เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sreaves32.wordpress.com
รัสเซียส่งกองกำลังพร้อมอาวุธเข้าประชิดพรมแดนไครเมียแล้ว ส่งสัญญาณพร้อมรวบไครเมียเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ แม้ยูเครนไม่ยอมจำนน-ชาติตะวันตกไม่เห็นด้วย
วันที่ 13 มีนาคม 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลรายงานว่า สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน เรื่องการแย่งชิงพื้นที่ปกครองตนเองไครเมีย เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ หลังรัสเซียส่งกองกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าประชิดพรมแดนไครเมียตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา เท่ากับการพยายามปิดกั้นยูเครนในการเข้าถึงไครเมีย โดยการเคลื่อนกองกำลังเกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของยูเครน นายอาร์เซนี ยัตเซนยุค ได้เข้าหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ทำเนียบขาว และวันเดียวกันนั้น กลุ่มผู้นำ G7 รวมนายโอบามาและนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ได้เรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังออกจากไครเมีย และไม่ให้รัสเซียดำเนินการผนวกไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งในดินแดนของตนเอง
นายแอนดรีย์ พารูบบีย์ เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของยูเครน เผยว่า กองกำลังของรัสเซียซึ่งประกอบไปด้วยทหาร 80,000 ราย พร้อมรถถัง 270 คัน รถหุ้มเกราะ 180 คัน ปืนใหญ่ 380 กระบอก เครื่องยิงขีปนาวุธ 18 เครื่อง เครื่องบินรบ 140 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 90 ลำ และเรือรบ 19 ลำ ได้เดินทางเข้าประชิดพรมแดนยูเครน ซึ่งวิกฤตดังกล่าวไม่เพียงมีผลกระทบต่อไครเมียเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงเขตพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครนทั้งหมดด้วย และเกรงว่ากรุงเคียฟเองก็จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เพราะกองกำลังรัสเซียบุกมาด้วยทีท่าพร้อมรุกราน ทั้งนี้จากจุดพรมแดนไครเมียที่กองกำลังรัสเซียตั้งอยู่ อยู่ห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเพียง 2-3 ชั่วโมง เท่านั้น
คลิปวิดีโอหนึ่งที่รับการโพสต์ลงในเว็บไซต์ยูทูบเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพการขนย้ายอาวุธหนักของรัสเซีย ทั้งรถถัง รวมทั้งเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 โดยข้อมูลจากคลิประบุว่าเป็นเส้นทางของหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากพรมแดนไครเมียเพียง 12 ไมล์
ทางด้านอดีตที่ปรึกษาของประธานาธิบดีปูติน นายอองเดร อิลลาริโอนอฟ คาดการณ์ว่า ปูตินตั้งใจที่จะเข้าครอบครองดินแดนอื่น ๆ นอกเหนือจากไครเมียด้วย อันได้แก่ คาร์คีฟ, โดเนคส์, ดาเนโปรเปโตรวิค ลูกันซิค ซาโปรอซเย่ เคอร์ซัน และโอเดสซ่า
ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่าช่วงเวลาที่จะตึงเครียดมากที่สุด กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคมนี้ ซึ่งสภาท้องถิ่นไครเมีย จะจัดลงประชามติขอความเห็นจากชาวเมืองไครเมียเป็นข้อตัดสินว่าต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียหรือไม่ โดยทางรัฐสภาของสาธารณรัฐปกครองตนเองไครเมีย แห่งยูเครน ได้ลงมติเห็นชอบในคำขอให้ไครเมียเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว ด้วยคะแนนเสียง 78 เสียง และงดลงคะแนน 8 เสียง จากทั้งหมด 86 เสียง