ภาพนี้มีเรื่องเล่า

Kevin Carter
(เควิน คาร์เตอร์)

 

 

คาร์เตอร์เกิดเมื่อ 13 กันยายน 1960 เป็นชาวเมือง โจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) ประเทศแอฟริกาใต้
เขาประสบความสำเร็จในอาชีพช่างภาพให้แก่นิตยสาร Weekend Sports ในช่วงปี 1983
ในปี 1984 เข้าได้เข้าเป็นช่างภาพให้แก่หนังสือ โจฮันเนสเบิร์กสตาร์( Johannesburg Star) ซึ่งนั้นคือจุดเปลี่ยนที่
จะนำเขาสู่สุดยอดความสำเร็จ และจบสุดอนาถของเขา เมื่องานที่เขารับผิดชอบนั้น เกี่ยวกับการถ่ายภาพสงคราม
ความโหดร้ายของการเหยียดสีผิว และชนชาติ คาร์เตอร์เป็นช่างภาพหนุ่มผู้โชกโชนในการภ่ายภาพชีวิต ที่แล้น
แค้น ภาพสงคราม
ทางเดินที่เลือก สู่ความสำเร็จ บนเส้นทางแห่งความตาย
ในเดือนมีนาคม 1993 คาร์เตอร์เดินทางไปยังทางใต้ของซูดาน(Sudan)
เมื่อคาร์เตอร์เดินทางไปถึงบริเวณใกล้ๆ หมู่บ้าน Ayod เขาได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญสั้นๆ อย่างโหยหวน
เขามองหาต้นเสียงโดยทันที และสิ่งที่เขาพบคือ เด็กหญิงวัยหัดเดิน ผอมโซ ผิวดำสนิท สภาพไกล้ตาย
ส่วนพ่อแม่ของเธอเดินนำไปแล้ว เพื่อไปที่ศูนย์ช่วยเหลือเพื่อรับส่วนแบ่งอาหาร เธอหมดแรง หมอบคุดคู้ อันเนื่อง
มาจากความหิวโหย ถัดไปด้านหลัง ใกล้ๆมีอีแร้งตัวใหญ่ยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ
คาร์เตอร์ครุ่นคิดอย่างหนักในใจว่าจะ เลือกที่จะบันทึกภาพนาทีชีวิตนี้ หรือ ช่วยเด็กน้อยนี้โดยทันทีดี คาร์
เตอร์เลือกที่จะบันทึกภาพ เขารอกว่า 20 นาที เพื่อหวังจะได้ภาพขณะนกแร้งกำลังสยายปีก แต่มันกับไม่ยอมทำ
เขาจึงถ่ายภาพนี้ แล้วไล่มันไป
ภาพถ่ายอื้อฉาวนี้ได้ถูกขายให้แก่ เดอะนิวยอร์คไทม์ ( The New York Time) และมันได้รับการตีพิมพ์ลง
ในหนังสือพิมพ์เมื่อ วันที่ 26 มีนาคม 1993
ผู้อ่านนับพันติดต่อเข้ายัง เดอะนิวยอร์คไทม์ เพื่อสอบถามถึงชะตากรรม ของ เด็กหญิงคนนี้ ว่าเธอได้รับ
ความช่วยเหลืออยู่ที่ไหน? เธอมีอาการอย่างไรบ้าง? เนื่องจากใต้ภาพมีเพียงข้อความสั้นว่า
"The girl had enough strength to walk away from the vulture, but that her ultimate fate was
unknown"
"เด็กหญิงผู้อ่อนแรง แม้กระทั้งเดินหนีนกแร้ง แต่ชะตาะชีวิตของเธอยังไม่มีใครทราบจะดำเนินไปอย่างไร"
ซึ่งข้อความนั้นทำให้หลายคนตีความไปต่างๆนานา ว่าคาร์เตอร์ปล่อยให้นกแร้งจิกกินเธอไป หรือ ช่วย
ชีวิตเธอไว้
ในวันที่ 23 พฤษภาคม 1994 เขาได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ ในแขนง ภาพถ่าย(Pulitzer Prize for Feature
Photography) ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย(Columbia University) จากภาพแร้งรอกินเด็ก

