เอเยนซี - ชายชาวไต้หวันเกือบชะตาขาดของจริง หลังติดอยู่ใน “โลงศพ” นานกว่า 4 วัน ทว่าโชคยังดีมีคนมาพบและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือได้ทันเวลา เผยต้องใช้ถุงพลาสติกรอง “ปัสสาวะ” ตัวเองดื่มเอาชีวิตรอด
ว้อนท์ ไชน่า ไทมส์ สื่อ ออนไลน์จีน รายงาน (15 มี.ค.) กรณีเฉียดตายของชายแซ่เฉิน วัย 50 ปีเศษ ที่ติดค้างอยู่ในโลงศพไม้ ซึ่งถูกฝังกลบอยู่ใต้ผืนดินของสุสานแห่งหนึ่งนานกว่า 4 วันเต็ม ก่อนที่จะมีคนมาพบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยชีวิตไว้ได้ทัน เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา
เหตุการณ์ นาทีชีวิตของนายเฉินเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันที่ 13 มี.ค. หลังจากสามีภรรยาคู่หนึ่งเดินทางมายังสุสานผีเฟิงเพื่อทำพิธีเคารพศพ และได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาจากโลงศพที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ เมตร ซึ่งในอารมณ์ตกใจสุดขีดทั้งสองจึงรีบไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่นเพื่อแจ้งเหตุ พิศวงดังกล่าว
หลังจากเจ้า หน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุและช่วยกันเคลื่อน ย้ายฝาโลงศพ พบร่างของเฉินในสภาพอ่อนล้า เสื้อผ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบดินโคลนสกปรก โดยเจ้าหน้าที่เร่งนำตัวเฉินส่งโรงพยาบาล ซึ่งต่อมาแพทย์ผู้ทำการรักษาเผยว่าพบการทำร้ายร่างกายบริเวณเอวและหลัง
เฉิน เล่าว่าเขาตื่นขึ้นมาจากอาการเมาค้างและพบกับความมืดมิด เมื่อยื่นมือไปเจอกับแผ่นไม้เบื้องหน้าก็เดาว่านอนอยู่ในโลงศพแล้วแน่นอน เขาพยายามเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับใช้มือและเข่าดันฝาโลงแต่ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งทำให้เขาต้องเผชิญกับสภาวะร่างกายขาดน้ำและการรุมกัดจากแมลงชนิดต่างๆ โดยเฉินเหลือเพียงถุงพลาสติกที่บังเอิญเก็บไว้กระเป๋าเสื้อมาใช้รองน้ำ ปัสสาวะของตัวเองดื่มประทังชีวิต
ตลอด ระยะเวลากว่า 4 วันที่เฉินต้องนอนอยู่ในโลงศพอันมืดมิด ช่วงกลางวันเขาจะได้ยินเสียงรถราที่วิ่งผ่านไปมา ขณะที่ตอนกลางคืนก็ตกอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสนิทไร้สรรพเสียงใดๆ โดย ณ เวลานั้นเขาตกอยู่ในความสิ้นหวังและเชื่อว่าตนเองคงจะเสียชีวิตก่อนที่จะมี ใครมาพบตัว
อย่าง ไรก็ดี หลังจากมีฝนตกลงมาซึ่งช่วยนำน้ำไหลรินเข้ามาในโลงศพผ่านช่องแคบๆ ของฝาโลง เขาก็มีน้ำดื่มดับความหิวกระหายของตนเอง จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงพูดคุยอยู่ใกล้ๆ จึงเริ่มกู่ร้องสุดกำลังที่มี และเขาตระหนักว่าตนเองอาจรอดชีวิตแล้ว เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา
ทั้ง นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยผลการซักถามเบื้องต้นซึ่งระบุว่า เฉินถูกกลุ่มเพื่อนพามานอนในโลงศพดังกล่าว ทว่าต่อมาเฉินกลับกล่าวว่าเขาเดินโซเซด้วยอาการเมาเข้าไปอยู่ในโลงศพเอง อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่จะดำเนินสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดว่านาย เฉินเข้าไปอยู่ในโลงศพได้อย่างไรต่อไป