“ไม่แคร์ แต่แค้น“ วิธีดูว่าใครอันเฟรนด์เราออกจากเฟซบุ๊ก
ถามตัวเองว่าพร้อมไหมที่จะรู้ว่าใครไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราบน เฟซบุ๊กอีกต่อไปแล้ว ถ้าพร้อมและไม่แคร์แต่อยากรู้ว่าใครบ้าง (เพราะไม่ได้สัญญาว่าจะไม่แค้น) ก็อ่านต่อเลยค่ะ
ช่วงสถานการณ์การเมืองร้อนระอุที่แบ่งฝักฝ่ายกันอย่างชัดเจนแบบนี้ หลายๆ คนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองกันบนโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ก็คงจะระแคะระคายกันบ้างแล้วแหละว่าจำนวนเพื่อนบนเฟซบุ๊กของตัวเองลดน้อยถอย ลงอย่างน่าประหลาดใจ หรือไม่ก็เอะใจว่าทำไมเพื่อนที่เรามักจะเห็นเขาโพสต์ภาพเซลฟี่ของตัวเอง บ่อยๆ หายหน้าหายตาไปไหน ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็น่าจะหมายความได้ว่าคุณถูก unfriendออกจากรายชื่อเพื่อนแล้วล่ะ
ความพยายามในการหาข้อมูลว่าใครลบเราออกจากรายชื่อเพื่อนบ้างมีอยู่ตั้งแต่ สมัยแชตกันบน MSN มาแล้ว และก็ไม่ได้หายไปไหนแม้เราจะก้าวเข้ามายืนอยู่บนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก แทน
การจะรู้ได้ว่าใครลบเราออกจากรายชื่อเพื่อนบนเฟซบุ๊กบ้างนั้นวิธีที่สามารถ ทำได้เลยทันทีบนเฟซบุ๊กก็คือ 1. เข้าไปนั่งไล่รายชื่อเพื่อนทีละคนแล้วระลึกเอาว่าใครหายไป และ 2. ตั้งข้อสงสัยก่อนว่าใครหายไป จากนั้นก็เซิร์ชหาชื่อคนนั้นในรายชื่อเพื่อนว่าเจอหรือไม่ ทั้งสองวิธีนี้เป็นวิธีที่ต้องใช้ความพยายามและความช่างสังเกตสังกา รวมถึงต้องใช้เวลาอันมีค่าที่ควรจะเอาไปทำอย่างอื่นได้
ถ้าหากเราตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเราต้องการที่จะรู้ว่าใครไม่ยินดีจะเป็น เพื่อนกับเราบนเฟซบุ๊กอีกต่อไป แนะนำวิธีนี้ดีกว่าค่ะ ลองติดตั้ง extension ฟรีที่สามารถใช้ได้กับเว็บเบราเวอร์ Chrome และ Firefox วิธีติดตั้งก็ง่ายดาย แค่กดเข้าไปลิงค์ตามนี้
สำหรับเว็บเบราเซอร์ Chrome
สำหรับเว็บเบราเซอร์ Firefox
กด Install เพื่อเป็นการติดตั้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วลองเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊กของเรา กดไปที่รายชื่อเพื่อน หรือ Friends จะมีแถบเมนูเพิ่มเข้ามาใหม่ ที่มีชื่อว่า Lost Friends หรือเพื่อนที่หายไป ซึ่งในแถบนี้เองแหละค่ะที่จะคอยบอกเราว่าใคร unfriend เราออกไปแล้วบ้าง แต่ไม่สามารถใช้ย้อนหลังกับเพื่อนที่กดลบเราทิ้งไปก่อนเราจะติดตั้ง extension ตัวนี้นะคะ
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าจะลองติดตั้งเพื่อมาเขียนแนะนำคุณผู้อ่าน ซู่ชิงก็คงจะเลือกที่จะไม่ติดตั้งตั้งแต่แรก เพราะก็ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์อะไรที่จะรู้ว่าใครลบเราออกจากรายชื่อเพื่อน บ้าง เนื่องจากการทำเช่นนั้นก็เป็นการแสดงเจตนารมย์ของเขาให้เห็นชัดเจนแล้วว่า ไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวอัปเดตของชีวิตเราอีกต่อไป หรือไม่อยากให้เขารู้เรื่องราวของเราอีกต่อไป เราก็น่าจะสนองความต้องการนั้นของเขาด้วยการจากตัวตนบนโซเชียลเน็ตเวิร์กของ เขามาอย่างเงียบๆ ไม่ใช่เหรอคะ
ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยกดลบใครนะคะ สำหรับซู่ชิงแล้วสาเหตุที่จะลบใครสักคนออกจากรายชื่อเพื่อนบนเฟซบุ๊กนั้น น้อยมากที่จะเกิดจากความรู้สึกเกลียดขี้หน้า ไม่ชอบ แต่มักจะเป็นเพราะว่าพอเห็นชื่อเขาแล้วรู้สึกว่าไม่รู้จักกันในชีวิตจริง เช็คดูแล้วไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันบนเฟซบุ๊ก เพราะฉะนั้นเราน่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยขาดกันและกันได้ ส่วนในกรณีที่ไม่สนใจหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาโพสต์นั้นถ้าหนักหนามากก็ แค่ hide ออกจากหน้าฟีด หรือไม่ก็เซ็ตค่าความเป็นเพื่อนให้อยู่ที่ acquaintances เพื่อให้ไม่ต้องเห็นโพสต์บ่อยๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตามถ้าคุณผู้อ่านเป็นคนที่เซนส์ซิทีฟกันความสัมพันธ์หรือมิตรภาพกับทุกคนรอบตัว ก่อนจะ unfriend ใครก็อาจจะต้องระวังนิดนึง เพราะ มีผลวิจัยหลายชิ้นที่บ่งชี้ให้เห็นถึงผลกระทบด้านลบที่เกิดขึ้นจากการลบใคร สักคนออกจากรายชื่อเพื่อนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก เช่นผลการศึกษาของนักศึกษาปริญญาเอกท่านหนึ่งจาก University of Colorado ที่พบว่า 40% ของคนที่สำรวจระบุว่าในชีวิตจริงพวกเขาจะหลีกให้ห่างจากคนที่เคย unfriend ตัวเองบนเฟซบุ๊ก และดูเหมือนกับผู้หญิงจะแค้นฝังหุ่นมากกว่าผู้ชายด้วย
ส่วน 4 สาเหตุหลักที่ทำให้คน unfriend กันนั้นก็คือ 1. การโพสต์ที่บ่อยและไร้สาระเกินไป 2. โพสต์เกี่ยวกับการเมืองหรือศาสนาที่เอนเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง 3. โพสต์ที่ไม่เหมาะสมซึ่งโดยมากจะเกี่ยวข้องกับการเหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ และ 4. โพสต์น่าเบื่อ เช่น โพสต์ภาพลูกหรือภาพอาหารรัวๆ
การ unfriend ใครอย่างระมัดระวังเป็นเรื่องที่แนะนำสำหรับคนที่ไม่ต้องการกระทบกระทั่งกับ ใคร แต่อีกผลการวิจัยหนึ่งของ Pew Research Center เขาก็แนะนำว่าในบางครั้งเราก็จำเป็นต้องตัดใจ unfriend ใครบางคนออกจากชีวิตให้ได้ ซึ่งก็คือแฟนเก่าที่เลิกรากันไปและอยากจะลืม นั่นเองค่ะ เพราะลึกๆ แล้วเราก็มักจะเอ็นจอยกับการอยู่กับความชอกช้ำหัวใจเวลาที่ได้เห็นแฟนเก่า โพสต์เกี่ยวกับชีวิตใหม่อันแสนสุขสันต์ที่ปราศจากเรา หรือภาพเขากับแฟนใหม่ที่ดูสวีทเปล่งประกายออร่าจับ ทั้งๆ ที่ตอนอยู่กับเราหน้าตาหม่นหมองราวกับถูกของ
อันนี้แนะนำว่าไม่ต้องคิดเยอะ กดไปเลยปุ่ม unfriend ยิ่งถ้าเขาติดตั้ง extension ที่แนะนำไว้ข้างต้นแล้วด้วยก็ยิ่งดี จะได้รู้กันไปเลยว่าเราตั้งใจจะลืม
ขอบคุณที่มา: www.voicetv.co.th โดย จิตต์สุภา ฉิน VoiceTV Editor