รักที่เกิดจากการสบตาครั้งแรก
เป็นรักที่ลึกลับที่สุด และอาจทำให้มนุษย์เจ้าเหตุผลหลายคนจำต้องคิดถึงสิ่งไร้เหตุผลต้นปลายหรือไม่ก็จำนนให้กับความเชื่อเรื่อง ‘ต้นเหตุที่ถูกลืม’ เช่นอดีตชาติ
เพราะความรักชนิดนี้อาจพาไปสู่การร่วมอยู่กินตลอดชีวิตเพียงด้วยความรู้สึกตั้งแต่แรกพบว่า ‘คนนี้คู่เรา’และพบในนาทีสุดท้ายยามตายจากกันว่า ‘อย่างนี้ก็มีจริง’น้ำตาอาลัยและความมั่นใจว่าจะได้พบกันอีกคือบทสรุปที่ทำให้รักลึกลับชนิดนี้เป็นที่กระจ่างขึ้น
รักที่เกิดจากการเกื้อกูลกันและกัน
เป็นรักที่เริ่มจากความปรองดอง มีความรู้สึกแสนดี อบอุ่นและสุขสบายภายในรัศมีสายตาของอีกฝ่ายอย่างรู้ว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน มีความเสมอกัน
รักชนิดนี้เป็นสิ่งมีที่มาที่ไป
และชวนให้เห็นว่าความรักหาใช่สิ่งมหัศจรรย์เกินความเข้าใจปัญหาก็คือชั่วชีวิตคนๆหนึ่งอาจไม่พบใครที่เต็มใจให้ความร่วมมือเกื้อกูลกันมากพอเลยสักครั้งเดียว
รักที่เกิดจากความใกล้ชิด
เป็นรักที่อาศัยการอยู่ด้วยกันบ่อยๆใกล้กระแสกายกระแสใจของอีกฝ่ายแล้วไม่รู้สึกขัดแย้ง ไม่เกิดความรังเกียจหญิงชายที่เข้าข่ายดังกล่าวจะพบว่าเพียงใกล้กายธรรมชาติระหว่างเพศก็ทำงานแล้วดึงดูดให้อยากประกบติดกันได้แล้ว
รักชนิดนี้อาจดูเป็นจริงเป็นจังและมีตัวตนจับต้องได้ต่อเมื่อลองพยายามจับต้องให้มั่นมือจึงรู้ว่าจริงหรือเก๊ แข็งหรือเหลว คงทนหรือละลายเร็วกันแน่
รักที่เกิดจากการคุยถูกคอ
เป็นรักที่นับว่ามีพื้นฐานดีระดับหนึ่งเพราะการคุยกันถูกคอมักหมายถึงการพูดกันรู้เรื่องรวมทั้งมีเรื่องที่สื่อสารแลกเปลี่ยนกันได้แต่การพูดคุยมิใช่ทั้งหมดของการอยู่ร่วมกันหากความแตกต่างด้านอื่นชวนให้ไม่สนุกเกิดความสนุกจากการคุยอย่างเดียวในระยะยาวจะคุยแล้วสนุกน้อยลงเรื่อยๆหรือกระทั่งยิ่งคุยยิ่งเป็นทุกข์ อยากเมินหนีออกไปทุกที
รักที่เกิดจากการคุยแบบไม่เคยเจอตัว
เป็นรักที่มีเสน่ห์วาบหวาม เพราะอาจไม่ต้องยืนพื้นอยู่บน ‘โลกความจริง’ ใดๆอาศัยเพียงจินตนาการอันเกิดจากลีลาเจรจาท่าเดียวพอปัจจุบันอินเตอร์เน็ตกลายเป็น ‘อีกโลกความจริงหนึ่ง’ที่รักชนิดนี้เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่และอาจพังลงด้วยความหนาวเย็นเพียงเมื่อปรากฏ ‘ที่สุดของความจริง’ ยามเจอตัวกันน้อยนักที่ความจริงกับเรื่องเหนือจริงในจินตนาการ จะประจบกันได้สนิท
รักที่เกิดจากความเห็นใจ
เป็นรักที่น่าสับสนเพราะคนเรามักแยกไม่ออกว่า‘ความรัก’ กับความ ‘สงสารมาก’ ต่างกันตรงไหน
คนบางคนสมควรได้รับการสงสารไม่ใช่เพราะเรียกร้องความสงสารแต่เพราะเหมือนเป็นคนดีตกยากเหมือนลูกหมาลูกแมวน่ารักที่ตุหรัดตุเหร่หาคนเลี้ยงดู
เมื่อตรงมาทางเราแล้วปฏิเสธก็เหมือนใจไม้ไส้ระกำจนชวนให้รู้สึกผิดรุนแรง ไม่อาจทนดูดายรักที่มีแต่ความสงสารและเห็นใจอย่างเดียวอาจจบลงด้วยโศกนาฏกรรมในทางใดทางหนึ่งไม่ทางกายก็ทางจิตวิญญาณ
เพราะในระยะยาวมนุษย์ทุกคนต้องเห็นใจตัวเองก่อนคนอื่นไม่อาจทนเสียสละให้กับความน่าสงสารของคนอื่นแล้วปล่อยให้ทั้งชีวิตของตนเต็มไปด้วยความน่าสงสารนานัปการไหว
รักที่เกิดจากความคิดอยากตอบแทน
เป็นรักที่มาพร้อมกับความรู้สึกถูกรู้สึกผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตระหนักว่าทางเดียวที่จะตอบแทนคือการมอบความรักความพิศวาสใหักับผู้ทรงพระคุณซึ่งมาสนใจตน
ภาคหนึ่งของความรู้สึกจะถูกต้องในขณะที่อีกภาคจะบาดใจและเต็มไปด้วยความ ‘ผิดปกติ’รักชนิดนี้เหมือนการหลอกตัวเอง หลอกคนอื่นกระทั่งนานถึงจุดหนึ่งจะรู้ซึ้งว่ารักหลอกเป็นอย่างไร ทรมานใจได้แค่ไหน
รักที่เกิดจากการได้รับความเอาใจใส่ยิ่งยวด
เป็นรักที่อีกฝ่ายยอมตนเป็นข้าทาส ปล่อยให้ตนเอาแต่ใจได้ทุกอย่างรักชนิดนี้เป็นอารมณ์ใจอ่อนและไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีกว่าหรือรู้สึกผิดเกินกว่าจะหลอกใช้โดยไม่ให้อะไรตอบแทนก้ำกึ่งอยู่ในระหว่างการเห็นค่ากับการไม่เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแม้แต่นิดเดียวรู้เพียงถ้ามีอีกฝ่ายอยู่ ตนจะได้ทุกสิ่งราวเจ้าชายหรือเจ้าหญิงแต่ก็พร้อมจะเย็นชาหรือเมินหน้าหนีเสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบตัวเลือกอื่นที่คุณสมบัติพร้อมกว่ากัน
รักที่เกิดจากความหลงรูปสมบัติภายนอก
เป็นรักที่ปล่อยให้อิทธิพลของรูปร่างหน้าตา น้ำเสียงหรือลักษณะทางกายภาพอื่นๆเข้าครอบงำรักชนิดนี้ไม่มีหลักค้ำ ไม่มีฐานยืน เลื่อนลอยและต้องออกแรงจนเลือดตาแทบกระเด็นเพื่อหาเหตุผลสนับสนุนว่าเป็นรักที่สมควรแล้วซึ่งเพียงไม่กี่วันก็อาจพบว่ามันไร้เหตุผลสิ้นดี กับการรักษาความรักไว้เพื่อความเหนื่อยเปล่า
รักที่เกิดจากการหลงภาพลวงตา
เป็นรักที่ยืนอยู่บนมายาฝ่ายหนึ่งอาจหวังผลจึงสร้างนิสัยน่ารักน่าใคร่ขึ้นมาล่อตาล่อใจให้หลงติดรักชนิดนี้อาจเรียกแรงทะยานได้ขนาดถูกฉุดให้หัวปักหัวปำยิ่งถลำลึกลงไปในกับดักหรือเหยื่อล่อมากขึ้นเพียงใดหูตาก็ยิ่งมืดมัว เห็นผิดเป็นชอบเห็นกงจักรเป็นดอกบัวมากขึ้นเท่านั้น
รู้ทั้งรู้อยู่ในส่วนลึกว่าถูกหลอกใช้แต่ความคิดก็ถูกดึงให้ปักใจศรัทธาในเรื่องหลอกขอให้ได้บอกตัวเองว่าอีกฝ่ายรักตน แคร์ตนเท่านั้นพอจะยอมบุกน้ำลุยไฟหรือกระทั่งตกนรกทั้งเป็นก็ยังไหว
รักที่เกิดจากความเกลียด
เป็นรักที่ซับซ้อน อาจเริ่มมาจากความเหนื่อยล้าเคยแค้นมาก จ้องจับผิดมาก ด่ามากกระทั่งใจผูกอยู่กับอีกฝ่ายอย่างเหนียวแน่นและบีบให้ต้องรู้รายละเอียดของอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องยอมรับข้อดีแล้วเกิดแรงดันของความอยากขออภัยหรืออยากให้อภัย หรืออยากญาติดีกัน
นั่นเองพลังความเกลียดหรือความแค้นเก่าๆ จึงแปรตัวเป็นราคะเพราะไฟโทสะเป็นญาติสนิทกับไฟราคะ ต่างก็เป็นไฟมืดด้วยกันมีกิจเป็นการเผาผลาญให้ใจเกิดความร้อนรุ่มเหมือนๆกันเคยเกลียดแรงแค่ไหนก็กลายเป็นราคะแรงแค่นั้น
รักชนิดนี้อาจเต็มไปด้วยความไม่ได้อย่างใจ ระหองระแหงกลับไปกลับมาระหว่างเห็นข้อดีและจับผิดเพ่งโทษ
รักยังมีเหตุอีกมาก แต่บางความรักก็ไม่ใช่ความรัก
เช่นรักความรวยนั้น เป็นคนละเรื่องกันกับรักคนรวย
ความรวยอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นเหตุแห่ง ‘ความรู้สึกรักคน’ ได้เลย
รักระหว่างหญิงชายจะเกิดจากเหตุอันใด
ยืนพื้นอยู่บนบุญบาปแบบไหนก็ตาม
ท้ายสุดก็มีฤทธิ์ผูกใจไว้ ไม่ให้ได้เป็นไทในตนเอง
จนกว่าใครจะแสวงหา ''ความรักอิสรภาพทางใจ''
และพบกับรักชนิดนั้นจริง จึงยุติการสร้างเหตุแห่งทุกข์
รูปแบบใดรูปแบบหนึ่งลงเสียได้อย่างถาวร
ที่มา : คุ้มดอทเน็ต