นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ก.พ. นางปวีณา หงสกุล ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับพ.ต.ท.ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รอง ผกก.2บก.ปคม.และมูลนิธิปวีณาหงสกุล ได้ร่วมกันจับกุมแก๊งเงินกู้ภายในหมู่บ้านวังทองริเวอร์ปาร์ค ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยการบุกจับครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คนทราบชื่อนายอธิคม ลงทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174/1 ม.6 ต.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์และนายศักดิ์ชัย กลิ่นพงษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.8 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี อีก 2 คนไม่ทราบชื่อและช่วยเหลือเด็กอายุ 14-18 ปีได้ 16 คนแบ่งเป็นผู้ชาย 10 คนและผู้หญิง 6 คนโดยขังเด็กทั้งหมดไว้ในบ้านเลขที่802/900และ802/906 นอกจากนี้ยังยึดเอกสารของลูกหนี้ไว้ได้อีกจำนวนหนึ่งพร้อมกับสายยางกุญแจมือเหล็กแป๊บ
นางปวีณา เปิดเผยว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา นางศรี (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี อาชีพ ค้าขายอยู่ในจังหวัดปทุมธานี เข้าร้องเรียน มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่คลอง 7 ถนน รังสิต-นครนายก จังหวัดปทุมธานี ว่าลูกชายของตนถูกหลอกไปทำงานเป็นเซลล์เก็บเงินกู้ ไม่ได้รับเงินเดือนแถมถูกทำร้ายร่างกาย และกักขัง
นายว่าน (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกชายของนางศรี (นามสมมุติ) มีเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมาชักชวนให้ไปทำงานเป็นเซลล์เก็บเงินกู้ ที่ทำงานอยู่ย่านรังสิต แต่ละวันต้องออกไปตามสถานที่ต่างๆ โดยขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง เมื่อตกลงเริ่มงานทำสัญญาจะได้เงินเดือน 4,000 บาทโดยมีนายทุนที่ชื่อนายสำเริง ก็จะดูเป็นคนใจดี และมีผู้จัดการชื่อ นายชัย เป็นคนที่คอยดูแลพนักงานทุกคน ในทุกๆ วันจะต้องตื่นนอนก่อน 9 โมงเช้า ถ้าวันไหนใครตื่นสายกว่านั้นก็จะโดนทำโทษโดยใช้สายยางฟาดที่ลำตัวจนเป็นรอยไหม้ และเมื่อวันไหนที่ออกไปเก็บเงินจากลูกหนี้ไม่ได้เมื่อกลับมาแจ้งกับผู้จัดการก็จะส่งคนไปตามเก็บเงินลูกหนี้รายนั้นอีกครั้ง หากไม่ได้ก็จะใช้วิธีการข่มขู่ ทำร้ายร่างกายตลอด
นางปวีณา กล่าวต่อว่าทั้งนี้ทราบเพียงว่ามีนายสำเริง ไม่ทราบนามสกุลเป็นนายทุนใหญ่โดยระหว่างการสอบถามเด็กบางคนยังมีอาการหวาดกลัวอยู่เนื่องจากทางพ่อกับแม่ของเด็กๆ ได้กู้เงินเอาไปใช้และยังไม่มีการคืนเงินต่อแก๊งเงินกู้โหดนี้ จึงควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดไปสวบสวนที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปรามปรามการค้ามนุษย์ส่วนเด็กที่ช่วยเหลือได้นั้นจะนำไปที่มูลนิธิปวีณาเพื่อดูแลต่อไป