ปี พระองค์และอรชุมันท์ พานุ เพคุมก็ได้อภิเษกสมรสกันในปี พ.ศ.2155 นับตั้งแต่นั้นมาทั้ง 2 ก็ไม่เคยอยู่ห่างกันอีกเลย
2.มหาปิรามิดแห่งกิซ่า
สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณของโลกสิ่งเดียวที่มี อายุยืนยาวที่สุด ปิรามิดเป็นสิ่งก่อสร้างรูปกรวยเหลี่ยมสำหรับเป็นที่เก็บศพกษัตริย์อียิปต์โบราณ ในอียิปต์มีอยู่ 70 ด้วยกัน แต่ปิรามิด 3 แห่งที่อยู่เมืองกีซ่า คือ หลุมฝังศพของพระเจ้าฟาโรห์คีออพส์(พระเจ้าคูฟู) คีเฟรน และไมซีรีนัส เป็นปิรามิดที่ใหญ่ที่สุดสันนิษฐานว่าปิรามิดนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ 4600 ปีมาแล้ว นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและยังคงตั้งตระหง่านอยู่เพียงแห่งเดียวในโลก ใช้เวลาสร้าง 10 ปี
3.สโตนเฮนจ์
เป็นกลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทุ่งราบว้างใหญ่ในบริเวณที่เรียกว่า ที่ราบซัลลิสเบอร์รี่ ในบริเวณตอนใต้ของอังกฤษ ประกอบไปด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ตั้งเรียงกันเป็นวงกลมซ้อนกัน 3 วง แท่งหินบางอันตั้งขึ้น บางอันอยู่ในแนวนอน และบางอันก็ถูกวางซ้อนขึ้นไปข้างบน
4.น้ำตกไนแองการ่า
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่หลายแห่งประกอบกัน ตั้งอยู่บนแม่น้ำไนแอการาทางตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ บนพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดากับสหรัฐอเมริกา สาเหตุที่มีขนาดใหญ่เพราะจริง ๆ แล้วน้ำตกไนแอการาเกิดจากน้ำในทะเลสาบตกลงสู่อีกทะเลสาบหนึ่ง น้ำตกไนแอการาประกอบด้วยน้ำตกสามแห่งที่แยกออกจากกัน คือ น้ำตกเกือกม้า (Horseshoe Falls บางครั้งก็เรียก น้ำตกแคนาดา) สูง 158 ฟุต, น้ำตกอเมริกาสูง 167 ฟุต,และน้ำตกขนาดเล็กกว่าที่อยู่ติดกัน คือน้ำตก Bridal Veil. แม้น้ำตกไนแอการาจะไม่สูงอย่างโดดเด่น แต่ก็กว้างมากน้ำตกไนแองการามีจุดชมวิวที่สวยงามและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของทั้ง 2 ประเทศมานานกว่าศตวรรษและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ลือลั่นสนั่นโลก และเป็นแหล่งที่ทำเงินให้กับแคนาดาและสหรัฐอเมริกาปีหนึ่ง ๆ นับจำนวนมหาศาล
5.ประตูบรันเดนบูร์ก
เป็นอดีตประตูเมืองที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นประตูชัยที่สร้างแบบสถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิก(Neoclassical) และปัจจุบันถือว่าเป็นสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีใน กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน
6.วิหารพาร์เธนอน
วิหารพาร์เธนอน เป็นวิหารที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงในด้านความงดงามและความมีสัดส่วนเหมาะเจาะสมบูรณ์ มีขนาดกว้าง 100 ฟุต ยาว 230 ฟุต และสูง 65 ฟุต เป็นศิลปะแบบดอริก ออกบบโดยสถาปนิกชื่อ อิคตินุส (Ictinus) และ คาลลิคราเตส (Callicrates) ซึ่งดำเนินการก่อสร้างภายใต้การควบคุมของประติมากรชื่อ พิดิอัส (Phidias)
7.ภูเขารัชมอร์
แนวคิดในการแกะสลักรูปปั้นขนาดมหึมาเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1923 จุดประสงค์หลักคือเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังรัฐทางตอนกลางของประเทศซึ่งอยู่ห่างไกลจากแสงสีและความเจริญ โดยการสร้างอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติของประธานาธิบดี 4 คน ที่มีบทบาทสำคัญตั้งแต่การประกาศอิสรภาพจากอังกฤษจนถึงขณะนั้น ได้แก่
1. จอร์จ วอชิงตัน (George Washington)
2. โทมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson)
3. อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)
4. ทีโอดอร์ รูสเวลต์ (Theodore Roosevelt)
ทั้งสี่ท่านถือเป็นจิตวิญญาณแห่งเสรีชนชาวอเมริกันในช่วง 150 ปีแรกหลังจากการก่อตั้งประเทศ
8.พระราชวังต้องห้าม
อีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ‘พระราชวังกู้กง’ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปักกิ่ง ทางทิศเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ ราชวงศ์หมิง ในปี ค.ศ.1406 ใช้เป็นทีประทับของกษัตริย์กว่า 24 พระองค์ ผ่านการซ่อมแซมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังคงสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันรู้จักกันในนามของ ‘พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม’ แปลมาจากภาษาจีน ‘จื้อ จิ้น เฉิง’ แปลเป็นตัวอักษรได้ว่า เมืองต้องห้ามสีเลือดหมู นั่นคือ ห้ามคนธรรมดาสามัญเข้ามาบริเวณวังหลวง และสีเลือดหมูคือสีของอาคารและหลังคาของที่นี่
9.ฮอลลีวูด
ป้ายนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาฮอลลีวูดในลอสแองเจลิสและถือเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์มานานหลายทศวรรษ
หากข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
Cr.ขอบคุณภาพจาก sanook.com