10 นิสัยแบบไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ

 

 

 

 

 

10 นิสัยแบบไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ

เวลาไปอยู่ต่างประเทศหรือต่างบ้านต่างเมือง "มารยาท" เป็นสิ่งสำคัญมากๆ แต่เนื่องจากวัฒนธรรมของแต่ละที่ไม่เหมือนกัน อะไรบางอย่างที่เราทำกันจนชินติดเป็นนิสัยอาจกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เจ้าของประเทศเค้าไม่พอใจได้ (ตามคำสุภาษิตไทยๆที่ว่า "เข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม" แปลว่าไปที่ไหนให้ทำตามเจ้าของถิ่นเราจะได้ไม่เดือดร้อน ทำตัวให้ถูกกาลเทศะ จะปรับตัวเข้ากับเค้าได้ง่ายนั่นเอง)

ตอนเรามาอยู่ต่างประเทศใหม่ๆ สิ่งที่ปรับตัวยากมากคือการเข้าสังคม ไหนจะภาษา ไหนจะท่าทาง ไหนจะกริยา อะไรๆก็ไม่เหมือนไทยไปหมด แถมบางอย่างที่ทำที่ไทยไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าไปทำที่ต่างประเทศอาจดูเสียมารยาทอีกต่างหาก คิดง่ายๆ เหมือนกับฝรั่งมาเมืองไทยแล้วเอาเท้าหยิบของจากพื้น อันนี้เราก็จะคิดว่าเค้าไม่มีมารยาทใช้เท้าหยิบของ แต่จริงๆแล้วที่ต่างประเทศ เท้าก็เป็นเหมือนอวัยวะส่วนอื่นๆ และการใช้เท้าหยิบจับของหรือเอาวางพาดโต๊ะก็ไม่ใช่เรื่องหยาบคายอะไร 

พอคิดแบบนี้เราก็เลยอยากจะเขียนเรื่องกริยามารยาทเอาไว้ให้คนที่จะไปต่างประเทศหรือคนที่อยู่ในต่างประเทศได้อ่านกันเผื่อจะช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น (เอาจริงๆ นิสัยบางอย่างก็ควรเลิกใช้ที่ไทยด้วยเหมือนกัน)

10 นิสัยไทยๆที่ไม่ควรนำไปใช้ในต่างประเทศ

1. มาสาย - อันนี้แย่ที่สุดเพราะคนไทยมักจะขาดระเบียบเรื่องเวลาตลอด สายนิดสายหน่อยไม่ว่ากัน แต่คนต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตกกับชาวญี่ปุ่นเค้าถือเรื่องเวลาเอามากๆๆๆๆ นัดแล้วต้องเป็นนัด ต้องมาตามเวลาเป๊ะๆ (ควรมาก่อนเวลาซัก 5-10 นาทีด้วยซ้ำ) ถ้าเค้านัด 10 โมงแต่ดันมา 10.05 นี่ก็ถือว่าสายมากแล้ว ยิ่งถ้าเป็นเวลาประชุมจะถือว่าเราขาดความรับผิดชอบและเสียมารยาทมากๆ ด้วย อันนี้เจอกับตัวเองเพราะว่าเพื่อนเคยนัดกันไปกินอาหารเย็นเป็นกลุ่มใหญ่ๆ นัด ณ เวลา 16.00 เราโผล่ไป 16.03 พอเราไปถึงที่นัดทุกคนมาหมดแล้วเหลือเราคนเดียวเลยโดนตักเตือนไปว่าอย่ามาสายอีก (เรานี่แบบเหงื่อตกไปเลย แค่สามนาทีเองอ่ะ T^T ถ้าเป็นที่ไทยถือว่าตรงเวลานะนั่น...)

