เข้าใจ "ถั่วเหลือง" ก่อนรับประทาน

 

 

 

 

 


เราเคยอาจจะเคยได้ยินมาว่าอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองจะช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดอาการร้อนวูบวาบ ป้องกันโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ป้องกันโรคกระดูกพรุน และช่วยลดน้ำหนัก แต่การศึกษาจาก Harvard School of Public Health ก็ระบุลงไปมากขึ้น โดยชี้ว่าประโยชน์ของถั่วเหลืองนั้นมาจากสารไอโซฟลาโวน (ไฟโตเอสโตรเจนชนิดหนึ่งที่คล้ายเอสโตรเจนของเรา) จึงทำให้มีการกล่าวอ้างถึงประโยชน์ของถั่วเหลืองจนเกินจริงอยู่มากมาย

โรคหัวใจ
ในปี 1999 ทาง FDA จากสหรัฐฯ ยอมให้ผู้ผลิตอ้างว่าอาหารที่มีโปรตีนจากถั่วเหลืองนั้น "อาจช่วยลดโอกาสเสี่ยงโรคหัวใจ" เพราะในการศึกษาขั้นต้น โปรตีนจากถั่วเหลืองสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลเลวหรือ "LDL" ได้โดยก่อนหน้านั้นวารสาร New England Journal of Medicine ตีพิมพ์การทดลองไว้ว่าการกินโปรตีนจากถั่วเหลืองวันละ 50 กรัม จะช่วยลด LDL ได้ถึง 12.9% นั่นทำให้ในระยะยาวความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและสโตรกลดลงถึง 20%
ในขณะเดียวกัน ทาง American Heart Association ก็ชี้ว่า หากจะกินโปรตีนจากถั่วเหลืองให้ได้มากขนาดนั้น เราจำเป็นต้องกินเต้าหู้ถึงวันละครึ่งปอนด์ หรือดื่มนมถั่วเหลืองวันละ 54 ออนซ์เลยทีเดียว อย่างไรก็ดี การกินโปรตีนจากถั่วเหลืองก็ยังถือว่าดีต่อสุขภาพอยู่ เพราะเรามักจะกินแทนโปรตีนจากสัตว์นั่นเอง

อาการร้อนวูบวาบ
ในเชิงทฤษฏีแล้ว การที่ถั่วเหลืองช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบหรืออาการวัยทองอื่นๆ นั้นเป็นไปได้ด้วยไฟโตเอสโตรเจน อย่างไรก็ดี ทาง American Heart Association ก็ยังไม่มีหลักฐานมาสนุบสนุน

มะเร็งเต้านม
ถึงแม้จะมีคำกล่าวอ้างมากมาย แต่ไฟโตเอสโตรเจนก็ทำงานไม่เหมือนกับเอสโตรเจนของเราเสมอไป และในเนื้อเยื่อบางชนิดนั้นไฟโตเอสโตรเจนก็จะไปขัดขวางการทำงานของเอสโตรเจนด้วยซ้ำหาก Estrogen-Blocking เช่นนี้เกิดขึ้นในเต้านม ดังนั้น ในเชิงทฤษฎีแล้วการกินถั่วเหลืองก็อาจจะลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมได้จริง เพราะเอสโตรเจนเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเต้านมเติบโต

แม้จะยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าถั่วเหลืองเกี่ยวข้องอย่างไรกับมะเร็งเต้านม แต่ในการศึกษาจาก Shanghai Women's Health Study นั้น พบว่าผู้หญิงที่กินโปรตีนจากถั่วเหลืองสูงสุดในช่วงวัยรุ่นหรือวัยสาวจะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมก่อนเข้าสู่วัยทองน้อยกว่าคนที่ไม่กินเลยถึง 60% ทั้งนี้ ควรตระหนักว่าหากคุณอยู่ในระหว่างรักษามะเร็งเต้านมก็ควรหลีกเลี่ยงถั่วเหลืองเนื่องจากมันอาจจะขัดขวางการรักษาได้

ความจำและสมอง
งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการกินถั่วเหลืองจะช่วยชะลอหรือป้องกันการเสื่อมของระบบประสาท เช่น ความจำและความสามารถในการคิดหาเหตุผลอย่างไรก็ดี การศึกษายังคงขัดแย้งกันอยู่มากจนถึงขนาดที่ผลอาจเป็นไปในทางตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เนื่องจากการขาดวิตามินบี-12 ที่มักพบในเนื้อสัตว์นั่นเอง

ถ้าคุณคิดอยากกินแคปซูลเสริมแทนถั่วเหลืองทาง American Heart Association ระบุว่าไม่พบหลักฐานใดๆ ที่ชี้ว่าไอโซ-ฟลาโวนส์ซึ่งสกัดจากถั่วเหลืองนั้นจะให้ผลดีต่อสุขภาพ

ที่มา: sanook.com
Credit: http://board.postjung.com/751693.html
13 มี.ค. 57 เวลา 19:21 534 50
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...