โฉมงามล่มแคว้นล่มดินแดน



 

โฉมงามล่มแคว้นล่มดินแดน

 

 

 

   
 

แม้จะไม่โด่งดังเท่า 4 ยอดหญิงงามแห่งแผ่นดินจีน(ไซซี หวางเจาจวิน เตียวเสี้ยน หยางกุ้ยเฟย)
แต่ทั้งสองนางนี้ก็เป็นโฉมงามล่มแคว้นล่มดินแดนเช่นกัน
จนถูกจัดให้เข้าอันดับ 100 หญิงงามแผ่นดินจีน

 

"เม่ยสี่" สนมผู้ทำให้ราชวงศ์เซี่ยล่มสลาย

 

 

เมื่อพระเจ้าเจี๋ยแห่งราชวงศ์เซี่ย ยกทัพไปโจมตีแคว้นโหย่วซือ
แคว้นโหย่วซือได้ถวายเครื่องบรรณาการเป็นสาวงามนาม “เม่ยสี่”
พระเจ้าเจี๋ยพาเม่ยสี่มาอยู่ในวัง ตั้งให้เป็นพระสนม

สาวงามในวังหลังมีเกินกว่าจะนับได้ถ้วน แต่ล้วนคล้ายคลึงกันคือ เป็นกุลสตรี
เม่ยสี่นิสัยผิดแผกจากหญิงอื่น นางเกิดและโตที่แคว้นเล็กนอกอารยธรรม
กล่าวคืองามอย่างคนบ้านป่าเมืองเถื่อน ผ่าเผย ห้าวหาญ
พระเจ้าเจี๋ยเลยยิ่งทรงลุ่มหลงหน้ามืดตามัว
ทรงฉุดคร่าชิงตัวหญิงงามทั่วหล้าเข้าวังมาปรนนิบัติพระองค์
รวบรวมนักร้องนักดนตรี คนแคระและตัวตลก มาคอยให้ความสำราญ
เกณฑ์แรงงานราษฎรสร้าง "สระสุราป่าเนื้อ" ไว้เพื่อความบันเทิงส่วนพระองค์

พระเจ้าเจี๋ยทรงลงเรือประคองกอดเม่ยสี่ หาความสำราญอย่างคึกคะนอง
ให้มหาดเล็กลงไปดื่มเหล้าในสระสุรา เร่งตีกลองให้ดื่มอย่างบ้าคลั่ง
หากมีคนจมน้ำตาย เม่ยสี่จะปรบมือชมเชย
พระเจ้าเจี๋ยทรงว่างเว้นราชกิจ ออกว่าราชการเพียงนานๆ ครั้ง
เวลาอยู่ในท้องพระโรงก็ให้เม่ยสี่นั่งบนพระเพลา
ครั้นนางเพ็ดทูลอันใดก็คล้อยตามนั้น
ราชสำนักปั่นป่วนเพราะกษัตริย์ไม่ดำรงตนในหลักธรรมราชา

บรรดาเจ้าผู้ครองนครรัฐร่วมกันก่อกบฏขึ้น กองทัพของพระเจ้าเจี๋ยไม่ยอมรบ
เมื่อพระเจ้าทังล้มราชวงศ์เซี่ย จึงให้จับตัวพระเจ้าเจี๋ยลงเรือกับเม่ยสี่ นำไปลอยแพ

เมฆดำคลุมนภา คลื่นขุ่นซัดโถมรุนแรง
เรือลำน้อยลอยไปตามกระแสคลื่นถาโถมชวนเสียขวัญ
อดีตราชาแหงนพระพักตร์มองฟ้าแล้วทอดถอนพระทัย
ยื่นพระกรหมายโอบเม่ยสี่ มิคาดเม่ยสี่กลับสะบัดอย่างแรง
เปลี่ยนท่าทีโดยพลัน จ้องพระเจ้าเจี๋ยด้วยสายตาเย็นชา
เพียงครู่ก็กล่าวทีละคำ “รสชาติของการสูญเสียแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”

เมื่อคลื่นยักษ์ลูกหนึ่งซัดมา ร่างของนางก็ถูกคลื่นกลืนหายไป
พอคลื่นใหญ่อีกลูกกระหน่ำ เรือน้อยค่อยพลิกคว่ำลง

 

 

"เปาสื้อ" โฉมงามล่มแคว้นเพราะไม่ยอมแย้มยิ้ม

 

