สุดท้าย....จากผู้หญิงคนหนึ่ง

 

 

 

 

 

เป็น..เรื่องที่คงผ่านสายตากันมาแล้วหลายคน .. แต่วัยรุ่นใหม่ๆคงไม่เคยผ่านสายตาก็คงมี

อยากให้ช่วยคิด .......... 

 

 

เรื่องมีอยู่ว่า 

 

คงไม่สายเกินไป  หากจะส่งข้อความนี้ให้ทุกๆคนได้อ่าน

อยากให้ทุกคนได้อ่านและตระหนักถึงความสำคัญของ “เธอ”

อ่านแล้วอย่าร้องเหมือนเรานะ..

ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ

ในขณะที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กินดึกๆ

ผมก็โทรคุยกับแฟนของผมซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผม

และผมก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน

"จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง''กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย''

" รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง''

" ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ " 

ประโยคต่างๆ ที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ

ก่อนโทรผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์

ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้นพอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมง

แล้วแต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน

'เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ

แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน'

 

 

 

" ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง''เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย"

" วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง " " อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'โธ่!คำถามเดิมๆ " 

ผมก็ตอบไปแบบเดิมๆแม่ผมก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ

โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุยผมกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้วก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไงจนกระทั่งวันนั้น " ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย''เร็วๆสิ " 

เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ''แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ

" ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อนผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home''

" โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย " 

ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป

เพราะผมรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิมๆ'

และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'

หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่าเมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า

และแม่ของผมขัดขืนและได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้องแม่เสียชีวิต

เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้นในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น

และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล

แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ

โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผมวินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม

 

 

 

ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่นวันนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผมผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิตผู้หญิงคนเดียวที่ผม สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลาโดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆคนเดียวในโลก

ที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆคนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาผม'และคนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต'ในบางครั้งประโยคที่ว่า

'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก

เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผมหลังจากนั้นไม่นานแฟน

ผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งผมไปวันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้นหลายๆ

อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไปเพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง

 

 

'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟังแต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว.....

ที่มา: http://108thinks.blogspot.com/2014/02/blog-post_2007.html
Credit: http://board.postjung.com/747563.html
25 ก.พ. 57 เวลา 08:55 749 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...