 

 

ในวันที่ 27 กรกฏาคม คาร์เตอร์เลือกจะจบชีวิตตัวเองโดยการต่อท่อไอเสีย เข้าสู่รถปิกอัพของเขา เขาเปิด
เพลงฟัง เดินเครื่องรถเพื่อจบชีวิตของตนเอง เขาตายด้วยพิษของ carbon-monoxide โดยทิ้งไว้เพียงกระดาษ และ
ข้อความสั้นๆ ว่า
"I am depressed ... without phone ... money for rent ... money for child support ... money for
debts ... money!!! ... I am haunted by the vivid memories of killings and corpses and anger and
pain ... of starving or wounded children, of trigger-happy madmen, often police, of killer
executioners...I have gone to join Ken if I am that lucky"
" ฉันหดหู่... ไม่มีโทรศัพท์ถึง...ไม่มีเงินสำหรับค่าเช่า...ไม่มีเงินสำหรับเด็กๆ...ไม่มีเงินสำหรับหนี้สินต่างๆ.
..เงิน!!!...ฉันถูกหลอกหลอนจากความทรงจำที่ยังแจ่มจัด จากการฆ่าฟัน จากซากศพ จากความโกรธแค้น และ
ความเจ็บปวด...จากเหยื่อของความอดอยากหิวโหย จากเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ จากพวกบ้าที่มีความสุขจากการ
ลั่นไกปืน จากตำรวจที่ฆ่าคนโดยอ้างกฎหมาย...ฉันจะเดินทางไปพบกับ Ken ถ้าฉันยังโชคดี"
ไม่มีใครรู้ความจริง ว่าเขาช่วยเด็กน้อยนั้น จริงหรือไม่ การจบชีวิตของเขา นั้นเกิดจาก ความเศร้าจากการ
จากไปของ Ken เพื่อนรัก หรือปัญหาทางการเงิน หรือ ดวงวิญญาณแค้นที่ตามหลอกหลอนเขา แต่ที่แน่ๆ เขา
เลือกที่จะหนีปัญหา โดยการจบชีวิตทั้งที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่านี้คือทางออก เขาเพียงได้แต่หวังว่าจะโชคดี ว่าจะหนี
มันพ้น
แต่สำหรับในเมืองไทย คาร์เตอร์เขาคือ ช่างภาพทมิฬ ที่เลือกจะถ่ายภาพและปล่อยให้เด็กถูก อีแร้ง จิก
กินเด็กโดยไม่ช่วยเหลืออะไร เรื่องนี้ไม่รู้ว่าเกิดจาก ความเข้าใจผิด การตีความผิด แปลผิด หรืออะไรก็แล้วแต่ และ
เราก็เชื่อตามที่เขาบอกต่อกันมา
บทความของ wowboom นำเสนออีกแง่มุมหนึ่งว่า เควิน คาร์เตอร์ เลือกจะเป็น "มนุษย์" โดยการช่วยหนู
น้อย จากนกแร้ง (ถึงจะถูกความโลภครอบไปครู่หนึ่งก็ตาม)
การที่เราจะตัดสินว่าใครสักคนนึงนั้นเป็นอย่างไรคงเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ เพราะแต่ละคน
ย่อมมีเหตุผลและปัจจัยอีกมากมายที่อาจบังคับให้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับการเป็นช่างภาพข่าว ที่
อาจต้องเลือกระหว่างการกดชัตเตอร์ กับการช่วยชีวิตใครสักคน.. ถ้าเราเลือกที่จะต้องเสียใครสักคนไปเพื่อนำ
ภาพไปตีแผ่สู่สังคมเพื่อนำเอาความช่วยเหลือมาช่วยบุคคลที่ยังเหลืออยู่ กับการเอาตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ
เกมส์สงครามเพื่อช่วยเหลือเฉพาะหน้าให้กับคนที่เราได้พบเจอ สิ่งไหนจะดี หรือมีค่ามากกว่ากัน ?

 

 

Credit: http://www.photoartcmu.com/sites/default/files/Kevin%20Carter.pdf
7 ก.พ. 57 เวลา 11:04 3,507 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...