เพลิงลึกลับ คดีปริศนา คนไฟลุก!!!
Spontaneous human combustion หรือเรียกสั้นว่า " SHC " เป็นชื่อที่ใช้เรียกเหตุการณ์ที่ ร่างกายมนุษย์เกิดการลุกไหม้ ขึ้นเองโดยปราศจากแห่งความร้อนภายนอก ตลอดระยะเวลา 300 กว่าปีที่ผ่านมานี้มีเหตุการณ์ SHC เกิดขึ้นแล้วกว่า 200 เคส
สิ่งที่เหลือไว้เป็น ปริศนา SHC
ร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นเอง (แต่จากการชันสูตร ของเคสที่เกิดในปัจจุบัน ไม่มี เคสใดที่อยู่ๆร่างกายมนุษย์ จะติดไฟขึ้นเอง ทำให้เข้าใจว่า ในสมัยก่อนอาจจะเกิดจาก การชันสูตรที่ไม่ถี่ถ้วน ละเอียดรอบคอบ)
เหตุการณ์มักจะเกิดขึ้นภายในที่พัก ของ ผู้เคราะห์ร้ายเอง
โดยมาก ร่างกาย และศีรษะจะเกิดเพลิงลุกไหม้เสียหายอย่างรุนแรง แต่ แขน ขา เฟอร์นิเจอร์ และสภาพภายในห้อง โดยมากจะแทบจะไม่ได้รับความเสียหายเลย
ในบางกรณีมีการบันทึกในรายงานการสืบสวนว่า ภายหลังจากการเข้าชันสูตร มีรายงานว่าภายในห้องจะพบกลิ่น แปลกๆที่มีลักษณะ หอมหวาน
บ้างมีการพบคราบน้ำมัน บนเฟอร์นิเจอร์ บนผนัง
ในกรณีที่หายากยิ่งพบว่า ถึงแม้ร่างกายศพจะถูกเพลิงเผาไหม้เป็นจุล แต่อวัยวะภายใน แทบจะไม่ได้รับความเสียหายเลย
สมมุติฐาน ที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ SHC
มี สมมุติฐาน จำนวนมากที่กล่าวถึงการเกิด SHC แต่มันก็ยังมีข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้ สมมุติฐานนั้นยังไม่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
สมมุติฐาน ก๊าซมีเทน (เป็นก๊าซที่เกิดจากการย่อยสลาย ของ สารอินทรีย์) ในลำไส้ เกิดการลุกติดไฟโดย เอ็นไซค์(Enzymes) แต่ จากสภาพศพ ก็มีข้อขัดแย้ง กับ สมมุติฐานนี้่ คือ ศพเกือบทั้งหมดจะมีลักษณะเกิดเพลิงลุกไหม้จากภายนอก เข้าไปด้านใน มิใช่การลุกไหม้จาก อวัยวะในร่างกายออกมาด้านนอก ตามสมมุติฐาน
สมมุติฐาน ขี้เมา สิงฆ์อมควัน เมื่อดื่มสุราอย่างหนัก แล้วสูบบุหรี่ แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์(Ethanol)ในเลือดต้องมากถึง 23% ถึงจะทำให้มนุษย์เกิดเพลิงลุกติดไฟได้ แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่มีปริมาณเอธิลอัลกอฮอล์ในเส้นเลือด มากกว่า 0.40% ก็มีผลทำให้มนุษย์เสียชีวิต จากพิษแอลกอฮอล์ แล้ว
สมมุติฐาน ไฟฟ้าสถิต จากเสื้อผ้าที่สวมใส่เสียดสีกัน แล้วเดินผ่านพรม นอนลงที่ผ้าปูที่นอน นั่งบนโซฟาทำให้เกิดการประกายไฟขึ้น แต่ก็มีข้อใต้แย้งว่า ประกายไฟจากสมมุติฐานนี้น้อยกว่า 1 จูล แต่ประกายไฟจากไฟฟ้าสถิตที่มากพอจะให้เสื้อผ้าลุกไหม้ต้องมากถึง หลายพัน โวลต์