2. ต่อคิว
- เวลาไปซื้อของ ซื้ออาหาร ซื้อตั๋ว ช่วยหันไปดูหน่อยว่าเค้าเข้าคิวกันตรงไหน เพราะว่าบางที่เค้าจะให้ยืนรอห่างๆ แล้วพอถึงคิวเราค่อยเดินเข้าไปจ่ายเงิน
- อย่าเดินไปแซงคิวคนอื่นเพราะว่าอาจโดนคนที่ต่อคิวอยู่เดินมาต่อว่าเอาได้ แล้วที่แย่มากๆ ที่เราเคยเห็นคือเข้าคิวคนเดียวแล้วเจอเพื่อนหรือคนรู้จักดันให้เค้ามาในคิวเฉยเลย (เคยเห็นฝรั่งด้านหลังเดินเข้ามาต่อว่าแบบจะจะ บางที่เค้าก็มีเจ้าหน้าที่ดึงคนแซงออกจากคิวด้วย)
- ที่ต้องระวังคือการขึ้นรถบัสหรือรถไฟอย่าวิ่งไปแซงคนข้างหน้าเพราะว่าเค้าจะต่อแถวกันขึ้นไป บางที่แม้ว่าจะไม่มีการต่อแถวรอรถแต่ว่าคนที่จะขึ้นรถจะจำคนที่มาก่อนแล้วเดินตามคนๆ นั้นไม่แซงคนที่มารอก่อนอีกต่างหาก เป็นระเบียบกันสุดๆ ยังไงช่วยเคารพกฏการต่อแถวอย่าแซงคิวคนอื่นด้วยนะคะ

3. การกินอาหาร
- คนไทยมักจะกินอาหารด้วยการสั่งมาแล้วกินด้วยกัน แต่ว่าประเทศอื่นๆ เค้ากินจานใครจานมัน ไม่มีการแชร์กัน เวลาก่อนสั่งอาหารควรจะดูโต๊ะข้างๆ ก่อนว่าเค้ากินกันยังไง ถ้าเค้าสั่งมาแล้วแชร์กันได้ก็สั่งไป แต่ว่าถ้ากินแยกจานกันเราก็ไม่ควรสั่งมาแชร์กัน แยกสั่งจานใครจานมันไป (ตักแบ่งชิมกันได้ไม่แปลกแต่อย่าเอาวางไว้ตรงกลางแล้วกินด้วยกันแบบไทยๆก็พอค่ะ) 
- น้ำดื่มบนโต๊ะ ก่อนหยิบดื่มควรดูให้ดีๆว่าแก้วน้ำของเราอยู่ฝั่งไหน อย่าหยิบของคนข้างๆ มาดื่มเพราะว่ามันเสียมารยาทมากๆ อย่างที่บอก ฝรั่งเค้าถือมากเรื่องอาหารของใครของมัน ไม่ใช่แบบไทยๆที่เป็นเพื่อนกันแล้วก็หยิบน้ำเค้ามาดื่มได้หน้าตาเฉย
- เรื่องการกินอาหารให้หมดจาน อันนี้แล้วแต่ละประเทศว่าธรรมเนียมเค้าเป็นยังไง บางประเทศเราต้องกินอาหารให้หมดจานเพื่อให้เจ้าของบ้านภูมิใจว่าเค้าทำอาหารอร่อย แต่บางประเทศเราต้องเหลืออาหารไว้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณเจ้าของบ้าน (มีเพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าเคยไปกินข้าวเย็น เจ้าของบ้านทำอร่อยมากเค้าเลยกินหมดจาน เจ้าของบ้านเห็นเลยเติมให้อีกเรื่อยๆ เค้าก็กินหมดเรื่อยๆ ที่ไหนได้ประเพณีบ้านนี้ถ้าอิ่มแล้วต้องเหลืออาหารไว้ที่จานเล็กน้อยแล้วรวบมีดกับส้อมเพื่อเป็นการขอบคุณ ถ้ากินหมดเจ้าของบ้านจะเติมให้อีกเพราะคิดว่าแขกยังไม่อิ่ม เล่นเอากินกันจนจุกเลย) ถ้าจะให้ดี ค่อยๆกินช้าๆ แล้วดูคนที่อิ่มก่อนว่าเค้าทำกันยังไง ไม่อย่างนั้นเราอาจทำเรื่องเสียมารยาทโดยไม่รู้ตัวได้
- ถ้าไปงานปาร์ตี้แล้วมีอาหารบุฟเฟ่ เวลาตักอาหารให้ตักพอกินอิ่มในรอบเดียว อย่าเดินหลายรอบยกเว้นว่าจะหิวจริงจัง (ไม่ควรตักอาหารพูนจานด้วย เพราะจะทำให้เราดูตะกละมาก)
- ห้ามนำอาหารจากนอกร้านเข้ามานั่งกินในร้านอาหาร ห้ามเอาน้ำจากร้านนึงไปร้านนึง เข้าร้านเครื่องดื่มต้องซื้อของที่นั่น นั่งฟรีไม่ได้ เวลาเข้าร้านขายของหรือห้างสรรพสินค้าบางที่ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มติดเข้าไปอีกต่างหากต้องดื่มกินให้เรียบร้อยก่อน
- การดมอาหาร อันนี้เคยมีเพื่อนชาวแอฟริกันเล่าให้ฟังว่าสิ่งที่แย่ที่สุดคือการสูดดมอาหารก่อนกิน ถ้ามีคนยื่นอาหารให้แล้วดมอาหารนั้น เค้าจะไม่กินเลย (คล้ายๆกับว่าทำให้อาหารสกปรก) แต่บางประเทศอย่างเช่น อิตาลี คนอิตาลีดมทุกอย่างก่อนกินเพราะถือว่าทำให้เจริญอาหาร ยังไงไปอยู่ประเทศไหนก็ทำตามประเพณีประเทศนั้นๆ ดีที่สุด

