เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านตลิ่งชัน หมู่ที่ 5ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ว่ามีเสือโคร่งออกอาละวาดทำร้ายวัวจนได้รับบาดเจ็บหลายตัวจึงลงพื้นที่เพิ่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้ไปพบกับ นางแพรวพันธุ์ ศรีสันเทียะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมกับวัวที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกเสือโคร่งล่าอยู่ภายในบริเวณบ้านอีก 1 ตัวชื่อ เจ้าโอเล่ อายุ 10 ปี เพศเมีย มีร่องรอยถูกเสือตะบบเข้าที่ขาหลังด้านซ้ายและสะบักขาหลังด้ายซ้าย เดินกระเพลกๆ หากินหญ้าอยู่กับฝูงอีกกว่า 10 ตัว
โดย นาแพรวพันธุ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนเองและสามี ต้อนฝูงวัวและควายที่มีอยู่รวม 97 ตัว ออกไปหากินนอกพื้นที่เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งทำให้แหล่งอาหารขาดแคลน จึงต้อนฝูงวัว-ควาย ออกไปหากินบริเวณป่าหนองไม้แดงเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่ที่เคยพาฝูงวัว– ควาย ไปหากินยามช่วงหน้าแล้งเป็นประจำ เพราะเป็นฝูงใหญ่ทำให้ไม่มีแหล่งอาหารเพียงพอ
ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าว เป็นอดีตที่ตั้งของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในอดีตมีสถานที่พักฝูงวัว พอได้ตั้งแคมป์กลางคืนและก็เป็นสถานที่ที่เคยต้อนวัวเข้าออกมาตั้งแต่ปี 2533 จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ฝูงวัวควายเกิดมีอาการตื่นตกใจ และร้องลั่นตนเองและสามีก็คิดว่าน่าจะมีสัตว์ร้ายเข้ามา จึงวิ่งหนีปีนขึ้นไปอยู่บนต้นไม้และส่องไฟฉายไปรอบ ๆ กระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงเหตุการณ์จึงสงบ พอลงมาตรวจสอบพบว่า วัวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บถึง 3 ตัว ในจำนวนนี้อาการสาหัส 1 ตัว
หลังเกิดเหตุในช่วงเช้าวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนเองและสามีก็เดินสำรวจรอบ ๆ พื้นที่ ก็พบรอยเท้าเสือขนาดใหญ่ วัดได้ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงนำวัวที่บาดสาหัสซึ่งท้องแก่ใกล้คลอดกลับมาบ้านก่อน พร้อมกับแจ้งผู้นำหมู่บ้าน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยแจ้งข่าวเตือนไม่ให้คนในพื้นที่เข้าไปบริเวณดังกล่าว เพราะอาจจะถูกเสือทำร้ายได้ ส่วนวัวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ถูกเสือกัดเข้าที่ลำคอและข่วนเข้าที่แผ่นหลังเป็นแผลเหวอะหวะ จึงจำเป็นต้องขายให้โรงเชือดไป เพราะไม่อยากให้วัวต้องทนทรมาน ก่อนที่จะกลับเข้าไปนป่าจุดที่ฝูงวัวอยู่และค้างคืนอีก 1 คืน เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นซ้ำอีก และมีลูกวัวอายุ 7 เดือน หายไป 1 ตัวตัวเองและสามีจึงตัดสินใจทยอยต้อนวัวกลับมาเลี้ยงที่บ้านส่วนหนึ่งเพราะกลัวจะเกิดเหตุซ้ำอีก
นางแพรวพันธุ์ กล่าวอีกว่าตั้งแต่นำฝูงวัว-ควายหนีแล้งเข้าไปหากินตามแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานมาตั้งแต่ปี2533 ก็ไม่เคยพบเสือเลยสักครั้ง จะพบก็เพียงฝูงกระทิงและช้างเท่านั้นแต่ปีนี้ต้องมาเผชิญหน้ากับเสือ จึงรู้สึกหวาดกลัวมาก
อย่างไรก็ตาม นายลอย คบทองหลาง ผช.ผู้ใหญ่บ้านตลิ่งชัน หมู่ที่ 5 ได้รายงานไปยัง นายโสภณ ห่วงญาติ นอภ.ครบุรี ซึ่งนำทีมลงไปสำรวจพื้นที่ในภายหลัง โดยนายอำเภอครบุรี ได้สั่งการให้ทางกำนันผู้ใหญ่บ้านนพื้นที่ประกาศแจ้งเตือนประชาชนห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปเลี้ยงในเขตป่าอุทยานแห่งชาติทับลานอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ และอาจจะเกิดอันตรายได้ พร้อมกับได้ประสานไปยังทางปศุสัตว์อำเภอ ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการรักษาวัวของชาวบ้านที่ถูกเสือทำร้าย ซึ่งขณะนี้ทางผู้นำชุมชนเตรียมที่จะทำป้านแจ้งเตือนไปติดตั้งบริเวณชายป่าแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานแล้ว