 

“เปาสื้อ” เป็นสนมคนโปรดของพระเจ้าโยวหวาง
กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์โจวตะวันตก

แคว้นเปาเป็นรัฐเล็ก ต้องการประจบพระเจ้าโยวหวาง
จึงส่งทาสสาวหน้าตาดีกลุ่มหนึ่งมาถวาย ในบรรดาทาสนั้นมีเปาสื้อรวมอยู่ด้วย

เปาสื้อเป็นหญิงเย็นชายิ้มยาก
ประจวบกับพระเจ้าโยวหวางกำลังทรงเบื่อเหล่าสนมนางในที่แสร้งประจบเอาใจพระองค์อยู่แล้ว
พระองค์จึงทรงสนพระทัย “โฉมสะคราญประดุจน้ำแข็ง” นางนี้เป็นพิเศษ
เปาสื้อให้กำเนิดโอรสแก่พระเจ้าโยวหวางหนึ่งองค์ คือ “ป๋อฝุ”
พระเจ้าโยวหวางโสมนัสยิ่ง สถาปนาเปาสื้อเป็นมเหสี ตั้งป๋อฝุเป็นรัชทายาท
ถอดเซินโฮ่วมเหสีเดิม และปลดอี้จิ้วรัชทายาทเดิมพ้นตำแหน่ง

เปาสื้อแม้ย่างเท้าก้าวเดียวทะยานขึ้นสวรรค์(ขึ้นสู่จุดสูงสุดของอำนาจ)

ทว่ายังมีอุปนิสัยเย็นชาเหมือมเดิม
พระเจ้าโยวหวางใช้พันอุบายร้อยเล่ห์ก็ยังไม่สำเร็จ
ยิ่งเหล่านางกำนัลกราบทูลว่า "แม้พระนางจะไม่ยิ้มแย้มต่อหน้าผู้อื่น
แต่เมื่อยามใดที่พระนางแย้มยิ้ม ราวกับจักประมวลเอารอยยิ้ม
กว่าร้อยแบบมารวมกัน"
ด้วยความอยากเห็นรอยยิ้มของนางจึงทรงคิดแผนขึ้นได้แผนหนึ่ง (บ้องตื้นชนิดสาหัสจริงๆ)
มีรับสั่งให้จุดสัญญาณแจ้งเหตุร้าย และให้รัวกลองศึกระดมเหล่าเจ้านครรัฐ
เหล่าเจ้านครรัฐก็หูตาเหลือก ระดมพลมาช่วยเหลือ
เปาสื้อเห็นสภาพดังนั้นก็แค่นยิ้มอย่างเย็นชา
พระเจ้าโยวหวางสมพระทัยแล้วก็เบิกบานพระทัยอย่างยิ่ง
เมื่อเจ้านครรัฐทั้งหลายเข้าเฝ้าทูล ก็ตรัสเพียง
“ไม่มีข้าศึกมารุกราน ข้าแค่อยากเห็นเปาสื้อยิ้มสักครั้งเท่านั้นเอง”

หลังจากนั้น ยังเกิดเหตุเด็กเลี้ยงแกะเช่นนี้อีกหลายครั้งให้เหล่าเจ้านครยกทัพมาเก้อ
เมื่อทุกคนรู้แกวก็ไม่ยอมยกพลมาอีกเลย
ไม่นานนัก บิดาของเซินโฮ่ว อดีตมเหสีองค์ก่อน
ก็ลอบสมคบชนเผ่าต่างๆ ทางตะวันตก ยกทัพมาตีนครพระเจ้าโยวหวาง

พระองค์ทรงสั่งทหารจุดไฟแจ้งข่าวข้าศึกรุกราน
ไม่มีเจ้านครรัฐใดยกทัพมาช่วยเพราะกลัวที่จะเป็นเพียงอุบาย
หลอกรอยยิ้มจากหญิงงามเช่นทุกครั้ง
พระเจ้าโยวหวางเสด็จหนีออกนอกเมืองพร้อมเปาสื้อ
แต่ถูกปลงพระชนม์ที่เขาเหลียงซาน

 


ซ้ำขออภัยค่ะ

 

รูปประกอบ : Google

 

 

 
ที่มา: หนังสือร้อยยอดหญิงประวัติศาสตร์จีน






 
Credit: http://board.postjung.com/745409.html
15 ก.พ. 57 เวลา 14:22 2,330 160
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...