หากสมมุติฐานเหล่านี้ ไม่ใช่สาเหตุ แล้วอะไรที่ทำให้เกิด SHC
หากมันไม่ใช่การลุกไหม้ขึ้นเอง แล้วอะไรที่สามารถอธิบายสภาพศพ ต่างๆที่เกิดขึ้น มีนักวิทยาศาสตร์ที่อธิบายด้วย ผลแบบไส้เทียนไข (Wick effect)
เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ จากการ ดื่มสุรา กินยานอนหลับ ขาดออกซิเจน หรือสาเหตุอื่นใดก็ตาม
โดยก่อนหมดสติ ผู้เคราะห์ร้ายกำลังทำกิจกรรม อะไรบางอย่างเช่น สูบบุหรี่ ทำครัว รีดผ้า อยู่ใกล้เผาผิง หรือ แหล่งความร้อนอื่นๆ
สมมุติฐานนี้ เปรียบ ร่างกายของผู้เคราะห์ร้าย เหมือน เทียนไข
เมื่อไขมันในร่างกายมนุษย์เปรียบเสมือน ไขเทียน(น้ำตาเทียน)
เมื่อเสื้อผ้า และเส้นผมเปรียบเสมือนไส้เทียน
เมื่อไขมันไหลซึม ละลายออกมาเนื่องจากความร้อนที่ลุกไหม้เสื้อผ้า ไขมันเหล่านี้จะไหลซึมเข้าสู่เสื้อผ้า เกิดการลุกไหม้อย่างช้า ไปเรื่อยตราบนานเท่านาน เท่าที่ยังมีไขมันไหลออกมาเติม (คล้ายการลุกไหม้ของเทียนไข)
ด้วยโมเดลนี้ร่างกายสามารถ ไหม้อย่างช้าจนเป็นเถ้าถ่าน โดยที่แขน ขา ที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก
ช่วงแรก เมื่อผู้เคราะห์ร้ายเกิดหมดสติ แล้วเสื้อผ้าเกิดลุกติดไฟจาก บุหรี่ หรือ แหล่งความร้อนอื่นใดซักอย่าง
ช่วงที่ 2 ความร้อนที่เกิดจากการลุกไหม้บนเสื้อผ้า ได้ละลายไขมันภายในร่างกายออกมา และเสื้อผ้าก็จะดูดไขมันเหล่านั้นไว้ แล้วค่อยๆลุกไหม้ไปอย่างช้า (ปรากฏการณ์นี้เหมือนเทียนไข)
ช่วงที่ 3 ความร้อนจากการเผาไหม้เป็นระยะเวลานาน จนทำให้ร่างกายไหม้เป็นเถ้าถ่าน ไขมันบางส่วนจะไหล และละเหยติดตามพื้นที่ต่างเป็นคราบน้ำมัน ส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกคลุม จะไม่ได้รับความเสียหาย
คลังภาพ ผู้เคราะห์ร้าย จากไฟลึกลับ SHC
เคสนี้ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงที่เป็นโรคพาร์คินสัน(Parkinson's Disease) จะเห็นว่าร่างกายส่วนบนหายไป แต่ในความเป็นจริง ร่างกายส่วนบนนั้นถูกเคลื่อนย้ายไปก่อนถ่ายรูป แต่ร่างกายส่วนบนเกิดการลุกไหม้ และเป็นธรรมชาติที่ไฟจะลุกไหม้ขึ้นด้านบน
ศพของผู้เคราะห์ร้ายที่เกิดล้มลงไปในเตาผิงเนื่องจากโรคหัวใจ ที่ Gresham ในปี 1977
คดี SHC ที่เกิดขึ้นเมื่อ 15 พฤศจิกายน 1982 โดยผู้เสียชีวิตชื่อว่า Jeannie Saffin อายุ 61 ปี ร่างกายส่วนบนลุกไหม้เป็นเถ้าบนเก้าอี้ไม้ ในห้องครัว ในบ้านของเธอเอง ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