4. เดินข้ามถนน 
- ควรข้ามที่ทางม้าลายจะปลอดภัยที่สุดเพราะต่างประเทศส่วนใหญ่คนขับเค้าจะหยุดรถให้คนที่ข้ามทางม้าลาย (ยกเว้นอิตาลีกับฝรั่งเศสที่ค่อนข้างขับรถดุดันต้องระวังทั้งบนทางม้าลายและบนถนนทั่วไป)
- พอรถหยุดแล้วให้รีบข้ามแล้วพยักหัวขอบคุณเล็กน้อยเป็นมารยาท อย่าข้ามถนนไปคุยไป
- ถ้าข้ามถนนตรงป้ายไฟเขียวไฟแดง บางที่ต้องกดปุ่มสัญญาณก่อนแล้วไฟจะเปลี่ยนเป็นสีแดงให้ อย่ายืนรอแบบไร้จุดหมายเพราะรถจะไม่หยุดให้แน่นอน
- ไม่ควรข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์แบบที่ทำบ่อยๆ ในไทย เพราะถ้าโดนรถชน คนผิดคือเราเต็มๆ ที่ไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย

5. ขับรถ
- การขับรถในต่างประเทศนั้นเค้าจะเคารพกฎจราจรมากๆ เนื่องจากแทบทุกถนนจะมีกล้องวงจรปิด(แบบที่มีกล้องจริงๆ ไม่ใช่กล้องปลอมแบบในไทย) เอาไว้จับคนขับรถผิดกฎ ณ ทุกเวลาทุกสถานที่ ดังนั้นถ้ามาเที่ยวต่างประเทศหรืออยู่ต่างประเทศแล้วอยากจะขับรถ ให้ศึกษากฎจราจรของประเทศนั้นๆ ไว้ก่อนจะได้ไม่ขับผิดกฏแล้วโดนปรับ
- ไม่ควรขับรถเร็วเกินกำหนด ตรงที่การจราจรติดขัดจะมีป้ายสัญญาณเตือนเรื่องอัตราเร็วของการขับรถไว้เป็นระยะๆ ให้คอยสังเกตแล้วลดความเร็วลงตามที่กำหนด อย่าคิดว่าไม่มีตำรวจแล้วจะซิ่งแค่ไหนแบบที่ขับในไทยก็ได้เด็ดขาด เพราะอย่างที่บอกไว้คือเค้ามีกล้องวงจรปิดที่จะถ่ายรูปเราตอนที่ขับรถเร็วเกินกำหนดส่งไปที่บ้านเพื่อให้มาจ่ายค่าปรับ แล้วค่าปรับก็ไม่ใช่ถูกๆ แบบในไทยด้วย ถ้าขับรถผิดกฎบ่อยๆ โดนปรับบ่อยๆ ก็มีสิทธิโดนยึดใบขับขี่ได้อีกต่างหาก
- ห้ามขับรถแซงซ้ายแซงขวา ถ้าแซงรถคันข้างหน้าแล้วให้กลับเลนเดิม อย่าขับปาดหน้าคนอื่น พยายามขับรถอยู่ในเลนเดียว ห้ามขับฉวัดเฉวียนแบบในไทยที่สามารถแซงจากทางขวาข้ามเลนไปข้ามเลนมาเด็ดขาด เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุ เราต้องตกเป็นคนผิดอย่างแน่นอน 
- การจอดรถ ก่อนจอดต้องดูก่อนว่าเป็นที่ที่จอดได้หรือเปล่า? มีสัญญาณอะไรบอกหรือไม่ว่าเป็นเขตห้ามจอด ถ้าจอดในที่ที่ต้องจ่ายเงินก็ต้องไปจ่ายเงินแล้วโชว์ตั๋วค่าจอดรถไว้ที่หน้ากระจก (ใส่ไว้ในรถให้คนตรวจเห็นชัดๆ) ถ้าจอดผิดที่หรือจอดรถแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาตรวจแล้วแจกใบสั่งให้ไปจ่ายค่าปรับ (แพงกว่าค่าจอดรถอีกหลายสิบเท่า) อย่าจอดรถซ้อนคันหรือจอดรถส่งเดชไม่ดูตาม้าตาเรือนอกเวลาราชการเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่กลับบ้านหมดแล้วแบบในไทย ยังมีเจ้าหน้าที่นอกเวลาคอยจับผิดคนอีกเยอะ

