เอเอฟพี - เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี สองรัชทายาทแห่งราชวงศ์อังกฤษ ในวันศุกร์(14) ทรงร่วมภารกิจช่วยเหลือพสกนิกรผู้ประสบอุทกภัย รับมือพายุลูกใหม่ที่กำลังมุ่งหน้าถล่มสหราชอาณาจักรอีกระลอก ซ้ำเติมความทุกข์ยาก หลังดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญช่วงต้นปีที่ชุ่มฉ่ำที่สุดในรอบกว่า 250 ปี
       
       เจ้าชายทั้งสองพระองค์ทรงเข้าร่วมภารกิจกับทหารในการลำเลียงกระสอบทรายสำหรับนำไปสร้างเป็นแนวกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในหมู่บ้านแดตเชต ใกล้ๆกับพระราชวังวินด์เซอร์ ที่ประทับของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
       
       "ดยุคและเจ้าชายวิลเลียม ทรงมีความประสงค์แสดงให้เหยื่อผู้ประสบอุทกภัยเห็นว่าพระองค์ทรงอยู่เคียงข้างพวกผ่านแนวทางที่เหมาะสมที่สุด นั้นคือผ่านภารกิจบรรทาภัยของกองทัพ" โฆษกสำนักพระราชวังเคนซิงตันระบุ ขณะเดียวกันทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ก็เผยว่าสมเด็จพระราชินี ได้ช่วยเหลือชาวบ้านของเมืองโซเมอร์เซ็ต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งจมอยู่ใต้น้ำมานานเกือบ 2 เดือน ด้วยทรงแจกจ่ายอาหารและที่นอน ที่ผลิตจากฟาร์มส่วนพระองค์ในวินด์เซอร์

เจ้าชายวิลเลียม(ซ้าย)เจ้าชายแฮร์รี(ขวา)

       ปฏิบัติการบรรเทาภัยของราชวงศ์ทั้ง 2 มีขึ้นขณะที่สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร บอกว่าทั่วประเทศต้องเผชิญภาวะลมพัดแรง ฝนและหิมะซัดกระหน่ำ หลังจากพายุขึ้นฝั่งบริเวณทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ
       
       ทางสำนักงานพยากรณ์บอกว่าอาจมีฝนตกหนักถึง 40 มิลลิเมตรในวันศุกร์(14) ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนถึงความเป็นไปได้ที่ชายฝั่งทางใต้ของอังกฤษอาจเจอคลื่นยักษ์ซัดถล่ม
       
       จนถึงตอนนี้ยังมีประชาชนราว 16,000 คนที่ยังต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ นับตั้งแต่ถูกพายุลูกก่อนหน้านี้พัดถล่มเมื่อวันพุธ(12) ด้วยพายุที่มีแรงลมเทียบเท่ากับเฮอร์ริเคนลูกดังกล่าวได้คร่าชีวิตชาวบ้านไป 1 ศพ จนทำให้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาย้ำถึงคำมั่นสัญญาว่าจะทำทุกทางเพื่อช่วยเหลือเหล่าชุมนุมที่ประสบภัยธรรมชาติครั้งนี้

 "แน่นอนว่า เรากำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะว่าต้องเจอกับช่วงต้นปีที่ชุ่มแฉะที่สุดในรอบกว่า 250 ปีและนี่คือเหตุการณ์ทางสภาพอากาศที่แปลกประหลาด เราจะต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อช่วยเหลือประชาชน" นายคาเมรอนกล่าว
       
       นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมเป็นต้นมา มีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมแล้วมากกว่า 5,800 หลังคาเรือน ขณะที่พื้นที่ทางการเกษตรก็จมอยู่ใต้บาดาลเป็นบริเวณกว้าง ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอันเปราะบางของสหราชอาณาจักรตกอยู่ในความเสี่ยง
       
       ในวันศุกร์(14) มีการอพยพประชาชนออกจากที่พักอาศัยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์และในแถบทางตะวันตกของอังกฤษอีกราว 1,000 ครัวเรือน ด้วยคาดหมายว่าระดับน้ำในแม่น้ำเทมส์จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 60 ปีช่วงสุดสัปดาห์นี้ และอาจล้นทะลักซ้ำเติมความทุกข์ยากแก่บ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่งซึ่งเวลานี้ก็จมใต้บาดาลอยู่ก่อนแล้ว