Dyslexia โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ

 

 

 

 

 

คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า dyslexia คืออะไร? ตามปกติคนทั่วไปเวลาอ่านหนังสือ การจะเข้าใจความหมายของคำหรือประโยคในหนังสือเป็นความสามารถที่ต้องการการฝึกฝน และต้องอาศัยความพยายามของผู้อ่านพอสมควร แต่คนที่เป็น dyslexia นี่คือปัญหาใหญ่ที่เขาทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดี ตลอดเวลาหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมาแพทย์และนักจิตวิทยาก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่า โรคนี้เกิดจากสาเหตุใดบ้าง .. Dyslexia โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ

Dyslexia โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ

Dyslexia คืออะไร

dyslexia (dys แปลว่า ผิดปกติ lexicon การอ่าน) เป็นโรคทางจิตใจของผู้ที่บกพร่องด้านความสามารถในการอ่านหนังสือ การสะกดคำหรือการเขียน และความบกพร่องด้านต่างๆ เหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกัน ในคนๆ เดียวกัน

ถ้าความผิดปกติอยู่ในระดับรุนแรง เด็กที่เป็น dyslexia อาจมีสติปัญญาต่ำกว่าเด็กปกติประมาณ 2 ชั้นเรียน และแพทย์ได้ตรวจพบว่า อาการนี้มักเกิดในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิงประมาณ 3-4 เท่า       

แพทย์และนักจิตวิทยาในอเมริกาได้สำรวจพบว่า เด็กอเมริกันที่เป็นโรค dyslexia มีประมาณ 5-6% (สำหรับในประเทศไทย สถิติของกระทรวงศึกษาธิการไทยในปี 2556 แสดงว่า จำนวนเด็กไทยที่อ่านหนังสือไม่ออกมีมากถึง 4 แสนราย ผู้ใหญ่ที่อ่านไม่ออกคงมีหลายล้าน มิน่า คนไทยจึงไม่อ่านหนังสือกัน)

ตัวอย่างโรค dyslexia

ย้อนอดีตไปถึงปี 1896 แพทย์ชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ W.P. Morgan ได้เขียนบทความลงในวารสาร British Medical Journal ฉบับเดือนพฤศจิกายนว่า เขามีคนไข้เป็นเด็กหนุ่มวัย 14 ปี ในความดูแลชื่อ Percy F.ซึ่งมีไอคิวระดับฉลาด สามารถเล่นกีฬาได้ดี แต่มีปัญหาในการอ่านหนังสือ คืออ่านไม่ออก จนต้องขอให้เพื่อนอ่านหนังสือเรียนให้ฟัง

Thomas Edison

แต่คนที่มีอาการ dyslexia ก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ล้มเหลวในชีวิต

Thomas Edison ผู้ประดิษฐ์หลอดไฟฟ้า และเครื่องบันทึกเสียง เป็นอัจฉริยะที่มีอาการ dyslexia มาตั้งแต่เด็กเพราะเรียนหนังสือไม่ได้ สอบได้ที่โหล่บ่อย จนพ่อคิดว่าลูกโง่ จึงต้องสอนให้เองที่บ้าน และบอกให้ลูกลาออกจากโรงเรียน เพราะ Edison สะกดคำผิดๆ ถูกๆ ทั้งๆ ที่มีอายุ 19 ปีแล้ว

ปฏิมากร Auguste Rodin ก็มีปัญหาเรื่องการอ่าน และเขียนเช่นกัน จนบิดาและลุงลงความเห็นว่า คงเรียนอะไรไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเติบใหญ่ เขาจึงไม่มีอาชีพเป็นนักเขียน แต่ทำงานปฏิมากรรมจนเป็นปฏิมากรเอกของโลก ผู้รังสรรค์รูปปั้นบรรลือโลกชื่อ The Kiss

ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ Woodrow Wilson ก็อ่านหนังสือไม่ออกจนกระทั่งอายุ 9 ขวบ ด้านนายพล George Patton ก็มีเสียงเล่าลือว่า สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัย West Point โดยใช้วิธีจำคำบรรยายของอาจารย์ เพราะอ่านหนังสือไม่ออกเช่นกัน

นอกจากนี้โลกก็มีบุคคลสำคัญอีกหลายคน เช่น มหาเศรษฐี Nelson Rockfeller, ดาราภาพยนตร์ Whoopi Goldberg, อดีตนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ Lee Kuan Yew, จิตรกร Leonardo da Vinci, นักเขียน Agatha Christie และนักเขียนเทพนิยาย Hans Christian Andersen ที่มีอาการ dyslexia ไม่มากก็น้อยในวัยเด็ก แต่ประสบความสำเร็จในที่สุด โดยเฉพาะ Christie นั้นได้กลายเป็นนักประพันธ์นวนิยายสืบสวนชื่อก้องโลก ผู้เขียนหนังสือได้มากกว่า 100 เล่ม และขายได้กว่า 2,000 ล้านเล่ม

สำหรับ Tom Cruise น้องสาวทั้ง 3 คนล้วนเป็นโรค dyslexia และ Cruise ได้พยายามลบปมด้อยด้านนี้ด้วยการเล่นกีฬา และเป็นนักแสดงภาพยนตร์ เมื่อถึงวันนี้เขาได้พยายามช่วยเด็กอื่นๆ ที่เป็นโรคเดียวกับตน

