เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ข่าวสด
มาราลดี ลุยจิ ชาวอิตาลี ที่มีชื่อบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 เข้าพบตำรวจ ยืนยันพาสปอร์ตหายจากไทยตอนมาเที่ยวที่ภูเก็ต
จากกรณีที่เครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 กัวลาลัมเปอร์-ปักกิ่ง ขาดการติดต่อสูญหายไปจากเรดาร์ของหอบังคับการการบิน ประเทศเวียดนาม ภายหลังบินออกจากสนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มุ่งหน้าไปลงจอดยังสนามบินกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของทางการมาเลเซีย นั้นพบว่า มีบุคคลต้องสงสัยจำนวน 4 ราย ใช้พาสปอร์ตปลอม และมีผู้ต้องสงสัย 2 คนใช้พาสปอร์ตปลอมโดยทั้งคู่ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวนี้พร้อมกัน จากสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ส และใช้เงินไทยซื้อ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม เรื่อง มาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 พบผู้ต้องสงสัย 2 คนใช้พาสปอร์ตปลอม)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุด นายมาราลดี ลุยจิ (MARALDI LUIGI) อายุ 37 ปี ชาวอิตาลี ซึ่งมีชื่อที่ถูกระบุว่า อยู่บนเครื่องบินมาเลเซีย เข้าพบ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8โดย นายมาราลดี ลุยจิ ยืนยันไม่ได้อยู่บนเครื่องบินดังกล่าว ระบุไม่เคยเดินทางไปจีนหรือมาเลเซีย แต่เมื่อปี 2556 ตนได้เดินทางมาท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต และเอาพาสปอร์ตไปเช่ารถ ที่บริษัท บริการรถเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลป่าตอง เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556
นายมาราลดี ลุยจิ กล่าวต่อว่า เมื่อตนเอารถมาคืนปรากฏว่าพาสปอร์ตหาย จึงไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.กระทู้ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556 และหลังจากนั้น เอาเอกสารการแจ้งความ ไปยื่นต่อกงสุลอิตาลีประจำภูเก็ต เพื่อออกเอกสารหนังสือเดินทางชั่วคราว เพื่อกลับประเทศอิตาลี และจากนั้นตนก็ไปทำพาสปอร์ตใหม่ แล้วก็กลับมาเที่ยวที่ไทยอีกรอบ
ขณะที่นายคริสเตียน โคเซล ชาวออสเตรีย วัย 30 ปี ที่เป็นอีกคนที่ถูกพาดพิงใช้พาสปอร์ตบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ MH370 นั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ว่าได้แจ้งความพาสปอร์ตหายไว้หรือใหม่
พร้อมกันนี้ ทางตำรวจภูธรภาค 8 ได้ตั้งทีมสืบสวนเพื่อสืบว่า พาสปอร์ตดังกล่าวออกไปจากประเทศไทยได้อย่างไร
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก