สหรัฐฯ ไขปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เผยเป็นพื้นที่ที่อากาศแปรปรวน เลวร้าย ทำให้เรือ-เครื่องบิน ประสบอุบัติเหตุ
เมื่อ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า สำนักงานสภาพอากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ ไขปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เผยเป็นพื้นที่ที่มีสภาพอากาศเลวร้าย ยากต่อการเดินเรือหรือสัญจรผ่าน ไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ต่างดาว ปีศาจท้องทะเล หรือหลุมดำอย่างที่ใคร ๆ เชื่อกันแน่นอน
โดยทางสำนักงานสภาพอากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ ได้อธิบายว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวดามักจะถูกพูดถึงในฐานะพื้นที่ปริศนาสำหรับมนุษย์ แต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานว่าการอันตรธานไปของสิ่งต่าง ๆ นั้นมีสาเหตุมาจากการถูกคลื่นความถี่ประหลาดดูดกลืน เครื่องบินและเรือที่หายไปล้วนแล้วแต่ประสบอุบัติเหตุจากความแปรปรวนรุนแรง ของสภาพอากาศ เฮอริเคน และพายุโซนร้อนที่มักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา นี่คือปัจจัยที่ทำให้พื้นที่นี้อันตรายและเต็มไปด้วยหายนะ ทุกอย่างมีคำอธิบายในเชิงฟิสิกส์ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ไม่ได้เกิดจากมนุษย์ต่างดาวหรือพลังงานปริศนาที่มองไม่เห็น เรื่องลึกลับเกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาที่หลายคนพูดกันมาน่าจะเป็นเพียง เรื่องเล่าหรือตำนานเท่านั้น
"โดย ปกติท้องทะเลเป็นพื้นที่ลึกลับสำหรับมนุษย์อยู่แล้ว ยิ่งมีสภาพอากาศแปรปรวนและทัศนวิสัยเลวร้าย ก็ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่หายนะได้"
เช่นเดียวกับทางด้านกองทัพเรือสหรัฐฯ และหน่วยป้องกันภัยชายฝั่งสหรัฐฯ ก็ไม่ได้ระบุว่าพื้นที่บริเวณที่เรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวดานั้นเป็น พื้นที่ลึกลับต่อการเดินเรือแต่อย่างใด เพราะไม่ได้พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าการสูญหายของเรือและเครื่องบินหลายลำมาจากเรื่องพลังงานลึก ลับ
ทั้งนี้ กิตติศัพท์ของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เริ่มเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 1492 และจากนั้นก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการอันตรธานไปของเรือและเครื่องบินหลายลำ เผยออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดได้รับการอธิบายว่าอันตรธานไปพร้อมกับพลังงานลึกลับ ที่ทำให้การติดต่อทุกอย่างขัดข้อง แต่ก็ยังไม่มีใครหาคำตอบได้ว่าคืออะไร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก americandownunder.com