7. ทิป หลังจ่ายเงินค่าอาหารแล้วบางประเทศเค้าถือเป็นข้อกำหนดเลยว่าเราต้องให้ทิปอย่างน้อย 10% ของค่าอาหาร (เช่นในอเมริกา) บางประเทศถ้าไม่ยอมจ่ายจะถือว่าเป็นการเสียมายาทแม้ว่าจะไม่ได้เป็นข้อกำหนดตายตัว (เช่นในยุโรป) ดังนั้นก่อนลุกออกจากโต๊ะ ดูโต๊ะอื่นๆว่าเค้าจ่ายทิปกันหรือเปล่าอย่ากินเสร็จจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านไปเฉยๆ

8. น้ำมูก ที่อังกฤษถ้าเป็นหวัดหรือว่าน้ำมูกไหลเพราะอากาศเปลี่ยนให้สั่งน้ำมูกทันที ห้ามสูดน้ำมูกเด็ดขาด เพราะอันนี้ถือว่าเป็นการเสียมารยาทมากๆ ที่สูดน้ำมูกกลับเข้าจมูกไป คนอังกฤษเป็นหวัดตลอดเวลาเค้าจะมีทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าพอมีน้ำมูกนิดหน่อยก็สั่งทันที ทุกที่ทุกเวลา (แต่คนไทยเรามักจะไม่ค่อยชอบสั่งน้ำมูกต่อหน้าคนอื่น ส่วนใหญ่จะสูดกลับเข้าไปแล้วฝรั่งบอกว่ามันเสียมารมาทมากๆเลย ส่วนเราก็คิดว่าสั่งน้ำมูกต่อหน้าคนอื่นสิที่เสียมารยาท แต่ก็อย่างว่าเราอยู่ประเทศเค้าก็ต้องทำตามกฎของเค้าอยู่ดี)

9. ต่อราคาของ ข้อนี้ถ้าไปร้านที่เจ้าของไม่ได้ขายเองก็ไม่ควรไปต่อราคาเพราะเด็กในร้านก็เป็นลูกจ้าง ขายเฉพาะสินค้าตามราคาป้ายเท่านั้น จะไปต่อของลดราคากับเค้าแบบในไทยไม่ได้ ในต่างประเทศส่วนมากราคาของต่างๆ ขายตามป้ายไม่มีการลดราคาใดๆ (ยกเว้นที่จีน อันนี้ต่อได้ต่อไปบอกสิบหยวนจ่ายสองหยวนยังมีเลย)

10. รองเท้า ถ้าได้ไปบ้านเพื่อนหรือไปบ้านคนรู้จักในต่างประเทศ บางบ้านเค้าใส่รองเท้าในบ้านเราก็ใส่เข้าไปได้เลย อย่าไปถอดรองเท้าแล้วเดินเท้าเปล่าเข้าบ้านเค้าเพราะธรรมเนียมต่างกัน แต่บางบ้านเค้าก็จะมีรองเท้าให้เปลี่ยนเราก็เปลี่ยนไป ยังไงก็ต้องถามเจ้าบ้านก่อนว่าจะให้ถอดหรือจะให้ใส่อันนี้ต่างบ้านก็ปฏิบัติต่างกัน 

ถ้าใครเจอเหตุการณ์อะไรในต่างประเทศที่เจ้าของประเทศเค้าบอกว่าไม่ควรทำก็อย่าลืมแบ่งปันกันด้วยนะคะ เพราะอยากรู้มากค่ะว่ายังมีเรื่องไหนอีกที่ชาวไทยทำแล้วคนฝรั่งเค้ารู้สึกตะขิดตะขวงใจ

Credit: http://board.postjung.com/750944.html
11 มี.ค. 57 เวลา 10:05 1,246 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...