โปลิศทางหลวงตามรวบโชเฟอร์พ่วง 18 ล้อ ซิ่งตบกระบะหล่นข้างทาง อ้างถูกปาดหน้าก่อน หวั่นคู่กรณีใช้อาวุธเอาคืน เลยป้องกันตัว
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ เเสงเพชร ผบก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.ปริญญา กลิ่นเกษร สว.ส.ทล. 1 กก.2บก.ทล. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอังกูลย์ บัวทอง อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 208/1 หมู่ 7 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรีพร้อมของกลางรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-4675สมุทรสาคร ของห้างหุ้นส่วนจำกัดโชคธนธรณ์
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้นำภาพวีดีโอรถบรรทุกพ่วงขับขี่เบียดรถกระบะจนตกถนน บริเวณถนนพระราม2 (ทล.35)ระหว่าง กม.ที่ 52-53 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาครไปโพสไว้ในยูทูป เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมาจนเป็นที่สนใจของสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นการขับขี่ที่อันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนจึงทำการสืบสวนตามภาพก็พบว่า ตอนท้ายรถพ่วงคันดังกล่าวมีจุดสังเกตทั้งหมด 6จุด คือ มีเสาผูกริบบิ้นข้างซ้ายเเละข้างขวา ,กระบะท้ายคานบนสุดช่องที่2 จากซ้ายมีรอยบุบเเตกบิดเบี้ยว ,ติดป้าย"รถพ่วง" ,ตำเเหน่งป้ายทะเบียน ติดโลโก้บริษัทเเละขนาดกันชนหลังนั้นสะท้อนเเสงและรถคันดังกล่าวมีนายอังกูลย์เป็นผู้ขับขี่ในวันเกิดเหตุ จึงเชิญตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายอังกูลย์ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนเพิ่งขับรถพ่วงไปรับดินลูกรังจากอ.ปากท่อจ.ราชบุรี มาส่งที่ จ.สมุทรสาครไปรอบหนึ่งแล้วจากนั้นก็ขับรถเปล่ากลับไปรับลูกรังที่ อ.ปากท่อ มาส่งที่เดิมอีกรอบจนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00น.ก็ขับมาถึงจุดเกิดเหตุก็ถูกรถกระบะคันคู่กรณีขับปาดหน้าก่อน ในขณะที่ตนจะขับเข้าช่องทางขวาเพื่อหลบรถบรรทุกน้ำมันที่อยู่ข้างหน้าอีกทั้งยังพยายามขับขวางไม่ให้ตนแซงขึ้นไปข้างหน้าอีกด้วย
นายอังกูลย์ ให้การต่อว่าหลังจากตนสามารถขับแซงขึ้นหน้าไปได้ก็เห็นคนในรถกระบะซึ่งมีอยู่ 3 คนและคนขับได้เปิดกระจกข้างแล้วทำท่าเหมือนจะชักอาวุธหรืออะไรบางอย่างในช่องเก็บของข้างตัวทำให้ตนต้องพยายามขับขวางเบียดซ้ายขวาเพื่อไม่ให้รถกระบะแซงกลับเพราะเกรงว่าหากคนในรถกระบะมีอาวุธตนอาจจะได้รับอันตรายได้จนกระทั่งรถกระบะคันดังกล่าวตกข้างทางไป ตนก็ขับรถต่อไปทันทีโดยไม่ได้แวะจอดอยู่จากนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งมาเห็นคลิปปรากฏตามข่าวอย่างไรก็ตามตนต้องขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปด้วย และยืนยันว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกรวมทั้งฝากเตือนคนใช้รถใช้ถนนว่าไม่ควรใช้อารมณ์ในการขับรถ
พล.ต.ต.พงศ์สิทธิ์ กล่าวด้วยว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ตามพ.ร.บ.จราจร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับอย่างไรก็ตามหากคนขับรถกระบะคันคู่กรณีประสงค์จะแจ้งความเอาผิดในข้อหาหาพยายามฆ่าก็สามารถไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาครได้