เหยื่อ..ค้ามนุษย์’ขายตัว’แลกชีวิต
“ค้ามนุษย์” เป็นเสมือนโรคเรื้อรังที่เกาะกินสังคมไทยมายาวนาน หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมกวาดล้างบ่อยครั้ง แต่สุดท้ายปัญหาก็ยังดำรงอยู่ โดยเฉพาะการค้าหญิงและเด็ก
“คม ชัด ลึก” ออกสำรวจสถานบันเทิงประเภทคาราโอเกะและแฝงการค้าบริการทางเพศในหลายพื้นที่ พบว่ายังเปิดให้บริการกันอย่างโจ๋งครึ่ม
ราวตีสอง…ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีรถเก๋งทะเบียน “กรุงเทพมหานคร” จอดเรียงรายริมข้างทางยาวเหยียด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ร้านคาราโอเกะกว่า 20 แห่ง มีเด็กสาวทั้งชาวไทยและต่างด้าวหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งต้อนรับอยู่บริเวณด้านหน้าร้าน สนนราคาค่าอาหารและเครื่องดื่มก็ไม่แพง 60-100 บาท ส่วนเครื่องดื่มประเภทเบียร์อยู่ที่ 80-120 บาท แถมมีเด็กสาวมาคอยบริการนั่งดริงก์เป็นเพื่อน หากถูกใจก็ตกลงราคาบริการพิเศษบนเตียงนอน ซึ่งถูกจัดสรรไว้เกือบ 10 ห้องที่หลังร้าน
“คม ชัด ลึก” มีโอกาสพูดคุยกับ “ณี” เด็กสาวชาวลาววัย 20 ปี ให้บริการอยู่ในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ริมถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม ยอมรับว่า ความยากจนทำให้ต้องจากบ้านเกิดที่ จ.สะหวันนะเขต เข้ามาทำงานที่เมืองไทยได้ 2 ปีแล้ว แรกที่เข้ามาทำงานเมืองไทยต้องเสียเงินให้นายหน้า 3 หมื่นบาท เพื่อมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงเด็กในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้ค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท
“ทุกเดือนหนูต้องส่งเงินกลับบ้าน เหลือติดตัวไว้เดือนละ 500 บาท ทำงานเป็นแม่บ้านได้แค่ 3 เดือนเหนื่อยมาก เลยโทรปรึกษาเพื่อน เลยชวนมาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านอาหารแถวนนทบุรี ได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่ลูกค้าให้ทริปเยอะ แต่สิ่งที่ต้องทำคือ แต่งตัวสวยๆ คุยกับลูกค้า และต้องหัดดื่มเหล้า”
หลังจาก “ณี” ผันตัวเองเข้าสู่คนกลางคืนไม่นานนัก เธอถูกชักชวนให้เข้าไปอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งนี้ เนื่องจากมีหนี้สินจากการใช้จ่ายที่ฟุ้งเฟ้อเกินตัว ทั้งเสื้อผ้า โทรศัพท์มือถือ รวมไปถึงเรื่องศัลยกรรม ทำให้เงินขาดมือ ไม่สามารถส่งเงินกลับบ้านได้ ต้องจำใจมาค้าบริการทางเพศ
“ครั้งแรกก็รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ทำใจลำบากอยู่พอสมควรที่ต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าวันละหลายๆ คน อย่างน้อย 5 คนต่อวัน ต้องใช้ยากระตุ้นและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้เกิดความกล้า”
ส่วนรายได้ “ณี” จะได้ค่าแรงแลกเปลี่ยนครั้งละ 800 บาท ส่วนเกินจากนี้เป็นของร้านโดยอัตโนมัติ ส่วนค่าดื่มแบ่งคนละครึ่งกับทางร้าน นั่นหมายความว่า คืนหนึ่งๆ เธอจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4,000 บาทต่อวัน และรับเงินทุกสัปดาห์
“ณี” บอกว่า เด็กสาวชาวลาวหลายคนที่ทำงานอยู่ที่นี่บางคนก็จำใจ เนื่องจากไม่รู้เท่าทันของนายหน้าที่ปล่อยเงินกู้ให้ทางบ้านของพวกเธอ บางคนก็ต้องการได้เงินเยอะๆ แล้วรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด เพราะทุกคนรู้ดีว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้ผิดกฎหมาย ส่วนเธอเองก็ถูกจับมาแล้ว 2 ครั้ง แต่เจ้าของร้านช่วยออกมาได้
ชะตาชีวิตของ “ณี” เด็กสาวชาวลาวผู้นี้ ไม่แตกต่างจาก “หมวย” เด็กสาววัย 21 ปี จากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ถูกขบวนการค้ามนุษย์หลอกมาจากประเทศบ้านเกิดตั้งแต่อายุได้ 17 ปี ปัจจุบันเธอกลายเป็น “โสเภณี” ระดับดาวจรัสแสงประดับอยู่ในคาราโอเกะแห่งหนึ่งใกล้กับโรงแรมชื่อดังใน อ.สะเดา จ.สงขลา
ห้องพักแคบๆ บริเวณชั้น 3 ของร้านคาราโอเกะ มักถูกใช้เป็นสถานที่บำเรอกามให้ชายแปลกหน้า ส่วนใหญ่ลูกค้าของเธอเป็นหนุ่มชาวมาเลเซีย แต่บางครั้งก็เลือกไปใช้บริการห้องพักของโรงแรมในละแวกใกล้เคียง “หมวย” บอกด้วยภาษาไทยกระท่อนกระแท่นว่า รู้สึกเบื่อหน่ายสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะหลุดพ้นไปได้อย่างไร
หมวย เล่าว่า ก่อนจะมาทำงานที่นี่มีนายหน้าเข้าไปติดต่อครอบครัว และให้เงินพ่อแม่เธอไว้ประมาณ 2.5 หมื่นบาท และสัญญาว่าจะส่งไปให้เป็นรายเดือนอีก เมื่อเห็นว่ามีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันหลายคนตอบตกลงจึงตัดสินใจเดินทางมา นายหน้าก็นำขึ้นเครื่องบินมาลงที่มาเลเซีย ระหว่างนั้นก็ถูกนายหน้าข่มขืน โดยอ้างว่าเป็นค่าแรงที่อุตส่าห์นำตัวมาทำงาน หลังจากนั้นก็ถูกส่งมาทำงานที่ร้านคาราโอเกะใน อ.สะเดา แรกๆ แค่นั่งดื่มกินกับลูกค้า หลังๆ ก็ถูกเจ้าของร้านใช้ให้ขายบริการทางเพศ โดยอ้างว่าเป็นหนี้อยู่ให้รีบหาเงินมาจ่าย ไม่อย่างนั้นจะไม่มีที่อยู่ที่กิน
“เพื่อนที่มาด้วยทำกันหมด หนูก็เลยตัดสินใจทำ เพราะคิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย เคยมีอะไรกับผู้ชายมาแล้ว หนูไม่รู้ว่าแต่ละครั้งเจ้าของร้านเขาได้เงินเท่าไหร่ แต่หนูจะได้ 1,000 บาท”
น้องหมวยบอกว่า คิดถึงบ้านและอยากกลับบ้าน แต่กลับไปแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ไม่กล้าสู้หน้าพ่อแม่ จึงตัดสินใจทำงานอยู่ที่นี่ต่อไป และหวังว่าสักวันจะมีลูกค้าใจดีรับไปเลี้ยงดู ที่ผ่านมาเพื่อนหลายคนมีชาวมาเลเซียรับไปเลี้ยงดู ไม่ต้องมาทำอาชีพแบบนี้อีก หวังว่าจะโชคดีเช่นนั้นบ้าง?!?
ที่มา : http://www.4yearsgo.org/?p=357