จากเหตุนักศึกษาฉลองจบการศึกษา "เสียชีวิตด้วยการลงเล่นน้ำทะเล"
Rip Current
แปลเป็นภาษาไทยตรงตัวก็คือ " กระแสน้ำรูปเห็ด " ซึ่งมีคนเข้าใจผิดว่า คือทะเลดูด ความจริงแล้วไม่ใช่ เนื่องจากทะเลดูดจะดูดสิ่งต่าง ๆ จากผิวน้ำลงไปใต้น้ำ แต่กระแสน้ำรูปเห็ดนี้ จะเกิดขึ้นบนผิวน้ำและใกล้ชายฝั่งมีรูปร่างคล้ายดอกเห็ดจึงเรียกกัน ว่า Rip Current หรือ กระแสน้ำรูปเห็ด
การเสียชีวิตจากการเกิดกระแสน้ำ Rip Current ในต่างประเทศจะเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงมาก
ทำให้ประเทศเขามีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือรวมทั้งติดป้ายประกาศเตือน
นอกจากนี้ยังให้ความรู้เกี่ยว กับ Rip Current แก่สาธารณชนด้วย
รวมทั้งมีการพยากรณ์ช่วงเวลาและชายหาดที่น่าจะเกิดกระแสน้ำนี้ขึ้นเพื่อเตือนนักท่องเที่ยว
กระแสน้ำใกล้ชายฝั่งมี 2 ประเภท
ได้แก่ กระแสน้ำตั้งฉากกับฝั่งทะเลออกไป สู่ทะเลลึก และ กระแสน้ำเลียบชายฝั่ง ไหลขนานกับฝั่งทะเล
การเกิดกระแสน้ำรูปเห็ดนี้จะมองเห็นได้จากในที่สูงเป็นลำกว้างประมาณ 5-10 เมตร
มีความเร็วประมาณ 8 กม./ชม. โดยขึ้นอยู่กับความสูงของคลื่น รูปร่างและความลาดชันของฝั่งทะเล
รวมทั้งขนาดของตะกอน และสิ่งกีดขวาง เช่น โขดหินรอดักตะกอน โดยจะเกิดขึ้นบริเวณไม่ไกลจากริมฝั่ง
ทำให้ผู้ที่ลงเล่นน้ำใกล้ฝั่งตกใจ เนื่องจากเมื่อเข้าไปในบริเวณลำของกระแสน้ำรูปเห็ด
จะถูกกระแสน้ำพาเอาออกไปไกลจากฝั่งสู่น้ำลึกอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ว่ายน้ำไม่แข็งจะจมน้ำเสียชีวิตได้
กระแสน้ำที่เกิดโดยคลื่นใกล้ฝั่งมีหลายชนิด แต่บริเวณที่ก่อให้เกิด Rip Current
คือบริเวณ โซนคลื่นแตก จะอยู่บริเวณใกล้ฝั่ง ในเวลาที่คลื่นเดินทางมาใกล้ฝั่งจะมีความสูงมากขึ้น
เนื่องจากมันจะต้องเปลี่ยนแปลงรูปร่างเพื่อให้เกิดการสมดุล ถ้าหากความสูงของ คลื่นมากกว่า 7 เท่าของความยาวคลื่น
หรือ ความลึกของน้ำมากกว่าครึ่งหนึ่งของความยาวคลื่น คลื่นก็จะแตก
เพราะไม่มีความสมดุลของพลังงานกระแสน้ำนี้สามารถเกิดได้ตลอดเวลา
โดยขึ้นอยู่กับความแรงของลม ความสูงของคลื่น ความลาดชันของชายหาด
บางครั้งอาจจะขึ้นอยู่กับสภาพลมฟ้าอากาศ และสภาพแวดล้อมด้วยที่เป็นตัวเพิ่มความแรงของกระแสน้ำ
ซึ่งลมมรสุมที่พัดผ่านเข้าสู่หน้าหาดแต่ละหาดจะแตกต่างกัน
วิธีสังเกต
1. ให้สังเกตสีของน้ำทะเล เพราะมันเป็นกระแสน้ำที่พาเอาตะกอน ออกไปนอกชายฝั่ง บริเวณกระแส น้ำ จึงมีความขุ่นแตกต่างไปจากน้ำทะเลทั่ว ๆ ไป
2. มีการไหลวน ปั่นป่วนเพราะความแรงและมีลักษณะคล้ายรูปดอกเห็ด โดยมีลำต้นยื่นจากชายฝั่ง ส่วนที่เป็นหมวกเห็ดยื่นไปในทะเลลึก ขนาด ยิ่งใหญ่และยิ่งไกลก็ยิ่งแรงมาก และ เมื่อใดก็ตามที่ กระแสน้ำไหลเข้าสู่ฝั่งแล้วถูกกีดขวางจากสิ่งต่าง ๆ เช่น โขดหิน หรือสันทราย ไม่ให้ไหลกลับสู่ท้องทะเลได้สะดวก
3. เมื่อมีช่องว่างกระแสน้ำก็สามารถไหลกลับได้ ยิ่งเป็นร่องแคบ ๆ น้ำก็ยิ่งจะไหลแรง ถ้าช่องกว้างน้ำจะไหลช้าและกระจายออกไป ซึ่งความเร็วและความแรงขึ้นอยู่กับรูปร่าง ความสูงของคลื่นและความลาดชันของชายหาด บางทีไม่ถึงกับตั้งฉากเสียทีเดียว
วิธีป้องกัน
1. ถ้าลงเล่นน้ำแล้วพบว่ามีกระแสน้ำผลักดันตัวเราอย่างแรงและเร็วให้ออกไปนอกฝั่ง
2. ก่อนอื่นเราต้องมีสติอย่าตกใจกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ให้สังเกตว่าฝั่งทะเลอยู่ทางทิศใด
และว่ายออกด้านข้างขนานกับชายฝั่ง เมื่อพ้นจากบริเวณลำแคบ ๆ ของกระแสน้ำที่พาเราออกไปนอกชายฝั่งแล้ว
คลื่นนอกบริเวณกระแสน้ำรูปเห็ดก็จะพาเรากลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
แนะนำ
1. ให้มีการเพิ่มป้ายเตือนภัยถึง Rip Current นี้ด้วย
2. สถานศึกษาต่างๆ ควรให้ความรู้เรื่องนี้ เช่นเดียวกับสึนามิ อย่ารอให้สูญเสียอีกเลยครับ
http://www.kohchang2.com/rip_current.html
http://www.oknation.net/blog/chanakan50/2014/03/06/entry-1