Dyslexia โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ

อาการของโรค Dyslexia 

ในอดีตจักษุแพทย์ เคยคิดว่าสายตาที่ผิดปกติ คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนเป็น dyslexia แยกอักษรไม่ออกเวลาเขาอ่านหนังสือ แต่ในปี 1980 Paula Tallal แห่งมหาวิทยาลัย Rutgers ที่ Newark ในรัฐ New Jersey สหรัฐอเมริกา และ Roderick Nicholson แห่งมหาวิทยาลัย Sheffield ในอังกฤษได้พบว่า สมองส่วน cerebellum ของคนที่เป็น dyslexia ทำงานผิดปกติ

ในคนกลุ่มนี้ เวลาเขากวาดสายตาไปตามตัวอักษร ภาพตัวอักษรในคำต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คำแต่ละคำที่มีความหมาย เป็นข้อมูลถูกส่งต่อเข้าสมอง ให้สมองแปลความหมายออกมา แต่ถ้าสมองแปลความหมายไม่ได้ เพราะทำงานบกพร่อง เช่น แปลงคำสองคำที่อยู่ใกล้กันจาก basket lemon เป็น lasket bemon ที่ไม่มีความหมายใดๆ เลย เขาจึงอ่านผิด และไม่เข้าใจสิ่งที่อ่าน

อาการเริ่มต้นของเด็กที่เป็น dyslexia

อายุ 3-4 ขวบ ก่อนเข้าโรงเรียน จับถือหนังสือในมือไม่เป็น มีข้อจำกัดในการจำคำ วิธีช่วยคือพ่อแม่ต้องอ่านหนังสือให้ฟัง สอนร้องเพลงที่มีคำสัมผัสให้ร้อง

ชั้นอนุบาล เวลาถามชื่อของสิ่งของหรือสีเด็กจะตอบช้า สามารถช่วยได้โดยการสอนเพลง หรือเล่นเกมส์ที่มีคำสัมผัส

ชั้นประถมปี 1-2 มักบ่นว่าอ่านหนังสือไม่ทันเพื่อน อ่านแล้วไม่เข้าใจ จึงมักหลีกเลี่ยง และไม่ชอบอ่าน วิธีช่วยคือพ่อแม่ต้องช่วยฝึกและพยายามสอนให้มาก

ชั้นประถมปี 2-3 เด็กมักถอยหนีสังคม บางคนพยายามอ่าน แต่ไม่ตระหนักว่า สิ่งที่อ่านนั้นหมายถึงอะไร วิธีแก้คือ ปรึกษาแพทย์หรือ หรือหากิจกรรมอื่นๆ ให้ทำ

เมื่ออายุมากกว่า 7 ขวบ เด็กมักอ่านผิดๆ ถูกๆ สับสนกับคำคล้ายๆ กัน เช่น เจ็ด กับ เจ็ต พูดตะกุกตะกัก ชอบใช้คำซ้ำๆ จำชื่อ วันที่ เบอร์โทรศัพท์ไม่ค่อยจะได้ เวลาอ่านคำที่ยาวและมีหลายพยางค์ มักเดาและอ่านข้ามอักษรบางตัวไป หรือเวลาอ่านคำยาวๆ มักแทนคำนั้น ด้วยคำที่ง่ายกว่า เช่น แทนคำว่า วันเฉลิมพระชนม์พรรษา ด้วยคำว่า วันเฉลิมฯ เป็นต้น เวลาสะกดมักได้คำผิด และเขียนลายมือที่อ่านยาก ทำการบ้านไม่ทัน และไม่เสร็จ อีกทั้งกลัวการอ่านออกเสียง

teapot หลากหลายเวอร์ชันที่เขียนโดยผู้เป็น
โรคความบกพร่องในการอ่านหนังสือ

การเปรียบเทียบมองของคนปกติกับคนที่เป็นโรค dyslexia 

นักประสาทวิทยา Shaywitz ได้พบว่า เวลาอ่านหนังสือ คนปกติที่เป็นนักอ่านมือใหม่สมองส่วน parieto-temporal จะทำงาน แต่สำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่ออก สมองส่วนนี้จะไม่มีอาการใดๆ ที่แสดงว่าทำงาน กลับเป็นว่าเขาให้สมองบริเวณ Broca ทำงานมาก นั่นแสดงว่า คนที่อ่านหนังสือไม่ออก กำลังชดเชยการไม่ทำงานของส่วน parieto-temporal ด้วยการกระตุ้นบริเวณอื่นให้พยายามอ่านแทน

ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่า คนที่เป็นโรค dyslexia เวลาอายุมากขึ้น สมองส่วน Broca ของเขาจะทำงานมากขึ้นเวลาอ่านหนังสือ นี่เป็นการชดเชยความบกพร่องในการทำงานของสมองส่วนหลัง และสำหรับคนที่อ่านหนังสือไม่ออกตลอดไปนั้น ในที่สุดก็จะพยายามเข้าใจเรื่องที่อ่านโดยอาศัยความสามารถในการจำ

ที่มา www.manager.co.th

 
Credit: http://teen.mthai.com/education/68714.html
11 มี.ค. 57 เวลา 18:32 991 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...